คอลัมนิสต์

เศรษฐาป่วน ‘ปานปรีย์’ ไม่ยึดติด ‘ทักษิณ’ ทิ้งเก้าอี้เพื่อศักดิ์ศรีอีลิท

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เพื่อไทยป่วน ปานปรีย์ โชว์สปิริตผู้ดีเก่า เขย่ารัฐบาลเศรษฐา สัมพันธ์ทักษิณเหมือนนายกับลูกน้อง จับตาอดีตทูตมาริษ รมว.ต่างประเทศ

แผ่นดินไหวชินวัตร ปานปรีย์ โชว์สปิริตผู้ดีเก่า เขย่ารัฐบาลเศรษฐา 2 ศรัทธาน้าชาติ สัมพันธ์ทักษิณ-พจมาน เหมือนนายกับลูกน้อง


จับตา อดีตทูตปู-มาริษ เสงี่ยมพงษ์ อดีตที่ปรึกษาปานปรีย์ เต็งหนึ่ง รมว.ต่างประเทศคนใหม่ สายตรงบ้านจันทร์ส่องหล้า 


วันที่ 29 เม.ย. 2567 เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังมีการโปรดเกล้าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ และชี้แจงกรณีการลาออกจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศของ ปานปรีย์ พหิทธานุกร หลังถูกปรับพ้นจากรองนายกรัฐมนตรี ว่า ได้ติดต่อขอโทษอดีตรองนายกฯปานปรีย์ว่า 

“ผมก็บอกว่าผมขอโทษ ถ้าเกิดผมทำให้พี่ไม่สบายใจเรื่องอะไร ก็ขอ ขอบคุณที่ช่วยงานกันมา” 


นายกฯเศรษฐากล่าวว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนได้เชิญปานปรีย์มาพูดคุย เป็นการสนทนาระหว่างบุคคล 2 คน 


“ผมมั่นใจว่าผมพูดอะไรไป ผมเชื่อว่าในฐานะนายกรัฐมนตรี ผมมีความชัดเจนในเรื่องของการที่ผมบอกกล่าวอะไรไป” 


เบื้องต้น นายกฯเศรษฐา ได้มอบให้ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐ มนตรี และ รมว.พาณิชย์ ดูแลงานกระทรวงต่างประเทศ ก่อนที่จะมีการแต่งตั้ง รมว.ต่างประเทศคนใหม่
 

วิถีอีลิท-ลัทธิเต๋า
มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย กรณี ดร.ตั๊ก-ปานปรีย์ พหิทธานุกร ตัดสินใจลาออกจาก รมว.ต่างประเทศ หลังการปรับ ครม.เศรษฐา 2


นายกฯเศรษฐา ได้ยึดคืนรองนายกรัฐมนตรี และให้ ดร.ตั๊ก เป็น รมว.ต่างประเทศ ตำแหน่งเดียว


ดร.ตั๊ก ได้ชี้แจงถึงเหตุผลการลาออกอย่างตรงไปตรงมาว่า ไม่พอใจที่ไม่เป็นรองนายกฯ ควบ รมว.ต่างประเทศ เพราะนี่คือหลักการ 


ช่วงต้นปี 2566 ดร.ตั๊ก ให้สัมภาษณ์สื่อเครือเนชั่น เกี่ยวกับการตัดสินใจกลับมาช่วยงานพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง


“ชีวิตผมตอนนี้พอแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องดิ้นรน เพื่อเป็นอะไรบางอย่าง...ผมเป็นคนไม่เรียกร้อง ผมเป็นคนง่ายๆ แบบเต๋า มีความเชื่อในธรรมชาติ”


ลึกๆ การตัดสินใจลาออกจาก รมว.ต่างประเทศ อาจมาจากความเชื่อในลัทธิเต๋าก็ได้ ไม่ยึดติด 


อีกมุมหนึ่ง ปานปรีย์ เติบโตมาจากสังคมผู้ดีเก่า หรือชนชั้นอีลิทไทย ซึ่งครอบครัวของ ดร.ตั๊ก เป็นข้าราชการ มีคุณปู่(พระพหิทธานุกร) เคยเป็นปลัดกระทรวงต่างประเทศ และเป็นทูตในหลายประเทศ ส่วนคุณพ่อ(ปรีชา พหิทธานุกร) สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่สวิตเซอร์ แลนด์ ก่อนกลับมาทำงานในกระทรวงต่างประเทศ


สมัย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 17 ปานปรีย์ ก็ถูกดึงไปช่วยงานบนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล 


สำหรับ พล.อ.ชาติชาย มีฐานะเป็นเจ้านาย ยังมีศักดิ์เป็นตาของภรรยาของปานปรีย์ (ปวีณา พหิทธานุกร) 


“ผมมาเป็นหลานเขย ภรรยาผมเหมือนลูกท่าน ท่านเลี้ยงดูส่งเสียให้เรียนจนจบปริญญาตรี” ปานปรีย์เล่าความหลัง


สื่อส่วนใหญ่มองว่า ปานปรีย์ได้ชื่อว่าเป็นสายตรงบ้านจันทร์ส่องหล้าทำงานใกล้ชิดทักษิณ-พจมาน มาตั้งแต่ไทยรักไทย, พลังประชาชนและเพื่อไทย


เมื่อปี 2554 ปานปรีย์ เปิดใจกับไทยรัฐออนไลน์ เกี่ยวกับประเด็นความสนิทสนมกับคนบ้านจันทร์ส่องหล้า ว่า “เมื่อทำงานเสร็จแล้วก็จบ ผมกับคุณทักษิณ สถานะเหมือนเจ้านายกับลูกน้อง แล้วคุณหญิงพจมานเป็นภรรยาเจ้านาย เมื่อเจอเราก็ต้องแสดงความปรารถนาดี นอกจาก นั้นไม่มีอะไร”


ดร.ตั๊ก เปรียบตัวเองเป็นมืออาชีพ ไม่ได้มีความผูกพันลึกซึ้ง ทักษิณ-พจมานก็เหมือนเจ้านายคนหนึ่งเท่านั้น 

 

ดร.ตั๊ก ปานปรีย์ ผู้สร้างความปั่นป่วนให้รัฐบาลเศรษฐา

 

ว่าที่รัฐมนตรีใหม่
ใครจะมาเป็น รมว.ต่างประเทศ แทนปานปรีย์ นายกฯ เศรษฐา ให้สัมภาษณ์ว่า “คนที่มาแทนท่านอยู่ในแวดวงของการทูต แวดวงการเมืองมา เป็นคนที่ทำงานข้างหลังของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด”


มีรายงานว่า บุคคลที่เป็นเต็งหนึ่งเจ้ากระทรวงบัวแก้วคือ “อดีตทูตปู”มาริษ เสงี่ยมพงษ์ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีต่างประเทศ (ปานปรีย์) 


มาริษ เคยรับราชการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงการทูต และที่เคยดำรงตำแหน่งสำคัญมากมาย


สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้แต่งตั้งมาริษ เป็นเอกอัครราชทูตฯ สาธารณรัฐวานูอาตู นอกจากนี้ มาริษยังถูกมองว่า มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทักษิณ ตั้งแต่สมัยที่ดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