"อเล็กซ์" อาริยะ พูลสวัสดิ์ ล้มกลิ้ง 2 ครั้งแต่ยังกัดฟันปั่นเข้าเส้น
การแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “The Princess Maha Chakri Sirindhorn’s Cup Tour of Thailand 2019” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประเภททีมชาย เส้นทาง จ.พิษณุโลก-สุโขทัย-อุตรดิตถ์-แพร่-น่าน-พะเยา-เชียงใหม่ รวมระยะทาง 974.53 กม. เมื่อวันที่ 3 เม.ย. เป็นการแข่งขันสเตจที่ 3 เส้นทางในจังหวัดน่าน จากโรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร-สวนสาธารณะบ้านช้างเผือก-อุทยานแห่งชาติดอยภูคา-สถานีอุตุนิยมวิทยาท่าวังผา-อ.ปัว-สามแยกบ่อเกลือใต้-วัดพระเจ้าทันใจ และไปเข้าเส้นชัยที่หน้าโรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร รวมระยะทาง 199.70 กม.
นายวัชรพงษ์ โพธิ์สูง รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานปล่อยตัวนักกีฬา พร้อมด้วย “เสธ.หมึก” พล.อ.เดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ,หัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ โดยมีพิธีลงนามถวายพระพร พร้อมเปิดกรวยดอกไม้ถวายราชสักการะแด่พระฉายาลักษณ์ และกล่าวถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ต่อด้วยการมอบโล่ให้ผู้สนับสนุน พร้อมทั้งมอบจักรยานให้กับเด็กนักเรียน ที่มีบ้านอยู่ห่างไกลต้องเดินทางเท้ามาเรียน จำนวน 50 คัน
เส้นทางการแข่งขันในสเตจที่ 3 นี้ เป็นเส้นทางที่โหดที่สุดของการแข่งขัน เพราะนักกีฬาต้องปั่นขึ้นเขาสูงชันตลอดทาง และต้องเลาะไต่ภูเขาขึ้นไปถึงอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ซึ่งมีความสูงกว่า 1,800 เมตร ทำให้นักปั่นต้องใช้พละกำลังอย่างมาก และมีจุดประลองเจ้าภูเขาถึง 3 จุดด้วยกัน กว่านักกีฬาจะกลับมาถึงเส้นชัยครบทุกคนต้องใช้เวลาแข่งขันเกือบ 7 ชั่วโมง ระหว่างแข่งขัน ช่วงกิโลเมตรที่ 50 “อเล็กซ์” อาริยะ พูลสวัสดิ์ นักปั่นของไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ทีม เกิดอุบัติเหตุรถล้มช่วงกำลังปั่นลงเขา แต่ไม่เป็นอะไรมากยังขี่ต่อไปได้ แต่ช่วงกิโลเมตรที่ 170 กว่า ๆ ในพื้นที่ อ.สันติสุข มีฝนตกลงมาทำให้ถนนลื่น ซึ่ง “อเล็กซ์” เกิดอุบัติเหตุล้มอีกครั้ง รวมทั้งนักกีฬาอื่น ๆ อีกเกือบ 20 คน แต่ “อเล็กซ์” ยังกัดฟันปั่นเข้าเส้นชัยจนจบ นอกจากนี้รถประจำทีมของ โซล ไซคลิง คลับ จากเกาหลีใต้ เกิดลื่นไถลลงข้างทางจนรถตีลังกาหงายท้องล้อชี้ฟ้า แต่เคราะห์ดีว่าเจ้าหน้าที่ทีมที่อยู่ในรถไม่เป็นอะไร
นอกจากนี้ ก่อนนักกีฬาเข้าเส้นชัยไม่กี่นาที เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เนื่องจากมีลมกรรโชกอย่างแรงพัดโครงเหล็กที่บริเวณเส้นชัยล้มลง ทำให้เจ้าหน้าที่ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่หลบโครงเหล็กล้มหัวฟาดพื้น แต่ไม่บาดเจ็บรุนแรง อย่างไรก็ตาม ได้ส่งตัวไปตรวจเช็คร่างกายที่โรงพยาบาลน่าน รวมทั้ง อาริยะ พูลสวัสดิ์ หลังจากเข้าเส้นชัยแล้วก็ไปตรวจเช็คร่างกายด้วยเช่นกัน
ผลการแข่งขันปรากฏดังนี้ ผู้ชนะเลิศ สเตจที่ 3 เป็นของ ไรอัน คาวานาห์ จาก เซนต์จอร์จ คอนติเนลตัล ไซคลิง ทีม (ออสเตรเลีย) ทำเวลาได้ 5.48.21 ชั่วโมง ทิ้งห่าง มาร์กอส การ์เซีย เฟอร์นานเดซ สังกัด คินัน ไซคลิง ทีม (ญี่ปุ่น) ที่ตามมาอันดับ 2 ถึง 4.49 นาที ส่วนที่ 3 ซาลวาดอร์ กัวร์ดิโอลา จาก คินัน ไซคลิง ทีม ตามหลัง 5.53 นาที ส่งผลให้ ไรอัน คาวานาห์ จาก เซนต์จอร์จ คอนติเนลตัล ไซคลิง ทีม พลิกขึ้นมาเป็นผู้นำเวลารวมที่ 13.47.15 ชั่วโมง คว้าเสื้อชมพูไปครอง
