สาวเล่าเรื่องเพื่อนไอเป็นเลือด ไปหาหมอ 3-4 รพ.โยนกันไป-มาวุ่นวายสุดขีด

ผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่งได้แชร์ประสบการณ์จากกรณีที่เพื่อนของเขามีอาการไอเป็นเลือด ใช้เวลารักษามากว่า 5 เดือน เข้า-ออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น ส่งตัวไป-มา ขณะที่หมอก็ไม่สนใจ วินิจฉัยว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ ก่อนที่สุดท้ายมารู้เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

วันนี้จะมารีวิวการเข้าใช้บริการโรงพยาบาล 3-4 แห่งในช่วง 5 เดือนกว่า ๆ ของเพื่อนคนหนึ่ง ต่อไปนี้จะขอเรียกเพื่อนคนนี้ว่า บี
 

- 17 มกราคม 2563 เราและบีไปถ่ายงานในบริเวณที่มีการก่อสร้าง บวกกับตอนนั้น pm 2.5 มาแรงมากและพวกเราไม่ได้ใส่หน้ากาก กลับจากการถ่ายงาน บีไออย่างรุนแรง และมีเลือดออกมาด้วย เย็นวันนั้นบีเลยไปหาหมอ ซึ่งตอนนั้นประกันสังคมของบีอยู่ที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง

 

ซึ่งการรักษาของก็คือจ่ายยาตามอาการ ไอ เจ็บหน้าอก มีให้ล้างจมูก แล้วหมอก็นัดอีก 1 สัปดาห์ให้มาเจอใหม่ แต่ผ่านไป 3 วัน อาการไม่ดีขึ้นเลย ยังคงไอเป็นเลือดและเจ็บหน้าอกอยู่ บีจึงไปหาหมอก่อนเวลาที่นัด ไม่ได้เจอหมอคนเดิม บีถามหมอว่าผมจะเป็นวัณโรคหรือเปล่า

 

หมอก็บอกว่าไม่แน่ใจ ต้องตรวจเสมหะ ซึ่งบีไอแห้ง ไม่มีเสมหะเลย หมอก็เลยจ่ายยาตามอาการอีกครั้ง โดยครั้งนี้ให้กระบอกเก็บเสมหะมาด้วย บอกว่ามีเสมหะเมื่อไหร่ก็ให้เอามาให้ ไม่งั้นก็ฟันธงไม่ได้ว่าบีเป็นวัณโรคหรือเปล่า และหมอก็นัดบีอีก 1 สัปดาห์ให้มาหาใหม่

 

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ บวกกับอาการของบีที่ไม่ดีขึ้น เหล่าเจ้านายจึงแนะนำแถมบังคับให้ไปหาหมอที่ คลินิกแห่งหนึ่ง เพราะรักษาดีและราคาไม่แรงมากนัก เราก็เลยเป็นคนโทรคุยกับทางคลินิกเพื่อแจ้งรายละเอียดอาการ และนัดวันให้บีเข้าไปพบแพทย์ต่อไป
 

 

- 26 มกราคม 2563 คือวันที่บีได้เข้าไปเจอกับหมอที่คลินิกเป็นครั้งแรก เล่าอาการให้ฟังและหมอจับเอ็กซเรย์ปอด ให้ยาผ่านทางน้ำเกลือ จ่ายยามากิน 1 สัปดาห์ผ่านไป ผลเอ็กซเรย์ออกมาปรากฏว่าเป็นปอดอักเสบ ที่ปอดมีฝ้าขึ้นกระจายๆ ตอนนั้นพวกเราก็คาดกันว่าน่าจะมาจาก pm 2.5 และฝุ่นก่อสร้างที่เราไปทำงานกันมา
 

 

เป็นแบบนี้ 2-3 ครั้ง ก็พบว่ามาถูกทางแล้ว ฝ้าที่ปอดค่อยๆ จางจนหายไปทั้งหมด แต่สุดท้ายคือ มีก้อนขาวๆ อยู่กลางหน้าอก ซึ่งหมอกลัวว่ามันจะเป็นชิ้นเนื้อ เลยต้องทำ CT SCAN ดูว่ามันคืออะไร ซึ่งการจะทำ CT SCAN จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 7-8 พันบาท หมอไม่อยากให้บีเสียเงินมากเลยเขียนใบส่งตัวมาให้ทางประกันสังคม พร้อมกับแผ่น CD ที่ทำเอ็กซเรย์ไปต่างๆ มาถึงจุดนี้ต้องบอกเลยว่าหมอและพยาบาลที่นี่ คือ ดีจริง ดูแลใส่ใจเป็นอย่างดี แนะนำทุกอย่าง บีบอกว่าบีรู้สึกได้ว่าเค้าอยากให้เราหายจริงๆ

