เตรียมพบ "ปลัดจ่าง" เจ้าพ่อเขาใหญ่ ผู้ทวงคืนผืนป่าเขาใหญ่จากโจรป่าสำเร็จ

 

จากเรื่องราวตำนานที่กล่าวขานถึงวีรกรรมอันสาคัญต่อป่าไม้เมืองไทย ท่านได้ถูกจัดตั้งศาลเพียงตาเจ้าพ่อเขาใหญ่ในยุคของ จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ให้ได้กราบไหว้บูชา และเป็นที่เคารพต่อผู้คนทั่วไปและเจ้าหน้าที่เขาใหญ่อย่างมาก

 

 

 

 

ด้วยแรงศรัทธาอย่างมหาศาลของทีมผู้สร้างภาพยนตร์ ได้มีแนวคิดที่จะสร้างภาพยนตร์สารคดี ชีวประวัติของปลัดจ่าง นิสัยสัตย์ จาก Based on true story ในชื่อ เรื่องเจ้าพ่อเขาใหญ่ มีชื่อภาษาอังกฤษ The Impossible ความยาว 120 นาที 

 

โดยมีเรื่องย่อ ของช่วงชีวิตของปลัดจ่าง ในช่วงวัยเกษียณอายุ 65 ปี ต้องได้รับหน้าที่ให้ขับไล่โจรป่าเพียงลำพัง เพื่อทวงคืนผืนป่าคืนสู่ประชาชนและประเทศชาติในช่วงสุดท้ายของชีวิตอย่างยากลำบากและเสียสละอย่างยิ่ง 

 

โดยมีนักแสดงรุ่นใหญ่ ที่ฝีมือการแสดงระดับพระกาฬ คือพี่สต๊อป สหัสชัย ชุมรุม เป็นปลัดจ่าง และ แบงค์ ปวริศร์มงคลพิสิฐ นักร้องนักแสดงที่กำลังโด่งดังในเมืองจีนในเวลานี้ เล่นเป็นเสือสำอางค์ เป็นคู่ปรับคนสำคัญในการชิงผืนป่าเขาใหญ่แห่งนี้

 

 

 

 

หากฟังจากเนื้อเรื่อง หลายคนอาจคิดว่าเป็นหนังแอคชั่นดุเดือดอย่างแน่นอน แต่ทีมผู้สร้างและทีมเขียนภาพยนตร์พยายามจะถ่ายทอดถึงมุมของตัวละครปลัดจ่างในช่วงเวลาที่อายุมากแล้ว ต้องชิงไหวชิงพริบเพื่อปราบโจรป่านิสัยโหดร้าย ที่มีความสามารถและมีกองกำลังจำนวนมากด้วยตัวเองเพียงลำพัง โดยใช้ความเก๋าและประสบการณ์ในป่าเขาใหญ่ เพื่อหาจุดไดเ้ปรียบโจรอย่างทุลักทุเล ให้คนดูได้ลุ้นตามมากกว่า

 

โดยมีผู้กำกับใหม่ไฟแรงและร่วมพัฒนาเขียนบทเอง โดยแบ้งค์ ภาคิณ สุขขี โดยมีผลงานโดด เด่นในการจัดทำสารคดีโทรทัศน์การเอาตัวรอดในป่า ทางช่องไทยพีบีเอส และทำงานสารคดีภาพยนตร์สั้นเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้มาแล้วอย่างมากมาย จึงเข้าใจเรื่องของป่าเป็นอย่างดี

 

และมั่นใจได้ว่า ภาพยนตรเ์รื่องแรกนี้จะประสบความสำเร็จได้จากความถนัดของการเล่าเรื่องแนวสารคดีมุมภาพในป่าที่คุ้นเคย เพียงแค่ต้องทุ่มเทความสำคัญ และต้องใส่ใจบทตัวละครหลักทั้ง 2 คน เพื่อถ่ายทอดออกมาให้ลึกซึ้งที่สุดและครบถ้วน เพื่อให้คนดูเข้าใจถึงความสำคัญของการเสียสละเพื่อป่าเขาใหญ่แห่งนี้ให้ได้

 

ภาพยนตรเ์รื่อง เจ้าพ่อเขาใหญ่ (The Impossible) มีแผนการถ่ายทำภาพยนตร์ ภายในปี พ.ศ. 2565-2566 ในพื้นที่เขาใหญ่จริงๆ ให้เสร็จสิ้นด้วยทุนสร้าง 20 ล้านบาท ดูแลการผลิตภาพยนตร์โดยบริษัทภาคิณมีเดียแอนด์วิชั่น จำกัด และมีแผนนำไปฉายผ่านเทศกาล Film Festival ทั่วโลกและในประเทศไทย เพื่อจุดประสงค์ในการกระตุ้นให้เกิดการอนุรักษ์ทรัพยากรผืนป่าของไทยต่อไป