รางวัลเจ้าความเร็ว IS1 เป็นของ เจนเซ่น โพลไรท์ จาก ดราแพค อีเอฟ พี/บี แคนนอนเดล โฮลิสติก ดีเวลโลปเม้นต์ ทีม (ออสเตรเลีย) ส่วนรางวัลเจ้าความเร็วคะแนนรวม เป็นของ จิโอวานนี่ โลนาร์ดี จาก นิปโป-วินี ฟานตินี โปร ไซคลิง ทีม (อิตาลี) คว้าเสื้อเขียวไปครอง
รางวัลเจ้าภูเขา KOM ซึ่งมี 3 จุดด้วยกัน ปรากฏว่า ไรอัน คาวานาห์ จาก เซนต์จอร์จ คอนติเนลตัล ไซคลิง ทีม เหมาไปคนเดียวทั้ง 3 สเตจ ส่งผลให้เขาได้รางวัลผู้นำเจ้าภูเขา คว้าเสื้อลายจุดสีแดงไปครองอีก 1 ตัว นอกจากนี้ ไรอัน คาวานาห์ ยังได้รางวัลนักบู๊ยอดเยี่ยมประจำสเตจที่ 3 อีกต่างหาก เท่ากับว่าในสเตจที่ 3 นี้ เขาคว้าไปคนเดียวถึง 7 รางวัล
ขณะที่ รางวัลชนะเลิศอาเซียนประจำสเตจ ได้แก่ มาร์เซโล เฟลิเป้ จาก เซเว่น อิเลฟเว่น คลิก โรดไบค์ ฟิลิปปินส์, ที่ 2 โก๊ะ ชูน ฮวต จาก ตรังกานู ไซคลิง ทีม (มาเลเซีย) โดยมี “อเล็กซ์” อาริยะ พูลสวัสดิ์ จากไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ทีม เข้ามาเป็นที่ 3 นอกจากนี้ยังเข้าเป็นที่ 12 ของนักกีฬาทั้งหมด ทำเวลาตามหลังแชมป์ 6.22 นาที สำหรับรางวัลผู้นำอาเซียน เป็นของ มาร์เซโล เฟลิเป้ คว้าเสื้อม่วงไปครอง
อันดับประเภททีมประจำสเตจที่ 3 อันดับ 1 เป็นของ เซนต์จอร์จ คอนติเนลตัล ไซคลิง ทีม (ออสเตรเลีย) รวมทั้งยังนำเวลารวม 41.35.05 ชั่วโมง, ส่วนอันดับประเภททีมอาเซียนประจำสเตจ ที่ 3 อันดับ 1 เป็นของ ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ทีม และเป็นผู้นำเวลารวมประเภทอาเซียน ด้วยเวลา 42.10.33 ชั่วโมง
พล.อ.เดชา กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าสเตจที่ 3 นี้ เส้นทางหฤโหดที่สุด เด็กไทยทำผลงานไม่เข้าเป้า พวกเขาก็เสียใจเพราะอยากทำผลงานให้ดีที่สุด แต่ยังเหลืออีก 3 สเตจ ต้องให้กำลังใจนักกีฬาต่อไป อาจเป็นเพราะ “มะตูม” พีระพล ชาวเชียงขวาง ลุยในสเตจที่ 2 มากเกินไป นักกีฬาตัวเสริมก็กำลังยังไม่พอ แถม “อเล็กซ์” เกิดอุบัติเหตุล้มถึง 2 ครั้ง ถือว่าโชคไม่เข้าข้าง หวังว่าอีก 3 สเตจ เราจะมีโชคบ้าง ตอนนี้ประเภททีม เรายังเป็นที่ 1 ของอาเซียน และคะแนนยังทิ้งห่างจากอันดับ 2 เยอะ แต่ประเภทบุคคลยังสู้ความปราดเปรียวของนักปั่นของ เซเว่น อิเลฟเว่น คลิก โรดไบค์ ฟิลิปปินส์ และ ตรังกานู ไซคลิง ทีม จากมาเลเซีย ไม่ได้
“ผมต้องขอขอบคุณทางจังหวัดน่าน รวมทั้งตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ที่ดูแลด้านการจราจรดีมาก เรียกว่าอำนวยความสะดวกกันทุกตารางนิ้ว แม้จะมีอุบัติเหตุระหว่างทางบ้าง แต่เคราะห์ดีไม่มีใครเป็นอะไร ส่วนอุบัติเหตุโครงเหล็กล้มที่เส้นชัย เกิดจากธรรมชาติ มีลมกรรโชกแรง ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของการจัดการแข่งขัน สำหรับเส้นทางสเตจที่ 4 เป็นทางขึ้นเขา แต่ไม่มากเท่าสเตจที่ 3 ขอให้พี่น้องชาวน่าน และพี่น้องชาวไทยให้กำลังใจนักกีฬาไทยกันต่อไป” พล.อ.เดชา กล่าว
สำหรับการแข่งขันในสเตจที่ 4 วันที่ 4 เม.ย. เส้นทางจากหน้าโรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร ผ่านศูนย์ราชการจังหวัดน่าน-อ.ดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา-สามแยกปงสนุก-กว๊านพะเยา-เข้าเส้นชัยที่อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง จังหวัดพะเยา รวมระยะทาง 145.50 กม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง