ทำความรู้จัก "หลวงพ่อแป๊ะ" เกจิอาจารย์ แห่ง วัดสว่างอารมณ์ นครปฐม
เปิดประวัติ "หลวงพ่อแป๊ะ" แห่ง วัดสว่างอารมณ์ (แคแถว) เมืองนครชัยศรี นครปฐม พระนักพัฒนา ช่วยสังคม พร้อมเมตตาญาติโยมเสริมกำลังใจด้วยพุทธาคม
วัดสว่างอารมณ์ (แควแถว) ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ในช่วงเวลาหนึ่ง เคยเป็นอารามที่ร้าง ไร้การดูแล จนการมาถึงของพระภิกษุรูปหนึ่ง ที่ได้รับหน้าที่ ให้มาบูรณะดูแลวัดแห่งนี้ ให้กลับมาเป็นวัด เป็นศาสนสถานที่เป็นศูนย์รวมจิตใจ ของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ ให้มีที่พึ่ง ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และให้สมกับความเป็นสถานที่ที่พักของภิกษุสงฆ์ ซึ่งเมื่อมีภิกษุมาจำพรรษา วัดแห่งนี้ ก็ค่อย ๆ กลับมามีชีวิตชีวา และมีจิตวิญญาณ
ภิกษุรูปนั้น คือ หลวงพ่อแป๊ะ ธัมมทินโน
สำหรับประวัติของ พระครูยติธรรมานุยุต หรือ "หลวงพ่อแป๊ะ" ธัมมทินโน เจ้าอาวาส วัดสว่างอารมณ์ (วัดแคแถว) ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มีนามเดิมว่า สมทรง เดชจินดา เกิดเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2501 เป็นชาวนครชัยศรีโดยกำเนิด ที่บ้านปากกะท่า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม บิดา-มารดา ชื่อ นายไล้ และนางแจ๋ว เดชจินดา ครอบครัวมีพี่น้อง 4 คน เป็นชายล้วน ท่านเป็นบุตรคนที่ 3
นับแต่วัยเด็ก ท่านได้อยู่ในครอบครัวที่ใฝ่ทางธรรม เนื่องจากบิดาผ่านการบวชเรียนมาก่อน ในวัยเด็ก ศึกษาชั้นประถมที่ โรงเรียนสันทัดวิทยา ต.งิ้วราย อ.นครชัยศรี จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 อายุ 19 ปี บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดตุ๊กตา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มีพระครูวิบูลย์สิริธรรม หรือ หลวงพ่อเพี้ยน เป็นพระอุปัชฌาย์ จนเมื่อ หลวงพ่อแป๊ะ มีอายุ 22 ปี จึงได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทสีมา วัดตุ๊กตา มีพระครูวิบูลย์สิริธรรม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เจือ ปิยสีโล วัดกลางบางแก้ว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ทองดำ วัดตุ๊กตา เป็นพระอนุสาวนาจารย์
เมื่ออุปสมบทแล้วนั้น "หลวงพ่อแป๊ะ" ในสมัยเป็นพระนวกะ ท่านได้เริ่มศึกษาวิทยาคมอักขระเลขยันต์ตามตำราของ วัดตุ๊กตา และวัดกลางบางแก้ว ตามตำราหลวงปู่บุญ, หลวงพ่อเพิ่ม มีพระอาจารย์เจือ ปิยสีโล เป็นผู้ถ่ายทอดวิชาอักขระเลขยันต์ให้ นอกจากนี้ ยังมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในอดีตแห่ง นครปฐมหลายรูป ถ่ายทอดวิชาอาคมให้
ต่อมากราบลาพระอุปัชฌาย์ ออกเดินธุดงค์ลงภาคใต้ มีโอกาสศึกษาวิชาจากหลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย จ.ชุมพร และยังได้เรียนวิชากับพระเกจิอาจารย์สายใต้อีกหลายรูปในยุคนั้น อาทิ หลวงพ่อเขียว วัดหรงบน, หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง, พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา เป็นต้น
เมื่อเดินทางกลับมาสู่ภาคกลางนั้นได้ฝากตัวเป็นศิษย์ ศึกษาเพิ่มเติมกับ พ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี, หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์ วิเวการาม จ.กาญจนบุรี และหลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง จ.นครปฐม ต่อมาฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงพ่อฟู อติภัทโท วัดบางสมัคร จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเมตตามอบตำราพระคาถาให้ศึกษาอีกด้วย
และอย่างที่เรียนไว้ข้างต้น ในอดีต วัดสว่างอารมณ์ เป็นวัดร้าง พระครูวิบูลย์สิริธรรม เจ้าคณะตำบลขุนแก้ว มอบหมายให้ "หลวงพ่อแป๊ะ" ไปรักษาการเจ้าอาวาสวัด ด้วยแรงศรัทธา จึงชักชวนชาวบ้านในชุมชนช่วยกันบูรณะสร้างศาลา สร้างโบสถ์ กระทั่งชาวบ้านรวมตัวขอให้คณะสงฆ์จังหวัดแต่งตั้งให้ท่านเป็นเจ้าอาวาส วัดสว่างอารมณ์
นอกจากนี้ "หลวงพ่อแป๊ะ" ยังให้การช่วยเหลือชุมชนและสังคมด้านต่างๆ ทำให้มีลูกศิษย์ให้ความศรัทธาทั่วประเทศ เช่น มอบทุนการศึกษา ให้แก่บุตรธิดาในโรงเรียนต่างๆ และสงเคราะห์การกุศลต่างๆ เช่น มูลนิธิ โรงเรียน โรงพยาบาล วัดวาอารามต่างๆ รวมทั้งในช่วงเวลานี้ ยังมีการแจกอาหารให้กับชุมชนใกล้เคียงกับวัดอีกด้วย