"ทริปล่ม" ถูก บริษัททัวร์ เทกลางสนามบิน เสียเงิน 4 เเสน เเต่อด ทัวร์ยุโรป
เสียเงิน 4 แสนซื้อเเพ็กเกจ ทัวร์ยุโรป เเต่ "ทริปล่ม" ถูก บริษัททัวร์ เทกลางสนามบิน ขอเงินคืนเเต่ถูกอ้างต้องรอกรุ๊ปเดินทางกลับมาก่อน
"ทริปล่ม" คือฝันร้ายที่ใครๆ ก็ไม่อยากเจอ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่หลายคนเตรียมปลดปล่อยเต็มที่ หลังจากหลายประเทศคลายล็อกมาตรการป้องกันโควิด เปิดรับนักท่องเที่ยว ซึ่งการวางเเผนออกเดินทางท่องเที่ยว มีทั้งเเบบวางเเผนเองเที่ยวเอง และแบบซื้อ แพ็กเกจทัวร์ เเต่ใครจะคาดคิดว่า ความสุขที่วาดหวังไว้จากการเดินทางท่องเที่ยวพร้อมครอบครัว จะต้องพังทลายลงก่อนเวลาขึ้นเครื่องบินเพียงไม่นาน
เมื่อมีการตั้งกระทู้เล่าประสบการณ์ "เสียเงินสี่แสนกับ บริษัททัวร์ ชื่อดัง แต่โดนเทกลางสนามบิน"
โดยเจ้าของกระทู้ ได้เล่าประสบการณ์ "ทริปล่ม" อด ทัวร์ยุโรป ว่า เจ้าของกระทู้และสมาชิกครอบครัว จำนวน 5 คน ได้ซื้อโปรแกรมทัวร์ แพ็กเกจเที่ยวยุโรป อิตาลี สวิต ฝรั่งเศษ รอบเดินทาง 15 - 23 มิถุนายน 65 กับบริษัททัวร์ชื่อดัง ซึ่งภายหลังจากการโอนชำระเงินบางส่วนแล้ว ทางทัวร์แจ้งเปลี่ยนวันเดินทางเป็น 16 - 24 มิถุนายน โดยซื้อเเพ็กเกจในราคา 397,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับ 5 คน
โดยโอนเงินมัดจำ 200,000 บาท เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 65 และค่อยชำระส่วนที่เหลือหลังทำวีซ่า 1-2 วัน ทางบริษัทให้ผู้ประสานงานชื่อย่อคุณ ล. เป็นผู้ประสานงานและจัดส่งเอกสาร ซึ่งหลังจากชำระเงินแล้ว เจ้าของกระทู้ได้มีการเตรียมเอกสาร และมีการทวงถามกับทางทัวร์ตลอดว่า จะต้องส่งเอกสารการทำวีซ่าไปเมื่อไหร่ ซึ่งทางบริษัททัวร์ก็ได้ให้คำตอบว่า ต้องรอคิววีซ่าจากทัวร์กลางก่อนจึงค่อยส่งเอกสารไป
และวันที่ 17 พ.ค. เจ้าของกระทู้ได้รับการติดต่อจากทางเจ้าหน้าที่ บริษัททัวร์ ชื่อดังว่า ให้ไปขอ statement จากธนาคาร และเตรียมเอกสารอื่น ๆ สำหรับยื่นวีซ่าให้พร้อม แต่จนวันที่ 27 พ.ค เจ้าของกระทู้ก็ยังไม่ได้คิววีซ่า จึงได้ทวงถามทางบริษัททัวร์ชื่อดังไปอีกครั้งในช่วงเช้า ถึงได้รับการตอบกลับมาในช่วงค่ำของวันนั้น ว่าคิววีซ่าได้วันที่ 7 มิ.ย. จึงได้ส่งเอกสารไปให้คุณ ล. ในวันที่ถัดไป คือวันที่ 28 พ.ค.
