ข่าว

"อัจฉริยะ" แฉโรงพยาบาลดัง ปล่อย "พริตตี้ วาวา" นอนสิ้นใจ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"อัจฉริยะ" พร้อมด้วยมารดา "พริตตี้ วาวา" บุกร้องขอความเป็นธรรม กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณะสุข หลังพบไทม์ไลน์ เหยื่อสาวนอนรอการรักษา นานถึง 50 นาที ก่อนสิ้นใจ

วันนี้(2 มี.ค.64) ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม  พร้อมด้วย นางพรทิพย์แก้วสุขอายุ 54 ปี มารดาของ พริตตี้ วาวา (ผู้ตาย)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง ย้อนไทม์ไลน์ก่อนนาทีดับพริตตี้สาว 'วาวา' - พฐ.เร่งกู้ไฟล์ภาพวงจรปิด 

 

 

\"อัจฉริยะ\"  แฉโรงพยาบาลดัง ปล่อย \"พริตตี้ วาวา\" นอนสิ้นใจ

และ นายคเชน วิเศษสมบัติ อายุ 22 ปี น้องชายผู้ตาย  นำหลักฐานเอกสารเกี่ยวกับการจ่ายค่ารักษาพยาบาลน้องวาวาเข้าร้องทุกข์กับนพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์  อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ  กรณีที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่รักษาอาการ ปล่อยให้ผู้ตายนอนรอจนเสียชีวิต

 

\"อัจฉริยะ\"  แฉโรงพยาบาลดัง ปล่อย \"พริตตี้ วาวา\" นอนสิ้นใจ

นายอัจฉริยะ  เปิดเผยว่า วันนี้นำเอกสารเกี่ยวกับการสั่งจ่ายค่ารักษาพยายาลน้องวาวา ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในวันเกิดเหตุเข้าร้องทุกข์กับ สบส. เนื่องจากทางโรงพยาบาลไม่ดำเนินการรักษาน้องวาวว ตามสิทธิUCEP โดยน้องวาวาต้องนอนรอการรักษานานถึง 50 นาที  ซึ่งถ้าหากน้องวาวา ได้รับการรักษาอย่างทันทวงที ก็อาจจะไม่เสียชีวิตแบบนี้  พร้อมโชว์หลักฐานเป็นกล้องวงจรปิด ในวันเกิดเหตุปรากฎเวลา 06.29 น.

 

รถเก๋งคันหนึ่งได้นำน้องวาวา มาส่งที่โรงพยาบาล  แต่แพทย์ไม่นำเข้าห้องไอซียู ต่อมาเวลา06.33น. คนที่นำตัวน้องวาวา ส่งโรงพยาบาล ได้นำโทรศัพท์ของน้องวาวา โทรหาเพื่อนสนิท เพื่อตามให้มาดูแลน้องวาวาที่โรงพยาบาล  โดยใช้นิวมือของน้องวาวา สแกนหน้าจอโทรศัพท์   ต่อมาเวลา 07.10น. เป็นคลิปน้องวาวา ยังคงนอนรอความตายอยู่บนเตียง โดยที่ยังไม่ได้รับการรักษาอยู่บนเตียง (นิ้วขยับได้) 

 

จนกระทั่งนายเก๋ง มาที่โรงพยาบาลและได้ทำการจ่ายมัดค่ารักษา โดยการโอนผ่านK-bank จำนวน 15,000 บาท และเป็นคนเซ็นต์สัญญารับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด  ทั้งนี้ ในใบเสร็จรับเงินระบุเริ่มการักษาน้องวาวา ในห้องไอซียูในเวลา 07.18น. และน้องวาวาเสียชีวิตตอน 08.45 น. ซึ่งถ้าไล่ไทม์ไลน์ จะเห็นได้ว่าน้องวาวา ต้องนอนรอทั้งที่เข้าสู่ขั้นวิกฤตนานถึง 50 นาที จึงจะได้รับการรักษา 

 

"ถือว่าโรงพยาบาลโหดร้ายมาก  นอกจากนี้หลังน้องวาวาเสียชีวิต และจะนำร่างส่งนิติเวช ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลยังไม่ยอมให้นำตัวส่ง ต้องชำระค่าชุดที่น้องใส่อยู่อีก 500 บาท จึงจะยอมให้นำตัวน้องออกไปชันสูตรได้" นายอัจฉริยะ  กล่าว 

 

 

 

 

นายอัจฉริยะ  กล่าวอีกว่า สำหรับคดีนี้ไม่น่าเป็นหัวเรื่องผู้มีอิทธิพล เพราะตนทำงานเป็นอย่างไรทุกคนก็รู้ สำหรับคดีนี้เหลืออีก 6 คนที่ยังไม่เข้ามาสอบปากคำ ถ้าไม่มาทางเจ้าหน้าที่ก็คงต้องบังคับออกหมายเรียกให้มา  ส่วนนายเก่ง นั้นถือว่าให้การเป็นประโยชน์มาก แต่ไม่ขอให้ในรายละเอียด ทั้งนี้อยากฝากไปถึงโรงพยาบาลแห่งนี้ด้วย ว่าทางครอบครัวจะดำเนินการทั้งคดีแพ่ง และอาญา หากทางโรงพยาบาลไม่ให้ความเป็นธรรม ตนจะเอาศพน้องวาวาขึ้นมาตั้งหน้าโรงพยาบาล

 

ทางด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์  อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ  กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต  และยินดีรับเรื่องที่ทางครอบครัวเข้ามาร้องเรียน และจะนำเอกสารหลักฐานที่ได้จากนายอัจฉริยะ ดำเนินการให้กองกฎหมายทำการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าในวันเกิดเหตุได้ช่วยเหลือน้องวาวา ตามสิทธิUCEPหรือไม่ รวมไปถึงตรวจสอบมาตรฐานวิชาชีพ และทางโรงพยาบาลได้รับการประเมินUCEPตามระเบียบหรือไม่ 

 

หากตรวจสอบพบว่ามีความผิดก็จะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล มาตรา 36 ผู้รับอนุญาตและผู้ดําเนินการของสถานพยาบาลต้องควบคุมและดูแลให้มีการช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วย ซึ่งอยู่ในสภาพอันตรายและจําเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลโดยฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้ป่วยพ้นจากอันตราย ตามมาตรฐานวิชาชีพ และตามประเภทของสถานพยาบาลนั้น ๆ  โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

 

ทางด้านนางพรทิพย์ แก้วสุข  แม่ของน้องวาวา เปิดเผยว่า ตนเองไม่ได้เห็นคลิปที่น้องนอนรอการรักษาในโรงพยาบาล ตนพิ่งมาเห็นในภายหลัง ซึ่งต้องบอกว่า แม่หัวใจสลายไปตั้งแต่ที่รู้ว่าน้องเสียชีวิตแล้ว และพอมาเห็นคลิปนี้ ใจแม่มันพูดอะไรไม่ออกแล้ว เพราะในคลิปภาพนี้ นิ้วมือน้องยังกระดิกได้ น้องยังไม่เสียชีวิต แต่นอนโดยที่ไม่ได้รับการรักษา ถ้าแพทย์เร่งทำการรักษาในตอนนั้น ลูกแม่อาจจะไม่ต้องเสียชีวิตแบบนี้ อย่างไรก็ตาม แม่จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และจะไม่ยอมเผาศพน้องวาวา จนกว่าคดีนี้จะเสร็จสิ้น

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