‘จันจิ’ ได้บทเรียนครั้งใหญ่ ต่อไปไม่เปิดแฟลชในคอนเสิร์ต หน้าดำก็จะลงเลย

ซึ่งก่อนหน้านี้ จันจิ จันจิรา ทั้งโพสต์ขอโทษ และไลฟ์ขอโทษทั้งน้ำตาไปแล้ว น้อมรับความผิดทั้งหมด แม้คนต้นคลิปที่ถูกแฉว่าเปิดแฟลชจะไม่ใช่ตัวเองก็ตาม ล่าสุด จันจิ มาออกงานแถลงข่าวโครงการรณรงค์ป้องกันไข้เลือดออก โดยซอฟเฟล ที่ Patta Cup Cafe  ก็ต้องขอถามถึงเรื่องนี้อีกครั้ง

 

“ยอมรับ การกระทำอาจจะไม่มีมารยาทในตอนนั้น ก็มีคนตักเตือน เหตุเกิดจากต้นคลิปที่มีคนเปิดแฟลชแล้วมีคนสะกิด อันนั้นไม่ใช่จันจิ  เพราะถ้ามีคนมาสะกิด จันจิจะหยุดแน่นอน การกระทำของจันจิก็ไม่ถูกต้องจริงๆ ก็ถือว่าถ้าใครไปคอนเสิร์ตจะเปิดแฟลชทำคอนเทนต์ก็ระวังในเรื่องนี้ด้วย”

 

 

จริงๆเวลาไปคอนเสิร์ตก็มีการเปิดแฟลช แต่เราไม่คิดว่าจะไปกวนเค้า ด้วยสแตนที่จันจินั่ง หัวจันจิอยู่ที่หัวเข่าของคนด้านบน จันจิเลยคิดว่าไม่โดนหรอกมั้ง ไม่คิดว่ามันจะส่องกระจายไปขนาดนั้น

 

ตอนนั้นไม่มีใครสะกิดเตือน หันไปพี่ๆก็ยิ้มแย้มให้จันจิ ก็เลยไม่คิดว่าจะรบกวน แต่ว่ามันรบกวน

 

ทำไมถึงคิดออกมาพูดก่อน ทั้งที่คลิปดราม่าไม่ใช่เรา?

 

จริงๆ ถ้าไม่มีใครเตือน คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องขนาดนั้น พอมันมีคอมเม้นต์ จันจิก็รีบลบเลย มันติดหน้าคนอื่นด้วยนะ แล้วก็ส่องคนอื่นด้วย จันจิเลย เห้ย มันเรื่องใหญ่มาก แล้วก็มีคนเอาคลิปจันจิไปแชร์ เลยคิดว่าต้องทำอะไรซักอย่าง ก็เลยออกมาขอโทษทุกคนใน X 

 

 

รู้สึกยังไงที่คนเอาไปโยงว่าเป็นเรา แต่ไม่ใช่เรา?

 

จริงๆรู้สึกว่าถึงไม่ใช่จันจิ แต่สิ่งที่จันจิทำมันก็ไม่ถูกต้อง ซึ่งไม่เป็นไร เพราะสุดท้ายแล้วจันจิก็เปิดแฟลชกับเค้าเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าจันจิไม่เปิดเลย แต่ถ้ามีคนมาเตือนจันจิมั่นใจว่าจะปิดแน่นอน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจันจิก็รบกวนคนด้านหลังจริงๆ ต้องขอโทษจริงๆ ถ้าใครอยู่ด้านหลังจันจิแล้วจันจิถ่ายแฟลชไปรบกวน ก็สามารถทักมาได้ สามารถพูดคุยกันได้จันจิยินดีรับผิดชอบในส่วนคนที่อยู่ด้านหลังจันจิ

 

ส่วนคนที่คอมเมนต์แรงๆ ?

