ข่าว

สภาผู้แทนฯเริ่มอภิปรายทั่วไปม.152 โดยไม่ลงมติ "อนุดิษฐ์" ชี้รัฐบาลล้มเหลวการแก้เศรษฐกิจ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สภาผู้แทนราษฎร เริ่มอภิปรายทั่วไป ม.152 โดยไม่ลงมติ "อนุดิษฐ์" ชี้รัฐบาลล้มเหลวการแก้เศรษฐกิจ พร้อมชู 3 นิ้ว ปฏิญาณตนจะคืนอำนาจให้ประชาชน

การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อเสนอแนะรัฐบาลโดยไม่ลงมติตามมาตรา152 ของรัฐธรรมนูญซึ่งมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่เป็นประธาน โดยก่อนเข้าสู่ญัตติ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ได้ชี้แจงว่า ตามที่ได้มีการประชุมคณะกรรมการประสานงานได้ตกลงกันไว้ว่า ที่ประชุมและตกลงกันว่าพรรคร่วมฝ่ายค้าน 10 ชั่วโมง คณะรัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาล 5 ชั่วโมงและหากในระหว่างการอภิปรายมีการทักท้วงให้หักเวลาของฝ่ายที่ประท้วง

ขณะที่นายสุทิน คลังแสง ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ในส่วนของฝ่ายค้าน เป็นตามดุลพินิจของประธานจะส่งรายชื่อและกำหนดเวลาให้กับประธาน ส่วนคนใดอภิปรายเกินเวลาให้ประธานใช้ข้อบังคับสั่งหยุดได้เลย ในเมื่อเปิดประชุมช้าก็ต้องเลิกช้าจากนั้นนาวาเอกอนุศิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย ได้กล่าวถึงหลักการและเหตุผลเกิดขึ้นจากสถานการณ์ของประเทศในขณะนี้ ต้องถือว่ามีความน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งหลายเรื่องด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยนั้นหดตัวอย่างรุนแรง เป็นผลทำให้เศรษฐกิจที่แย่มาก่อนการระบาดของโควิด-19 ต้องได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงมากขึ้นในทุกด้าน การส่งออก การท่องเที่ยว การบริโภคภายใน การลงทุนเกิดการหดตัวอย่างรุนแรง ยิ่งไปกว่านั้นฐานะการคลังของรัฐบาล ก็ถือว่ามีความเปราะบางไม่ว่าจะเป็นการก่อหนี้เงินกู้ชดเชยการขาดดุลงบประมาณที่สูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ รวมไปถึงรัฐบาลจะต้องกู้เงินจำนวนมากเพื่อมาใช้ในการเยียวยาและแก้ไขปัญหาที่เกิดจากโควิด-19 ซึ่งก็เป็นผลให้หนี้สาธารณะในปี 2564 คาดว่าจะส่งถึงร้อยละ 58 หรืออาจจะเกินกว่านั้น และหากเป็นเช่นนั้นก็จะเกินกรอบความยั่งยืนทางการคลัง การฟื้นตัวของเศรษฐกิจนั้นไม่เป็นไปตามประมาณการ

ในขณะเดียวกันที่รัฐบาลจำเป็นที่จะต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจก็เกิดสถานการณ์ทางการเมืองขึ้นมาแทรกซ้อน ซึ่งเป็นผลมาจากความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลในการเข้าสู่อำนาจ การใช้อำนาจของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐไม่ได้อยู่บนหลักนิติธรรม และรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่ประชาชนเห็นว่าถูกออกแบบมาเพื่อเป็นการยืนยันในการสืบทอดอำนาจเผด็จการก็เกิดการชุมนุมของนักเรียนนิสิต นักศึกษา และประชาชนที่ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลนั้นหยุดการข่มขู่คุกคามประชาชน จัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยประชาชน และยุบสภาคืนอำนาจ ซึ่งก็ถือว่าเป็นข้อเรียกร้องทางการเมืองที่อยู่ในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ แต่รัฐบาลก็กลับฉวยโอกาสใช้กฏหมายเป็นเครื่องมือในการคุกคาม มีการจับกุมแกนนำผู้ชุมนุมทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่มีมากอยู่แล้วเกิดความตึงเครียด ส่งผลให้การฟื้นฟูเศรษฐกิจที่อยากกินอยู่แล้วต้องทวีความยากขึ้น ด้วยเหตุนี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคฝ่ายค้านจึงได้ร่วมกันลงชื่อ เพราะเห็นว่าสถานการณ์มีความน่าเป็นห่วงยิ่งนักเปราะบางและเป็นภัยอันตรายอย่างยิ่งต่อการปกครองในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ จึงเสนอญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป

ดังนั้นการอภิปรายต่อไปในวันนี้ ถือว่าเป็นโอกาสดีอย่างยิ่งที่คณะรัฐมนตรีจะได้ฟังคำถามและข้อเสนอแนะ เพื่อเป็นข้อมูลอีกด้าน และก็จะเป็นเรื่องดีอย่างยิ่งหากมีการนำข้อเสนอแนะและข้อเท็จจริงต่างๆไปปรับปรุงการทำงานก็จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน

นาวาเอกอนุดิษฐ์ กล่าวต่อว่าตนและสมาชิกหลายคนได้ลุกขึ้นอภิปรายรายทุกครั้งเพื่อฝากข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี แต่ปัญหาต่างๆไม่ค่อยได้รับการแก้ไข ข้าวยากหมากแพงเหมือนเดิม คนไทยก็ยังคงมีการฆ่าตัวตายไม่เว้นวัน 