 

หลังจากที่บีได้รับใบส่งตัว เย็นวันนั้นเลยบีก็เดินทางมาที่โรงพยาบาลของประกันสังคมทันที เมื่อมาถึงจุดที่ต้องลงทะเบียนยื่นบัตรประชาชน บีก็พยายามเอาเอกสารส่งตัวพร้อมแผ่น CD ให้พยาบาลตรงนั้น แต่เธอก็ไม่ได้รับไว้ ก็มานั่งรอหมอ พอได้เข้าไปเจอกับหมอ ต่อไปนี้จะขอเรียกสั้นๆ ว่า "หมอศอ"

 

พอเข้ามาพบกับหมอศอ บีก็เล่าอาการให้หมอศอฟังพร้อมกับบอกว่า “ผมมีใบส่งตัว ผมไปหาที่ศูนย์แพทย์มาแล้วเค้าอยากให้ผมทำ CT SCAN เพื่อดูว่าก้อนขาวๆ นี้คืออะไร” แต่หมอศอก็หาได้สนใจไม่ หมอศอไม่ได้รับเอกสารส่งตัวไป หมอศอไม่ได้เปิด CD ดู หมอศอจะให้บีนอน 1 คืน แต่บีไม่สะดวกเลยไม่ขอนอน

 

หมอศอเลยให้เอ็กซเรย์ปอดและจ่ายยาฆ่าเชื้อปอดอักเสบมาแล้วนัดดูอาการอีก 1 สัปดาห์ เย็นวันนั้นพยาบาลที่คลินิกก่อนหน้านี้ก็โทรมาถามว่าเป็นยังไงบ้าง เจอหมอแล้วได้ความว่ายังไงบ้าง บีเล่าให้พยาบาลฟังแล้วพยาบาลก็ได้แต่งงว่า “คุณบีมีใบส่งตัวจากแพทย์เฉพาะทางแล้วเค้ายังไม่ให้คุณบีสแกนอีกหรอ” ไม่ใช่แค่พยาบาลที่งง ทุกคนก็งง

ผ่านไป 1 สัปดาห์ ผลเอ็กซเรย์คือไม่มีฝ้าแล้ว คือมันไม่มีฝ้าตั้งแต่จบที่นั่นแล้ว หมอศอบอกว่า “ไม่มียาให้แล้ว คุณหายแล้วกลับบ้านได้” บีเลยชี้ไปที่หน้าจอเอ็กซเรย์บอกว่า “เนี่ยครับ หมอที่นั่นเค้ากังวลว่ามันจะเป็นเนื้องอก เค้าเลยอยากให้ผมมาทำ CT SCAN ที่นี่ เพราะประกันสังคมผมอยู่นี่” หมอศอตอบกลับมาว่า “ไม่ใช่เนื้องอก เส้นเลือดใหญ่”

 

แล้วบีก็กลับมาใช้ชีวิตปกติ เพราะหมอศอบอกว่าบีหายแล้ว แต่อาการไอของบีไม่ดีขึ้นเลย ยังคงไอหนักเท่าวันแรกที่บีไอ แต่ไม่มีเลือดแล้วเท่านั้นเอง เจ้านายจึงแนะนำแกมบังคับอีกรอบว่าให้ไป CT SCAN คลินิกก่อนหน้า จะได้รู้ไปจบๆ ว่าเป็นอะไร บีก็เลยโทรนัดคุณหมออีกครั้ง และได้วันทำ CT SCAN มา ซึ่งหลังจากนี้บีก็ได้ทำเรื่องย้ายประกันสังคมมาอยู่ที่อีก รพ.หนึ่ง

 

- 24 มีนาคม 2563 คือวันไปทำ CT SCAN คุณหมองงมาก “ผมเป็นแพทย์เฉพาะทางที่เขียนใบส่งตัวให้คุณไปละเอียดมาก เค้าไม่เปิดดู CD คุณได้ไง” 

