"หมอพรทิพย์" หวั่น เก็บเรือสปีดโบ๊ท วัตถุพยานสำคัญ ไว้แบบนี้? จะส่งผลกับคดี
"หมอพรทิพย์" ลงพื้นที่ ตรวจเรือสปีดโบ๊ท "คดีแตงโม" ไม่พบสาเหตุของบาดแผล ที่เป็นลักษณะคล้ายก้างปลาได้ ส่วนการเก็บเรือ ที่วัตถุพยานสำคัญ ไว้กลางแจ้ง อาจส่งผลให้วัตถุพยานเปลี่ยนแปลง และอาจส่งผลกระทบกับคดีในชั้นศาล
จากกรณีที่ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ตรวจสอบเรือสปีดโบ๊ทลำเกิดเหตุ "แตงโม นิดา" พลัดตกเรือเสียชีวิต กลางแม่น้ำเจ้าพระยา โดยหมอพรทิพย์ ได้นำกล้อง DSLR มาถ่ายรูปเรือสปีดโบ๊ทด้วยตนเอง โดยเฉพาะช่วงท้ายเรือเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน
พร้อมเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น จากประสบการณ์ ยังไม่พบสิ่งที่จะอธิบายสาเหตุของบาดแผล ที่เป็นลักษณะคล้ายก้างปลาได้ ส่วนการจำลองเหตุการณ์ของตำรวจที่ใช้เนื้อหมูทดสอบหาที่มาของบาดแผลจะใช้ได้ผลหรือไม่ ตนขอไม่ตอบ เพราะไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง
ส่วนตัวมีข้อเสนอ อยากให้มีการเก็บเรือ ซึ่งเป็นวัตถุพยานสำคัญให้เหมาะสมกว่านี้ เพราะการเก็บไว้กลางแจ้ง เมื่อฝนตก อาจจะส่งผลให้วัตถุพยานเปลี่ยนแปลงไปได้ และการกั้นเชือกเพียงเท่านี้ ก็ไม่เพียงพอ ซึ่งตามหลักแล้ว การเก็บรักษาวัตถุพยาน คือต้องไม่ให้ถูกทำลายและไม่ให้ถูกปนเปื้อน อาจส่งผลกระทบกับคดีในชั้นศาล เมื่ออัยการมีข้อสงสัย สั่งให้ตรวจสอบวัตถุพยานอีกครั้ง จะแน่ใจได้อย่างไร ส่วนเรื่องการสลับเรือ คิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะตำรวจมีการอายัดเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
และนอกจากนี้ "หมอพรทิพย์" ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "จากการติดตามประธานกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนไปพบตำรวจเพื่อขอดูเรือ ก็ได้เห็นประเด็นสำคัญที่คงต้องรีบปฎิรูปนิติวิทยาศาสตร์ เรือเป็นทั้งสถานที่เกิดเหตุเป็นทั้งวัตถุพยาน แต่ไม่เหลือลักษณะสำคัญของนิติวิทยาศาสตร์ สำหรับกระบวนการยุติธรรม คือ Chain of Custody คดีนี้ดูไม่น่าเป็นเรื่องใหญ่ แต่สังคมสงสัยทุกอย่างที่เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการ หากอัยการสั่งตรวจสอบเพิ่ม จะมีความน่าเชื่อถือเช่นไร ทั้งนี้สถานที่เกิดเหตุทั้งวัตถุพยานจะต้องไม่ถูกเปลี่ยนแปลงสภาพ ไม่เสื่อมสภาพ เราเองจึงไม่ได้มุดเข้าไปดู เพราะเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง พ.ร.บ.ตำรวจที่กำลังจะผ่านสภาในอีกไม่นาน มีแต่เรื่องอำนาจในองค์กร ไม่มีเรื่องนี้ ส่วนเรื่องการปฏิรูประบบสอบสวน ให้อัยการมีส่วนร่วม ในพ.ร.บ.สอบสวนคดีอาญา ก็ล่มสลายไปแล้ว ยามนี้ไม่มีหน่วยงานใด ที่ออกมาทักท้วงเลย ฤาประเทศไทยต้องรอกฎแห่งกรรมทำงาน กรรมตามสนอง ทั้งผู้กระทำและผู้ละเว้นการกระทำ เหลือเวลารัฐบาลนี้อีกไม่นาน จะมีความหวังกี่เปอร์เซนต์"