“ใครใครเค้าก็บอกผมว่าท่านนายกเป็นคนดี ผมก็แอบเห็นตัวท่านเองก็ชมตัวท่านเองอยู่บ่อยบ่อยว่าท่านเป็นคนดี ท่านประธานต้องบอกท่านนายกว่าการเป็นคนดี ถ้าเป็นคนดีท่านต้องรีบแก้ไข อย่าแก้ตัวไปวันวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่าไปฟังพวกที่เค้าชอบประจบสอบพอบอกกับท่านนายกว่าบ้านเมืองไม่มีปัญหา ท่านบริหารราชการได้สุดยอด ใครพูดแบบนี้ท่านนายกบอกเลยครับว่าโกหกทั้งนั้น และอีกเรื่องต้องขอสักทีก๊วนกอล์ฟวันหยุดของท่านเลิกตีสักที เอาเวลาไปแก้ปัญหาบ้านเมืองจะดีกว่า” นาวาเอกอนุดิษฐ์

นาวาเอกอนุดิษฐ์ ได้กล่าวว่านายกรัฐมนตรีกำลังจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ให้เกิดการก่อม็อบก่อนการชุมนุมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นนายกรัฐมนตรีที่กำลังสร้างประวัติศาสตร์หน้าเมืองไทยที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนปรากฏการณ์มีการรวมตัวกันของเยาวชนออกไปรวมตัวกันขับไรหนักที่สุดในประวัติศาสตร์ รู้หรือไม่ว่าเพราะอะไร หากไม่ทราบขอให้ท่านนายกรัฐมนตรีได้หลับตา โดยตนจะขออนุญาตหลับตาเป็นเพื่อน 10 วินาที พร้อมตั้งคำถามว่าตอนหลับตาได้เห็นอะไรบ้างหรือไม่ เมื่อหลับตาก็เห็นแต่ความมืด นั่นแหละคือความมืดที่เป็นอนาคตของลูกหลานเยาวชนของเรา เพราะเยาวชนเขามองไม่เห็นอนาคตของเขา เห็นแต่ความมืด จึงออกมาชูสามนิ้ว จึงออกมาผูกริบบิ้นสีขาว ตั้งแต่ระดับประถมจนถึงอุดมศึกษา รวมถึงยังมีลูกหลานของคนในรัฐบาลก็ออกมาขับไล่ด้วย และเมื่อมีการออกมาชุมนุมขับไล่ ท่านก็ได้มีการตอบโต้ด้วยการตามจับออกหมายเรียกและตามคุกคาม ซึ่งโดนตั้งแต่เด็กระดับอนุบาลจนถึงมหาวิทยาลัย ทั้งนี้เราเกิดในยุคที่วันนี้คุณครูต้องไปลงโทษเด็กที่ติดริบบิ้นสีขาว เราเกิดในยุคที่ปรากฏภาพของตำรวจเข้าไปกดดันครู โรงเรียนกลายเป็นสถานที่ที่ไม่ปลอดภัยไม่มีใครต้องการให้เรื่องนี้เกิดขึ้น 

“ผมหวังเป็นอย่างยิ่ง เราควรจะต้องมาช่วยกันเปลี่ยนประวัติศาสตร์หน้านี้ให้มันจบในสภาที่รุ่นเรา ผมจะขออนุญาตทำหน้าที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทย ซึ่งพวกเราเป็น ส.ส.เขตทั้งหมด ที่มาจากการเลือกตั้งเสียงของพี่น้องประชาชนหลายล้านเสียงด้วยกัน จึงขออนุญาตชู 3 นิ้วเป็นคำมั่นสัญญา ปฏิญาณตนต่อหน้าคนไทยทั้งประเทศ ว่าเราจะขอคืนอำนาจอธิปไตยกลับมาให้กับประชาชน เราจะใช้รัฐสภาแห่งนี้แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อหาทางออกของประเทศ เพื่อให้เป็นไปตามข้อเรียกร้องของประชาชน เราขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐท่านต้องยุติความรุนแรง ยุติการคุกคาม ยุติการออกหมายเรียก แล้วก็เราจะต้องยุติรัฐธรรมนูญเผด็จการ เรากลับสู่การตั้ง สสร.แล้วก็คืนอำนาจให้กับประชาชน” นาวาเอกอนุดิษฐ์ 

นาวาเอกอนุดิษฐ์ ยังได้กล่าวเชิญชวนให้ประธานและนายกรัฐมนตรี รวมถึงรัฐสภาได้มาร่วมกันเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญอย่างจริงใจ เพราะกติกาที่เป็นปัญหาของประเทศฉบับนี้เป็นต้นเหตุของปัญหาและเป็นข้อเรียกร้องหลักของการเคลื่อนไหวของเยาวชนทั่วประเทศ พร้อมกันนี้ได้โชว์รายชื่อของนิสิตนักศึกษาและเยาวชนที่โดนหมายจับทั่วประเทศ ดังนั้นหากนายกรัฐมนตรีมีความกรุณารับฟังอย่างที่เคยได้ให้สัมภาษณ์ไป และอยากขอร้องให้นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้ยกเลิกหมายจับของเยาวชนทั่วประเทศเพราะหากเกิดขึ้นจริงบรรยากาศของประเทศก็จะผ่อนคลายจากนั้นให้เปิดเวทีให้เยาวชนได้มีการเสนอข้อเรียกร้องผ่านนายกรัฐมนตรี 

“ให้หยุดคุกคาม แต่เปลี่ยนเป็นคุ้มครอง หยุดปิดหูแล้วเปลี่ยนมาเป็นรับฟัง หยุดปิดกั้นแล้วนำเสนอทางออกร่วมกัน ผมเชื่อว่านายกรัฐมนตรีสามารถที่จะลงมาฟังเด็กเด็กลูกหลานเยาวชนของเรา”
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