"ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ" ช่วงปีใหม่ 64
"ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ" ช่วงปีใหม่ 64
นิพนธ์ ชี้ ด่านป้องกันอุบัติเหตุและด่านป้องกันโควิด-19 ต้องทำควบคู่ ย้ำต้องตรวจแอลกอฮอล์ทุกกรณีที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ในการประชุมกก.นโยบายป้องกัน ลดอุบัติเหตุแห่งชาติ พร้อมดำเนินการเชิงรุก บังคับใช้กฎหมายเข้ม ตั้งเป้าลดความสูญเสีย เน้นสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนในทศวรรษหน้า(พ.ศ.2565-2575 )
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 28 ธันวาคม 2563 ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ ครั้งที่2/2563 ร่วมกับ ผวจ.ทั่วประเทศ ผ่านระบบ วีดีโอ คอนเฟอร์เร้น และร่วมพิธีเปิดศูนย์อำนวยการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2564 โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการนโยบายป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ (นปถ.)เป็นประธาน พร้อมทั้ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมการประชุม
โดยที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้า การดำเนินงานด้านการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนน ในปีที่ผ่านๆมา ซึ่งมีสถิติผู้เสียชีวิตลดน้อยลง รวมทั้งรับทราบ กิจกรรมจากการแปลงนโยบายสู่การปฏิบัติ เพื่อรองรับมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย อย่างเข้มงวดในการปฏิบัติตามกฎจราจร ของผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะ การสร้างจิตสำนึกวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน การเฝ้าระวังและลดปัจจัยเสี่ยงจากอุบัติเหตุ พร้อมทั้งการพัฒนาระบบการบริหารจัดการ และกลไกการติดตามประเมินผล โดยเฉพาะช่วงเทศกาลต่างๆ ที่มีมาตราการบูรณาการของทุกหน่วยงาน ร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุให้ครอบคลุมทั้งพื้นที่ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งในภาพรวมได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนเป็นสำคัญ ตามนโยบายของรัฐบาล
ทั้งนี้คณะกรรมการฯ ได้มีการพิจารณาเรื่องสำคัญคือ ได้มีมติเห็นชอบนโยบายการดำเนินงานความปลอดภัยทางถนน ในทศวรรษหน้า(พ.ศ.2565-2575 ) เนื่องจากแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน ( พ.ศ.2561-2564 ) จะสิ้นสุดลงในปีหน้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแก้ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน แม้ในปีที่ผ่านมาจะมีสถิติการสูญเสียลดลง แต่อุบัติเหตุบนท้องถนนยังถือว่ามีความสำคัญและนำมาซึ่งความสูญเสีย จำนวนมาก จึงจำเป็นจะต้องมีการกำหนดนโยบายยุทธศาสตร์ ทั้งระยะสั้น และระยะยาวโดย ให้จังหวัด ,อำเภอ,องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น,เจ้าหน้าที่ตำรวจ และกรมการขนส่งทางบก ได้นำไปปฏิบัติเพื่อแก้ไข และเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ทั้งในช่วงเทศกาลปีใหม่ และตลอดทั้งปี ต่อไป
พล.อ.ประวิตร กล่าวตอนหนึ่งว่า "รัฐบาลมีความห่วงใยในความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ที่จะต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยว ทำบุญ และเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ รัฐบาลจึงได้มีคำสั่งให้ตั้งศูนย์ฯ พร้อมกำชับ มท.,สตช. และ กรมการขนส่งทางบก ตลอดจนหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้กำหนดมาตรการเชิงรุก เตรียมความพร้อมให้ชัดเจน บังคับใช้ กม. อย่างจริงจัง สร้างการตระหนักรู้ให้แก่ประชาชน ในการใช้รถใช้ถนน อย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามกฎจราจร อย่างเคร่งครัด ลดปัจจัยเสี่ยง เช่นไม่ขับรถเร็วตามที่ กม.กำหนด ,ไม่ดื่มสุรา (เมาไม่ขับ) หรือสวมหมวกนิรภัยในขณะขับขี่จักรยานยนต์ เป็นต้น พร้อมให้มีการรณรงค์ "ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” ให้ประชาชน ทราบโดยทั่วกันด้วย"
ขณะที่ นายนิพนธ์ รมช.มท กล่าวเสริมอีกว่า"การสังสรรค์เฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลปีใหม่นั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 การร่วมวงสังสรรค์จะทำในหมู่เครือญาติใกล้ชิด ซึ่งต้องไม่ลืมในเรื่องของการเมาสุราแล้วขับขี่ยานพาหนะและจะต้องมีการตรวจแอลกอฮอล์ในเลือดทุกกรณีที่มีการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ โดยจะต้องตระหนักและให้ความสำคัญกับมาตรการการเว้นระยะห่างสังคมเพื่อป้องกันโควิดฯ โดยเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบต้องดำเนินมาตรการทั้งเรื่องป้องกันและลดอุบัติเหตุควบคู่ไปกับการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ด้วย"