"เรืองไกร" ร้อง ป.ป.ช. สอบ "ชวน หลีกภัย" ตั้ง "พล.อ.ชัยชาญ " รมช.กห. เป็นกรรมการสมานฉันท์ มีพฤติการณ์เข้าข่ายจงใจใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่
1 กุมภาพันธ์ 2564 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ตนได้ส่งจดหมาย EMS ขอให้ ป.ป.ช. สอบ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาว่ามีพฤติการณ์เข้าข่ายจงใจใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวว่า สืบเนื่องจากกรณีที่นายชวน ในฐานะประธานรัฐสภา ออกประกาศตั้ง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กห. ไปเป็นกรรมการสมานฉันท์ ตามประกาศรัฐสภา ลงวันที่ 11 ม.ค.2564 ซึ่งเป็นประกาศของฝ่ายนิติบัญญัตินั้น จะเป็นการใช้อำนาจขัดรัฐธรรมนูญ หรือไม่
เนื่องจากตามประกาศดังกล่าว อ้างว่าอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 80 วรรคสี่ แต่เมื่อไปพิจารณาเนื้อหาที่บัญญัติในมาตราดังกล่าว ไม่มีข้อความใดที่ให้อำนาจไว้โดยตรงเพื่อตั้งกรรมการแต่อย่างใด
นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า ประกาศดังกล่าวก็ไม่ได้อ้างถึงมาตราอื่นของรัฐธรรมนูญไว้ด้วย การตั้งกรรมการใดๆ จะมีแต่ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภาซึ่งให้อำนาจประธานฯตั้งกรรมการได้ตามที่กฎหมายบัญญัติเท่านั้น
นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า พล.อ.ชัยชาญ ไม่ใช่ ส.ส. และตามแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 10/2551 เคยวางบรรทัดฐานไว้แล้วในเรื่องการขัดกันแห่งผลประโยชน์ที่ห้าม ส.ส. ไปเป็นกรรมการในฝ่ายบริหาร ตามหลักการดังกล่าว รมต.ที่ไม่ใช่ ส.ส.ก็ต้องไม่ไปดำรงตำแหน่งในฝ่ายนิติบัญญัติด้วย
ดังนั้น การที่นายชวน ตั้งรัฐมนตรีที่ไม่ใช่ ส.ส. ให้มาเป็นกรรมการในฝ่ายนิติบัญญัติ จึงอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 186 ดังนั้น การอ้างมาตรา 80 วรรคสี่ จึงอาจเข้าข่ายมีพฤติการณ์จงใจใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญตามมาตรา 234 (1) ซึ่งอยู่ในอำนาจ ป.ป.ช.
นายเรืองไกร กล่าวตามมาว่า เว็บไซต์สภาผู้แทนราษฎรได้เผยแพร่ว่า กรรมการสมานฉันท์ได้ประชุมไปแล้วสองครั้งเมื่อวันที่ 18 และ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา การประชุมดังกล่าวคงมีการจ่ายเบี้ยประชุมด้วย ซึ่งเป็นการใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน หากไม่ชอบ ก็ต้องมีการเอาผิดตามกฎหมายและเรียกคืนเงินที่รับไปแล้ว ซึ่งถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว
นายเรืองไกร สรุปว่า ด้วยเหตุนี้ตนจึงมีเหตุที่ต้องร้องขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาว่ามีพฤติการณ์เข้าข่ายจงใจใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญตามมาตราที่เกี่ยวข้องดังกล่าวหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง