เด่นโซเชียล

เปิดกลโกง "บ้านออมเงิน" ว่อนเน็ต เหยื่อตายใจลงทุนเพิ่ม หนีหายเข้ากลีบเมฆ

เปิดกลโกง "บ้านออมเงิน" ว่อนเน็ต เหยื่อตายใจลงทุนเพิ่ม หนีหายเข้ากลีบเมฆ

14 ก.ย. 2564

กระทรวงการคลังเปิดกลโกง "บ้านออมเงิน" ว่อนเน็ต หลอกล่อไม่ต้องทำอะไร ไม่มีความเสี่ยง เหยื่อตายใจลงทุนเพิ่ม หนีหายเข้ากลีบเมฆ

นางสาว วราทิพย์ อากาหยี่ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึง กลโกง แชร์ลูกโซ่ กรณีที่เยาวชน อายุ 17 ปี จี้ร้านทองย่านรัตนาธิเบศร์ เพราะหลงเชื่อนำเงินไปลงทุน "บ้านออมเงิน" สูญเงินกว่า 5 หมื่นบาท ว่า เป็น 1 วิธียอดนิยมของมิจฉาชีพที่ชวนลงทุนผ่านออนไลน์ โดยหลอกล่อว่าจะให้ผลตอบแทนสูง ๆ เพียงแต่ฝากเงินไว้เฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไร แบบไม่มีความเสี่ยง พูดง่าย ๆ คือ ยิ่งออมมากยิ่งได้ดอกเบี้ย หรือผลตอบแทนมาก ด้วยอัตราดอกเบี้ยประมาณ 20% ต่อวัน ซึ่งเทียบกับผลตอบแทนจริง ๆ ในบริษัทเงินทุน และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ทั่วไป อัตราดอกเบี้ยสูงสุดจะเฉลี่ยอยู่ที่ 3.0 - 3.2% ต่อปี เท่านั้น ก่อนที่จะปิดไลน์หนีหายเข้ากลีบเมฆไป

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

"ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ตลอด เนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียนจำนวน 10 รายต่อสัปดาห์" นางสาว วราทิพย์ กล่าวและว่า "บ้านออมเงิน" ดังกล่าว ผู้กระทำที่ชักชวนแล้วมีผู้หลงเชื่อตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป หรือประชาสัมพันธ์โดยการโฆษณาซึ่งจะพบมากในโซเชียลมีเดีย ถือเป็นการเข้าข่ายกระทำความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 หรือพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินได้

 

 

นางสาว วราทิพย์ ยังบอกด้วยว่า กระทรวงการคลังเน้นย้ำให้ประชาชนระมัดระวังมิจฉาชีพหลอกลงทุนออนไลน์ทุกรูปแบบ ใช้วิจารณญาณอย่าหลงเชื่อ นอกจากกรณี "บ้านออมเงิน" ดังกล่าวยังมีเคสการหลอกลวงคล้าย ๆ แชร์ลูกโซ่ อีกจำนวนมาก เช่น ให้ลงทุนจำนำทองคำไว้ แล้วจะได้ดอกเบี้ยเพิ่ม เมื่อมาซื้อคืน แต่เมื่อถึงเวลาที่ผู้เสียหายจะซื้อคืน ทองคำถูกขายต่อไปแล้ว