เปิดเงื่อนไขแบบละเอียด "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ได้เยียวยาค่าไฟ - ค่าน้ำ
เปิดเงื่อนไขแบบละเอียด ผู้มี "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ได้เยียวยา ค่าไฟ - ค่าน้ำ ต่ออีก 12 เดือน เช็คเลยเกณฑ์การได้รับสิทธิ และผู้มีบัตรฯที่ไม่เคยใช้สิทธิมาก่อนจะติดต่อขอรับสิทธิได้ที่ไหน
จากกรณีที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลามาตรการบรรเทาภาระ "ค่าไฟ" และ "ค่าน้ำ" ให้แก่ผู้มี "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ต่ออีก 12 เดือน (ตุลาคม 2564 ถึง กันยายน 2565) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลามาตรการบรรเทาภาระ "ค่าไฟฟ้า" และ "ค่าน้ำประปา" ให้แก่ผู้มี "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีรายละเอียดมีดังนี้
มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ได้แก่ ค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรฯ) อย่างต่อเนื่องและครอบคลุมผู้มีบัตรฯให้สามารถได้รับประโยชน์จากมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา (มาตรการฯ) ดังกล่าวให้มากขึ้น
โดยระยะเวลาดำเนินมาตรการ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 ถึงเดือนกันยายน 2565 (ระยะเวลา 12 เดือน) โดยมีการปรับเปลี่ยนหลักการของมาตรการฯ ดังนี้
1. ค่าไฟฟ้า ปัจจุบันประชาชนทั่วไปจะได้รับการสนับสนุนค่าไฟฟ้าจากมาตรการของรัฐบาล โดยการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งมีเงื่อนไขว่า หากประชาชนใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือนติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน จะได้รับสิทธิใช้ไฟฟ้าฟรี
ดังนั้น ภายใต้มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าสำหรับผู้มีบัตรฯ จะเป็นกรณีที่ผู้มีบัตรฯใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อเดือน โดยจะได้รับสนับสนุนค่าไฟฟ้าวงเงิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ใช้เกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีบัตรฯเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด (จากเดิมสนับสนุนวงเงิน 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน)
สำหรับผู้มีบัตรฯ ที่ไม่เคยใช้สิทธิค่าไฟฟ้ามาก่อน และประสงค์จะขอรับสิทธิ สามารถไปลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิได้ที่สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ พร้อมทั้งแสดงบัตรฯ
2. ค่าน้ำประปา สนับสนุนค่าน้ำประปาวงเงิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ผู้มีบัตรฯยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท และจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาทด้วยตนเอง แต่หากมีการใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท จะไม่ได้รับการสนับสนุนวงเงินค่าน้ำประปาจำนวน 100 บาท โดยผู้มีบัตรฯจะเป็นผู้รับภาระในการชำระค่าน้ำประปาทั้งหมด (จากเดิมสนับสนุนวงเงิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน หากมีการใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท ผู้มีบัตรฯจะเป็นผู้รับภาระในการชำระค่าน้ำประปาทั้งหมด)
สำหรับผู้มีบัตรฯที่ไม่เคยใช้สิทธิค่าน้ำประปามาก่อน และประสงค์จะขอรับสิทธิได้ที่สำนักงานการประปานครหลวง และสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค พร้อมทั้งแสดงบัตรฯ
ทั้งนี้ ผู้มี "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ต้องนำใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้าและใบแจ้งหนี้ค่าน้ำประปาไปชำระเงินที่สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ สำนักงานการประปานครหลวง และสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค
โดยทุกสิ้นเดือนการไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ การประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค จะส่งบันทึกรายชื่อผู้มีบัตรฯที่ใช้ไฟฟ้าและน้ำประปาภายใต้วงเงินที่กำหนดให้กรมบัญชีกลาง เพื่อที่กรมบัญชีกลางจะนำเงินจากกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมมาจ่ายคืนผ่านบัตรฯ ในช่อง e-Money ของเดือนถัดไป
ซึ่งผู้มีบัตรฯ สามารถใช้ซื้อสินค้าและบริการผ่านเครื่อง EDC แอปพลิเคชัน "ถุงเงินประชารัฐ" และถอนเงินสดจากเครื่องถอนเงินอัตโนมัติได้
ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อได้ที่ สำนักนโยบายภาษี สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร 0-2273-9020 ต่อ 3512
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ได้ลดค่าน้ำ-ไฟ ต่ออีก 12 เดือน ยาวถึงกันยา 65
- พรุ่งนี้ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" มีเงินเยียวยาพิเศษเข้าอีก เช็คที่นี่
- "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" บัตรคนจน ปรับเกณฑ์ใหม่ รายเก่าต้องลงทะเบียนอีก
- "สินเชื่อบ้าน ธอส." จัดดอกเบี้ยพิเศษ 2 ต่อ ลุ้นโปรกระหน่ำ 1 ปีแรกเพียง 0.68%
- ผู้ถือ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ได้สิทธิลดดอกเบี้ย "โรงรับจำนำ" 50 %