เพื่อเตรียมตัวไป "ทัวร์ยุโรป" วันที่ 7 มิ.ย. เจ้าของกระทู้และครอบครัวได้เดินทางไปยื่นวีซ่าตามที่บริษัทนัดหมายที่ตึกสาทรซิตี้ทาวเวอร์ กับบริษัทตัวแทนยื่นวีซ่า (TLS Contact) โดยมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ชื่อย่อคุณ ป. เป็นผู้ประสานงาน ซึ่งทางครอบครัวเจ้าของกระทู้เป็นกังวลเรื่องเวลากระชั้นชิดกับเวลาที่จะออกเดินทางเกินไป ซึ่งคือ 8 วันก่อนเดินทาง (เดินทางวันที่ 16) ทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ TLS Contact ทักท้วงว่าเวลามันกระชั้นชิดเกินไป และเกรงว่าจะไม่ทันเวลาเดินทาง
เจ้าของกระทู้จึงได้โทรถามคุณ ป. ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตัวแทน ที่พามาทำวีซ่า ซึ่งทางคุณ ป. ก็ได้ให้คำตอบที่มั่นใจว่า เป็นขั้นตอนปกติในการทำทัวร์แบบกรุ๊ปในช่วงนี้ อีกทั้งคุณ ป. ยังแจ้งว่า ยังมีอีกครอบครัวหนึ่งมายื่นวีซ่าหลังเจ้าของกระทู้อีก และทางทัวร์จะติดต่อกับสถานทูตให้เป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากเดินทางเป็นกรุ๊ปทัวร์ และเอกสารก็พร้อมจึงไม่น่ามีปัญหา และทางทัวร์จะนำพาสปอร์ตมาให้ที่สนามบินในวันเดินทาง
เมื่อถึงวันเดินทางไป "ทัวร์ยุโรป" กับครอบครัว เจ้าของกระทู้และครอบครัว 5 คน ได้เดินทางมาจากต่างจังหวัด ล่วงหน้าวันนึงก่อนเดินทางเพื่อไปให้ทันระยะเวลานัดหมาย วันต่อมา ทางหัวหน้าทัวร์ได้นัดเจอเวลา 14.00 น. ชั้น 4 แถว J ซึ่งเจ้าของกระทู้ไปก่อนเวลานัดหมาย 2 ชั่วโมง แพ็กกระเป๋าเรียบร้อย พอถึงเวลานัดหมายได้เจอกับหัวหน้าทัวร์ และให้นำกระเป๋าไปรวมกับกรุ๊ปที่จะเดินทาง สักพักประมาณเกือบบ่ายสาม ขณะที่รอกระเป๋าไปหุ้มพลาสติกกันกระแทกได้มีเจ้าหน้าที่จากทัวร์กลาง (ซึ่งคาดว่า บริษัททัวร์ ชื่อดัง ได้ขายทัวร์และนำส่งบริษัททัวร์กลางนี้) ชื่อย่อคุณ ต. วิ่งมาแจ้งว่าวีซ่าของครอบครัวเจ้าของกระทู้ทั้ง 5 คน ออกไม่ทันรอบสุดท้ายของวันนี้แล้ว และไม่สามารถออกเดินทางได้
ใครจะคิดว่า ทัวร์ยุโรป "ทริปล่ม" เจ้าของกระทู้บอกว่า ครอบครัวได้เตรียมการเดินทางมาอย่างดี ทั้งแลกเงินไว้ ซื้อซิมสำหรับเดินทาง ค่าใช้จ่ายเดินทางจากต่างจังหวัดจำนวนหลายครั้ง ทั้งขึ้นมาทำวีซ่าและทำเอกสาร และจำนวนเงินนี้ก็เป็นเงินเก็บออม เพื่อไป ทัวร์ยุโรป ครั้งแรกในชีวิตของทุกคนในครอบครัว เเต่ต้องพังทลายลงในพริบตา ผิดหวังมาก ๆ กับบริษัททัวร์ชื่อดังนี้ (ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ คนติดตามเพจห้าแสนกว่าคน ทั้งยังมีการอัพเดตหน้าเพจทุกวัน จึงเชื่อถือ)