 

ผลออกมาว่า จุดขาวๆ ที่กลางหน้าอกนั่นมันคือ เนื้องอก ที่ตอนนี้มีขนาดความยาว 9x8x7 ซม. และเนื่องด้วยว่าที่นี่เป็นคลินิกก็เลยสิ้นสุดการรักษาที่นี่ หมอก็เลยเขียนใบส่งตัวให้อีกครั้ง เพื่อให้มารักษาตัวต่อที่ประกันสังคมคือประกันสังคมแห่งใหม่

 

- 27 มีนาคม 2563 บีมายื่นใบส่งตัวที่ประกันสังคม หมอรับไปเปิดแผ่น CD และส่งตัวไปยังแพทย์เฉพาะทางด้านปอดทันที ได้ข้อสรุปว่า ต้องทำการเจาะชิ้นเนื้อออกไปตรวจดูว่าเป็นเนื้อดีหรือเนื้อร้ายแล้วค่อยมาออกแบบวิธีการรักษากันต่อไป หมออธิบายว่าเคสของบีเป็นเคสค่อนข้างยาก เพราะขนาดใหญ่และอยู่กลางหน้าอก เดี๋ยวหมอจะนัดวันเจาะให้ นัดให้เจาะกับหมอที่เชี่ยวชาญอีกคน

 

ระหว่างที่รอนี้คือไร้จุดหมายมากๆ จากวันที่ 27 มีนาคม 2563 บีได้วันผ่าเจาะชิ้นเนื้อคือวันที่ 8 พฤษภาคม ระหว่างเดือนกว่าๆ นี้ ที่ช้าเพราะรอวันนัดจากโรงพยาบาล “ได้วันนัดแล้วจะโทรแจ้ง” แล้วเงียบ พอโทรไปตามเองก็พบว่าได้วันนัดแล้ว (แล้วไหนบอกจะโทรบอก?) ไปตามนัดก็นัดให้ผิด ประสานงานกันผิดพลาด คือบอกตรงๆ ว่ามีความเสียเวลาหลายครั้งหลายหนมาก แล้วอยู่ๆ บีก็เสียงหายแบบแทบจะไม่มีเสียงออกมาเวลาพูด และอาการไอก็ยังไอเยอะเท่าเดิม ไม่มีเบาลงเลย
 

- 24 พฤษภาคม 2563 วันฟังผล สรุปว่าเป็นเนื้อไม่ดี ตอนนี้ได้ทำการส่งตัวไปรักษาตัวต่ออีก รพ. เพื่อดูแนวทางในการรักษาต่อไป
 

- 3 มิถุนายน 2563 คือวันที่บีไปโรงพยาบาลนี้ครั้งแรก (เป็น รพ.ที่ 3) เพื่อไปทำประวัติเฉยๆ หมอแนะนำให้ไปทำประวัติไว้ก่อนจะระหว่างรอผลตรวจชิ้นเนื้อรอบ 2 แล้วได้รับใบนัดให้มาใหม่ 10 มิถุนายน
 

- 10 มิถุนายน 2563 เวลา 8 โมงเช้า บีไปเอาใบส่งตัวที่ รพ.ประกันสังคม แล้วเดินทางต่อไปที่โรงพยาบาลที่ไปทำประวัติ ปรากฏว่า ยังทำอะไรไม่ได้อีก เพราะว่าเอกสารส่งตัวจาก รพ.ประกันสังคม ไม่ครบ ยังดำเนินการไม่ได้ บีเลยขับรถกลับ ระหว่างทางแฟนของบีเลยโทรหา รพ.นั้น ว่าได้ผลรอบ 2 หรือยัง

 

“ยังค่ะ ถ้าได้แล้วจะโทรไปบอกนะคะ” บีก็เห็นว่าโรงพยาบาลนี้เป็นทางผ่านกลับบ้านเลยแวะถามอีกที “อ้าว เมื่อกี้ญาติโทรมาแล้วไม่ใช่หรอคะ” แล้วเค้าก็ดูเอกสาร “อ้อ มาแล้ว เซ็นตรงนี้” เอา ไหนบอกจะโทรบอก งงเด้อ “คุณเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองนะ” หมอบอกบีเมื่อวานแล้วต่อจากนี้ก็ค่อยๆ รักษาตัวกันไป จบการรีวิว