ประกันสังคมมาตรา 40 ได้สิทธิประโยชน์คุ้มครองอะไรบ้าง
หลังจากที่ ครม. เคาะมาตราการเยียวยา ประกันสังคมมาตรา 40 ในพื้นที่ "สีแดงเข้ม" รวม 13 จังหวัด ใน 9 กลุ่มอาชีพ ทั้งนี้ ได้ครอบคลุมถึง "ผู้ประกอบอาชีพอิสระ" ที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศล็อคดาวน์ เพื่อควบคุมสถานการณ์การระบาด "โควิด-19"
สำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ จะต้องสมัครเป็น ผู้ประกันตนมาตรา 40 ในกองทุนประกันสังคม ภายในวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 จึงจะไดัรับสิทธิเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท
การจ่ายเงินสมทบมาตรา 40 แบบใหม่ มี 3 ทางเลือก ดังนี้
- ทางเลือกที่ 1: จ่าย 42 บาทต่อเดือน จากเดิม 70 บาท
- ทางเลือกที่ 2: จ่าย 60 บาทต่อเดือน จากเดิม 100 บาท
- ทางเลือกที่ 3: จ่าย 180 บาทต่อเดือน จากเดิม 300 บาท
ทั้งนี้ สำนักงานประสังคม ได้ลดเงินสมทบ ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เหลือร้อยละ 60 ของเงินสมทบเดิม เป็นระยะเวลา 6 เดือนตั้งวันที่ 1 สิงหาคม 2564 – 31 มกราคม 2565
ผู้ประกันมาตรา 40 ได้สิทธิคุ้มครอง ดังนี้
- ทางเลือก 1 : เจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต
- ทางเลือก 2 : เจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต ชราภาพ
- ทางเลือก 3 : เจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต ชราภาพ สงเคราะห์บุตร
ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้วันละ 200 บาท ไม่เกิน 30 วัน/ปี
- การรักษาพยาบาลใช้สิทธิ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) หรือบัตรทอง 30 บาท นั่นหมายความว่า ผู้ประกันตนมาตรา 40 จะใช้สิทธิบัตรทองได้เหมือนเดิม เพียงแต่มีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เพิ่มขึ้นเท่านั้น
เงื่อนไขการรับสิทธิ กรณีประสบอันตราย/เจ็บป่วย
- ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบครบ 3 เดือน ภายใน 4 เดือน ก่อนประสบอันตราย/เจ็บป่วย
- รักษาตัวในโรงพยาบาลตั้งแต่ 1 วันขึ้นไป จะได้รับสิทธิวันละ 200 บาท ไม่เกิน 30 วันต่อปี
กรณีทุพพลภาพ
- ได้รับเงินทดแทนการขาดได้ตั้งแต่ 500–1,000 บาท/เดือน เป็นระยะเวลา 15 ปี
- เสียชีวิตก่อนครบ 15 ปี รับเงินค่าทำศพ 20,000 บาท
เงื่อนไขในการรับสิทธิ กรณีทุพพลภาพ
- จ่ายเงินสมทบอย่างน้อย 6 เดือน ภายในระยะเวลา 10 เดือนก่อนทุพพลภาพ รับ 500 บาทต่อเดือน
- จ่ายเงินสมทบอย่างน้อย 12 เดือน ภายในระยะเวลา 20 เดือนก่อนทุพพลภาพ รับ 650 บาทต่อเดือน
- จ่ายเงินสมทบอย่างน้อย 24 เดือน ภายในระยะเวลา 40 เดือนก่อนทุพพลภาพ รับ 800 บาทต่อเดือน
- จ่ายเงินสมทบอย่างน้อย 36 เดือน ภายในระยะเวลา 60 เดือนก่อนทุพพลภาพ รับ 1,000 บาทต่อเดือน
กรณีชราภาพ (รับเงินบำเหน็จ)
- ได้เงินบำเหน็จพร้อมผลตอบแทน (ดอกเบี้ย) คืนทั้งหมด
เงื่อนไขการรับสิทธิ กรณีชราภาพ
- เมื่อผู้ประกันตนมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และแจ้งสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน หรือลาออก
- ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบสามารถจ่ายเงินสมทบเพิ่มได้ไม่เกิน 1,000 บาท/เดือน
กรณีชราภาพ (รับเงินบำนาญ)
- ได้รับบำนาญรายเดือนขึ้นต่ำ 600 บาท/เดือน ตลอดจนเสียชีวิต
- กรณีจ่ายเงินสมทบไม่ถึงหลักเกณฑ์ที่จะรับเงินบำนาญ (ขั้นต่ำ) จะได้รับเงินบำเหน็จพร้อมผลตอบแทน (ดอกเบี้ย) คืนทั้งหมด
- ได้รับบำนาญแล้วเสียชีวิตภายใน 60 เดือน ทายาทได้รับเงินบำเหน็จ 10 เท่าของเงินบำนาญรายเดือน
- กรณีทุพพลภาพก่อนได้รับบำนาญ จะมีสิทธิขอรับบำเหน็จพร้อมผลตอบแทน (ดอกเบี้ย) คืน
เงื่อนไขการรับสิทธิ
- ผู้ประกันตนจะต้องจ่ายเงินสมทบครบหลักเกณฑ์ที่จะรับเงินบำนาญ (ขั้นต่ำ) หรือจ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 420 เดือน (35 ปี)
- ผู้ประกันตนจะต้องมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน หรือลาออก
- ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบสามารถจ่ายเงินสมทบเพิ่มได้ไม่เกิน 1,000 บาท/เดือน
- ผู้ประกันตนสามารถจ่ายเงินสมทบย้อนหลังได้ไม่เกินเดือน พฤษภาคม 2555
เงินสงเคราะห์บุตร
ในกรณีเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 จะมีสิทธิ์ได้รับเงินสงเคราะห์บุตรรายเดือน ตั้งแต่บุตรแรกเกิดจนอายุ 6 ปีบริบูรณ์ คนละ 200 บาท คราวละไม่เกิน 2 คน ทั้งนี้ผู้ประกันตนจะต้องจ่ายเงินสมทบตามที่ประกันสังคมกำหนดด้วย
วิธีการสมัครประกันสังคมมาตรา 40
- ช่องทางแรกสมัครผ่านเว็บไซต์ประกันสังคม
ไม่ต้องเดินทางไปที่สำนักงานประกันสังคม วิธีสมัคร "ประกันสังคม" มาตรา 40 ผ่านเว็บไซต์ประกันสังคม คลิก www.sso.go.th
- ช่องทางการสมัครอื่นๆ
นอกจากจะสมัครผ่านเว็บไซต์ประกันสังคมได้แล้ว สำหรับคนที่ไม่สะดวกสมัครผ่านเว็บไซต์ สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้ในช่องทางอื่นๆ ดังต่อไปนี้
1. สมัครด้วยตนเองที่สำนักงานประกันสังคมในพื้นที่
2. สายด่วนประกันสังคม หมายเลข 1506
3. เซเว่น-อีเลฟเว่น ทุกสาขา
4. ธนาคาร ธกส. ทุกสาขา
5. Big c ซุปเปอร์เซ็นเตอร์
6. เครือข่ายประกันสังคมทั่วประเทศ