หลังจากนั้น คุณต.(เจ้าหน้าที่จากบริษัททัวร์กลาง) แจ้งว่า ตอนนี้ทางบริษัทไม่รู้เลยว่าทำไมวีซ่าถึงมาไม่ทันวันเดินทาง ไม่รู้ว่าติดเงื่อนไขตรงไหน และทางบริษัทจะไปตามวีซ่าให้อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ เผื่อว่าจะสามารถเดินทางตามกรุ๊ปไปได้ในวันถัดไป ซึ่งแจ้งว่าวีซ่าที่ออกในวันถัดไปจะมีรอบสิบโมงเช้ากับบ่ายสอง แต่ที่แน่ ๆ ในวันนี้ไม่ได้เดินทางแน่นอน
จนกระทั่งวันที่ 18 มิ.ย. คำตอบจากเจ้าหน้าที่ทัวร์จนถึงเมื่อวานเย็นคือ วีซ่าครอบครัวเจ้าของกระทู้ก็ยังไม่ออก ส่วนเรื่องค่าทัวร์ เจ้าหน้าที่ให้คำตอบกลับมาว่า ต้องรอให้กรุ๊ปที่เดินทางไปกลับมาก่อน คือวันที่ 24 มิ.ย. 65 ที่จะถึงนี้ ถึงจะเคลียร์ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้
เจ้าของกระทู้ บอกด้วยว่า รู้สึกแย่มาก ๆ กับเหตุการณ์ "ทริปล่ม" ที่เกิดขึ้น เพราะเป็นเงินเก็บมาตลอดระยะเวลาสองถึงสามปี ให้ความหวังกับทริป ทัวร์ยุโรป ทริปแรกของครอบครัว ที่จะได้เดินทางและใช้เวลาด้วยกัน เก็บภาพความประทับใจ และช่วงเวลาดี ๆ ของตนเองและครอบครัวกับทริปนี้ ยิ่งได้เห็นสีหน้าและความผิดหวังของลูกทั้งสามคน ที่หวังกับการเดินทางยุโรปครั้งแรกในชีวิตของทุกคนไว้ และได้เห็นแววตาของลูกทั้งสามคน ที่ได้แค่มองสมาชิกของกรุ๊ปคนอื่น ๆ เดินเข้าไปไปเช็กอิน โดยที่ลูก ๆ ทั้งสามคนต้องยืนรออยู่ตรงนี้ ด้วยความรู้สึกที่ว่าไม่ได้เดินทางแน่นอน หัวอกของคนเป็นพ่อแม่แทบสลาย
เจ้าของกระทู้ ระบุว่า หลังทราบเรื่องในวันเกิดเหตุการณ์ที่สนามบิน ได้แจ้งขอเงินคืนทันทีกับคุณ ต. ซึ่งคุณ ต. ตอบกลับมาว่าเขาขอตามเรื่องวีซ่าก่อนในวันถัดไป แล้ววันถัดมา หลังจากทราบในช่วงบ่ายว่าวีซ่าที่ออกมาทั้งรอบเช้าและบ่ายไม่มีของครอบครัวเจ้าของกระทู้ ก็ได้มีการทวงถามเรื่องค่าทัวร์คืนอีกครั้ง ซึ่งได้รับคำตอบจาก คุณ ต. กลับมาว่า ต้องรอกรุ๊ปเดินทางกลับมาในอาทิตย์หน้า ถึงจะสรุปยอดเงินต่าง ๆได้
ซึ่งเจ้ากระทู้บอกว่า ตอนที่ติดต่อและโอนเงินซื้อแพ็กเกจได้ทำกับบริษัททัวร์ชื่อดัง และตอนนั้นไม่ทราบเลยว่าบริษัทได้ขายทัวร์และส่งต่อไปให้บริษัทอื่น มาทราบทีหลังตอนทวงถามเรื่องคิวทำวีซ่า เพราะเจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องรอทัวร์กลางแจ้งคิวเรื่องทำวีซ่าก่อน อย่างไรก็ตาม เจ้าของกระทู้ ขอขอบคุณทุก ๆ คำแนะนำและกำลังใจจากชาวเน็ต ซึ่งตอนนี้กำลังรวบรวมคำแนะนำของทุกคนมาดำเนินการในบางส่วนที่ทำได้ ถ้ามีอะไรคืบหน้าจะมาอัพเดต แจ้งข่าวเป็นระยะ
เรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเจ้ากระทู้ ทำให้ชาวเน็ต เข้ามาเเสงดความคิดเห็นคอมเมนต์วิจารณ์ เรื่องการทำงาน และความเป็นมืออาชีพของบริษัททัวร์ เกี่ยวกับการขอวีซ่าที่ระยะเวลาค่อนข้างกระชั้นกระชิด เนื่องจากช่วงนี้ การขอวีซ่าเชงเก้น เกือบทุกสถานทูตใช้เวลานานมาก แค่รอคิวก็เป็นเดือน รอพิจารณาอีก 2-4 สัปดาห์