 

จันจิว่าเค้าตักเตือน ส่วนใหญ่ตักเตือน แล้วเรามีการขอโทษ แล้วทุกคนเหมือนเข้าใจ จันจิว่าทุกคนให้อภัยจันจิเยอะมาก จันจิขอขอบคุณทุกคนที่เข้าใจ จันจิต้องพูดว่าจันจิไม่ฉลาดแล้วก็ไม่ได้ไตร่ตรองว่ามันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ก็มีคนเข้าใจเยอะมาก ส่วนคนที่ไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไรเพราะมันเป็นความคิดของส่วนบุคคล ก็เป็นการเปิดให้ทุกคนแสดงความคิดเห็น จะได้ชูขึ้นมาว่าการเปิดแฟลชในคอนเสิร์ตเป็นการรบกวนคนอื่น

 

คนที่ด่าแรงๆ ก็ไม่คิดว่าจะต้องใจเจ็บขนาดนั้น แต่บางคนก็เรียกจันจิว่าอีนั่นอีนี่ จันจิรู้สึกว่ามันเกินเรื่องเหมือนกัน คิดว่าการที่คนมาว่าไม่มีมารยาทจันจิก็ยอมรับในส่วนนั้น 

 

แต่จันจิรู้สึกว่ามีคนตักเตือนแล้วก็มีคนให้กำลังใจที่ทำจันจิร้องไห้ เพราะรู้สึกว่าเราทำผิดขนาดนี้ยังมีคนให้กำลังใจจันจิเลยรู้สึกแย่กับตัวเองมากๆว่าทำไมเราต้องได้รับโอกาสการให้อภัยเยอะขนาดนี้ ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ก็ขอโทษอีกครั้ง เพราะจริงๆเราเป็นบุคคลตัวอย่าง เป็นอินฟลูเอนเซอร์คนนึงแล้วกันเนาะที่ปฏิบัติตัวไม่ถูกต้องในการไปดูคอนเสิร์ต

 

 

ส่วนคอนเสิร์ตต่อไปไม่เปิดแล้วค่ะ หน้าม่วงหน้าเขียวดำๆจะลงเลยค่ะ จริงๆมีเยอะเหมือนกัน แต่เราเลือกจนมันเป็นเรื่องใหญ่เลยค่ะ จริงๆ ครั้งหน้าก็ดำๆไปค่ะ

 

ที่ไลฟ์มีคนดู 7พัน มีคนให้กำลังใจเยอะมาก บอกไม่เป็นไรๆ แต่มันไม่ใช่เรื่องไม่เป็นไรสำหรับเรา มันเลยยิ่งเสียใจยิ่งกว่าเดิม เพราะรู้สึกว่ามันมีคนเข้าใจ เราเลยรู้สึกว่าทำให้คนเขาผิดหวังในตัวเรารึป่าว เพราะเราก็เจออะไรมาเยอะ แต่พอทำผิดเราก็เลยทั้งรู้สึกผิด รู้สึกขอบคุณ รู้สึกเยอะมากตอนนั้นเลยร้องไห้ออกมา ไม่ได้ตั้งใจจะบีบน้ำตาเหมือนที่ทุกคนว่า มันน่าเกลียดด้วยตอนนั้น

 

จันจิไม่ได้ดีใจ จันจิรู้สึกผิดยิ่งกว่าเดิมมากกว่า ยิ่งมีคนให้กำลังใจ เรารู้สึกเห้ยเราทำผิด ทำไมถึงได้รับการอภัย ณตอนนั้นนะคะ จิเลยรู้สึกเราจะไม่ทำเหตุการณ์แบบนี้อีก ไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกค่ะ

 

ออกมาเพราะรู้สึกโอเค ยอมรับ แล้วก็เป็นบทเรียนให้ผู้อื่นด้วย ใครที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์หรือดาราจะได้ป้องกันไว้ก่อนจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก เพราะเราก็เป็นบุคคลตัวอย่างให้กับสังคม ก็อยากให้เอาจันจิเป็นตัวอย่างแล้วกันนะคะ ส่วนใครที่อยู่ต้นคลิป ช่างเค้าเถอะ ไม่เป็นไร ก็ น้อมรับไว้ค่ะ

 

 

ต่อไปก็เป็นบรรทัดฐาน?

มีมารยาทในการถ่ายคลิปเนาะ ไม่ใช่ว่าถ่ายคลิปหน้าเราดำแต่ติดคนอื่น ก็ต้องระวังในการเบลอให้เค้านิดนึง ถือว่าเป็นบทเรียนให้กับสังคมค่ะ

 

ตอนนี้รู้สึกสบายใจที่รีบออกมาแก้ไข มีคนถาม ไม่มีใครเตือนจะไม่รู้ตัวเหรอ จันจิพูดตรงๆ ไม่มีใครรู้หรอกค่ะว่ามันจะรบกวนคนขนาดนี้ ถ้าจันจิรู้จันจิคงไม่ทำ บางทีเราก็ไม่ได้ฉลาดไปทุกเรื่อง เราก็ต้องเรียนรู้กันไป ก็ขอบคุณทุกคนที่เข้าใจ