'ไทยไม่ทน'จี้ "ผบ.ตร."ลาออก "ส.ว."
"กลุ่มไทยไม่ทน" บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยื่นหนังสือจี้ ผบ.ตร. ลาออกจาก สมาชิกวุฒิสภา เอาเวลาไปไปปฏิรูปตัวเองให้เป็นตำรวจอาชีพ ไม่ให้ใครมาแทรกแซง หยุดค้ำบัลลังก์ให้กับ"นายกฯ"ที่ไม่มีศักยภาพในการบริหารและแก้ไขปัญหาประเทศ
28 พ.ค. 2564 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กลุ่มไทยไม่ทน “คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย” นำโดย อดุลย์ เขียวบริบูรณ์, จตุพร พรหมพันธ์, วีระ สมความคิด ฯลฯ เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ลาออกจากการทำหน้าที่สมาชิกสุฒิสภา โดยตำแหน่ง โดยมีพ.ต.อ.ธงชัย วิไลพรหม รองผบก.ทพ. ซึ่งปฏิบัติหน้าที่นายตำรวจเวรอำนวยการเป็นตัวแทนออกมารับหนังสือ
นายอดุลย์ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาด้วยความปราถนาดี ถึงเวลาแล้วที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะต้องลาออกจากการดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา เพื่อออกมาช่วยชาติหยุดค้ำบัลลังก์ให้กับนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์
ด้านนายจตุพร กล่าวว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกับพวกของตนมีความสัมพันธ์อันดีมาตลอด ทุกฝ่ายต่างเคารพหน้าที่ของตัวเอง เมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเดินทางมาจุดนี้ จึงเห็นว่า ตำแหน่งของผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้งหมด ที่ตามรัฐธรรมนูญระบุว่าต้องดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา ควบคุมการทำงานของนายกรัฐมนตรีเพียงแต่ตำรวจ อยู่ฝ่ายบริหารต้องอยู่ภายใต้การดำเนินงานของนายกรัฐมนตรี จึงเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกัน ขอฝากไปถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าพลเอกประยุทธ์ ดำรงอยู่ โดยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะเรื่องการปกป้องสถาบัน ซึ่งเป็นหน้าที่ตามหลักประชาธิปไตย และที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องตกเป็นจำเลยของสังคมมาเสมอ ถึงเวลาแล้วที่ตำรวจจะต้องถอดสลักระเบิดเวลาทางการเมืองของประเทศไทย ด้วยการกลับไปปฏิบัติหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์และลาออกจากสมาชิกวุฒิสภา
ด้านนายวีระ กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ตำรวจเองยังเอาตัวไม่รอด เพราะฉะนั้นแล้วตำรวจควรกลับไปปฏิรูปตัวเองให้เป็นตำรวจอาชีพไม่ให้ใครมาแทรกแซง ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าการแทรกแซงเกิดขึ้น เพราะไม่มีการปฏิรูปอย่างเช่นเรื่องการซื้อขายตำแหน่ง การปฏิรูปจะทำให้ตำรวจสามารถกลับไปรับใช้ประชาชนได้อีกครั้ง
สำหรับหนังสือที่ยื่นในวันนี้ มีใจความว่า ด้วยบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 269(1) (ค) บัญญัติให้ผู้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่ง ประกอบกับ (4) กำหนดให้มีวาระห้าปีนับตั้งแต่วันที่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งสมาชิกภาพของสมาชิกวุฒิสภา
บัดนี้ สถานการณ์ของประเทศอยู่ในภาวะวิกฤต อันเนื่อง จากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไร้ประสิทธิภาพ ขาดวิสัยทัศน์ ไม่มีศักยภาพในการบริหารและแก้ไขปัญหาประเทศ
ล้มเหลว กระทั่งประชาชนทุกภาคส่วนขาดความเชื่อมั่น พร้อมกับเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยหวังจะได้บุคคลใหม่ที่มีความสามารถมาแก้ไขปัญหาของชาติ ทั้งจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมาบริการประชาชนให้รอดพ้นจากโรคระบาดโควิด-19 จนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย เป็นการรวมตัวกันของคนทุกภาคส่วนอาชีพ ขอให้ท่าน “ลาออก” จากสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่ง เพื่อใช้เวลาทั้งหมดทำหน้าที่หลักในการควบคุมดูแลบังคับบัญชาข้าราชการตำรวจทั้งมวล ให้ทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ หากท่านอยู่ในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพร้อมกับมีสมาชิกภาพวุฒิสภาที่มีการประชุมสัปดาห์ละ 2 วัน ก็จะเบียดเบียนเวลาปฏิบัติหน้าที่ราชการตำรวจ อีกทั้งในยามเชื้อโรคร้ายโควิด-19 ระบาดรุนแรงประชาชนทั่วหัวระแหงยังคอยรับความช่วยเหลืออยู่
ด้วยเหตุนี้ การลาออกของท่านจึงทำให้มีเวลารับใช้ประเทศชาติอย่างเต็มที่ ได้ใช้ความรู้ ความสามารถบัญชาการผู้ใต้บังคับบัญชาร่วมผนึกกำลัง ไปป้องกันความมั่นคงให้ประชาชนจะได้รอดพ้นจากโรคระบาดโควิด-19
คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย เชื่อมั่นว่า การลาออกจากสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่งของท่านสามารถกระทำได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 111 (3) ซึ่งมีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์ รวมทั้งท่านจะไม่ตกเป็นที่ครหาทางการเมือง ในการใช้ข้าราชการตำรวจไปค้ำบัลลังก์อำนาจของพลเอกประยุทธ์ ซึ่งมีที่มาทางการเมืองไม่ชอบธรรม ขัดหลักจริยธรรมการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย
ดังนั้นการลาออกดังกล่าว ย่อมแสดงถึงจุดยืนอันมั่นคงตามหลักประชาธิปไตย และมุ่งรับใช้ประชาชนมากกว่าไปคุ้มครองผลประโยชน์ส่วนตนของพลเอกประยุทธ์ ที่สำคัญระบอบประยุทธ์ไม่ได้ทำหน้าที่ ในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างที่ควรจะเป็น ทั้งที่กำลังมีภัยคุกคามต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ดังนั้นหน้าที่หลักของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจึงต้องกลับมาทำหน้าที่สำคัญดังกล่าว
ด้วยเหตุนี้ คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทยจึงขอให้ท่านได้ทำตามที่ประชาชนเรียกร้อง ให้ลาออกจากสมาชิกวุฒิสภา เพราะการลาออกดังกล่าวนั้น จะเป็นส่วนสำคัญให้พลเอกประยุทธ์ ยอมลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และหลีกทางให้ผู้มีความสามารถคนใหม่มาเป็นนายกรัฐมนตรี นำพาประเทศชาติให้หลุดพ้นจากหายนะ
ทั้งนี้กลุ่มไทยไม่ทน มีกำหนดการเดินทางไปกองทัพไทย ในวันจันทร์ที่ 31 พ.ค. 2564 เวลา 13.00 น.