เเละบางคอมเมนต์เห็นว่า "แปลกตั้งแต่ขอวีซ่าล่วงหน้า 8 วันแล้ว น่าจะรู้อยู่แล้วว่าไม่ทัน แต่อยากขายทัวร์ เอาเงินเฉพาะหน้าไปก่อน ควรขอเงินคืนทันทีอย่ารีรอ รีบไปแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน ให้ไปเคลียร์ต่อหน้าตำรวจ ขอค่าความเสียหายชดเชยด้วย ถ้ายึกยักชักช้า สามารถร้องเรียนต่อได้ที่สายด่วน 0 24011111 กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หรือร้องเรียนได้ที่ สายด่วน สคบ. 1166 และทางเว็ปไซต์ www.ocpb.go.th"
นอกจากนี้ ชาวเน็ตยังเข้ามาเเสงดความเห็นเกี่ยวกับการที่บริษัททัวร์ระบุว่า จะติดต่อกับสถานทูตให้เป็นกรณีพิเศษเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
"ทางทัวร์จะติดต่อกับสถานทูตให้เป็นกรณีพิเศษ เท่าที่เคยติดต่อมา สถานฑูตไม่มีกรณีพิเศษให้ใครนะคะ (ก็ไม่รู้หมายความว่ายังไงหรืออาจจะหมายถึงบริษัทจะบริการเป็นพิเศษ) แนะนำว่าสถานฑูตไหนที่เขาไปยื่นเอกสารให้ ไปติดต่อถามดูค่ะว่าเขาได้ไปยื่นให้จริงไหม ถ้าไม่จริง รวบรวมเอกสาร หลักฐาน แจ้ง ศคบ.ฟ้องเอาค่ะ ส่วนเรื่องค่าทัวร์ เจ้าหน้าที่ให้คำตอบกลับมาว่า จะเคลียร์ค่าใช้จ่ายต่างๆได้ ต้องรอให้กรุ๊ปที่เดินทางไปกลับมาก่อน ที่จริงแล้วไม่จำเป็นค่ะ ถ้าเราไม่ได้เดินทาง ก็หมายถึงเขาต้องคืนเงินมาทันที ไม่จำเป็นต้องรอเงินของเรา แต่ถ้าคุณอยากจะลองรอเงิน ก็ให้เขาทำเอกสารว่าจะคืนเงินมาไว้เป็นหลักฐาน เอกสารประกอบธุรกิจทัวร์ บัตรประชาชนหรืออะไรก็ว่าไปแล้วไปขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ส่วนการเที่ยวครั้งนี้ก็อาจจะต้องหาที่ใหม่ (หรือถ้าเป็นที่เดิมก็คงต้องเป็นการเลื่อนออกไป) แต่ขอแนะนำว่าตอนนี้เอาเรื่องเงินคืนให้รัดกุมก่อน"
"บริษัททัวร์ต้องรับผิดชอบครับ
1) จองคิวได้ช้าก็มีความเสี่ยงอยู่แล้วทำไมไม่แนะนำให้ลูกทัวร์ขยับวันออกไป
2) ทำไมไม่แจ้งก่อนวันเดินทางว่าวีซ่าไม่ได้ปล่อยให้ลูกทัวร์เดินทางมาที่สนามบินได้อย่างไร
คุณสามารถเรียกค่าเสียหายพวกค่าใช้จ่ายต่าง ๆได้เลยครับ เพราะเกิดจากความสะเพร่าไม่มืออาชีพของทัวร์ล้วนๆ"
"รอให้ได้วีซ่า และขอเงินคืนครับ แล้วซื้อทัวร์ที่อื่นครับ ไม่ก็รอรอบถัดไป ยังไง เขาต้องรับผิดชอบ 100%
แต่จริง ๆ ต้องรับผิดชอบมากกว่านั้นด้วยครับ หลักฐานการเดินทางมาเพื่อทำนู่นนี่นั่น เก็บให้พร้อม ๆ แล้วฟ้องเอาตรงนั้นเลยครับ ซื้อของแล้วไม่ได้ของ แถมค่าเสียเวลา ค่าทำขวัญ เอาให้จุก ๆ เลย"
"ศาลคุ้มครองผู้บริโภคคือทางออกค่ะ ฟ้องเองได้ไม่ต้องมีทนาย รวบรวมเอกสาร บทสนทนาแชต ปริ้นออกมาเลย ไล่เรียงเรื่อง เอาไปยื่นฟ้อง"