"กรมการค้าภายใน"ปั้น "แบรนด์สินค้าหมู่บ้าน"ทำมาค้าขาย สร้างรายได้กลับสู่ชุมชน "กระตุ้นเศรษฐกิจ"ฝ่าวิกฤต"โควิด -19"
"กรมการค้าภายใน"ปั้น "แบรนด์สินค้าหมู่บ้าน"ทำมาค้าขาย พร้อมหาช่องทางจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ สร้างรายได้กลับสู่ชุมชน "กระตุ้นเศรษฐกิจ"ฝ่าวิกฤต"โควิด -19"
นายวัฒนศักดิ์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายในการเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้มแข็งจากเศรษฐกิจภายในประเทศโดยดำเนินนโยบายเศรษฐกิจชุมชนหรือเศรษฐกิจท้องถิ่น(Local Economy)ซึ่งมีความสอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง
รวมทั้งมุ่งเน้นการยกระดับรายได้ให้กับผู้มีรายได้น้อยโดยเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศมีการเจริญเติบโตอย่างมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน กระทรวงพาณิชย์จึงสานต่อนโยบายในการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจชุมชนโดยให้ความสำคัญกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน
ซึ่งเป็นผู้ประกอบการในชุมชนที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในการขยายฐานการตลาดโดยเพิ่มช่องทางรายได้ให้หลากหลายเพื่อให้วิสาหกิจชุมชนสามารถที่จะดำเนินธุรกิจให้เติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน
นายวัฒนศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังไม่บรรเทาลง กรมการค้าภายในเล็งเห็นถึงผลกระทบต่อรายได้ของวิสาหกิจชุมชนจากการจำหน่ายสินค้าและบริการต่างๆ ที่ลดลง จึงได้ดำเนินโครงการพัฒนาเพิ่มศักยภาพหมู่บ้านทำมาค้าขายขึ้นเพื่อต่อยอดจากการดำเนินการที่ผ่านมา
โดยในปี 2564 นี้ กรมการค้าภายในจะเข้าไปพัฒนาเพิ่มศักยภาพ วิสาหกิจชุมชน(กลุ่มผ้าทอและเครื่องประดับ) ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการหมู่บ้านทำมาค้าขายจำนวน 8 แห่ง
ดังนี้ 1.วิสาหกิจชุมชนหล่ายแก้ว อำเภอดอยเต่าจังหวัดเชียงใหม่ 2.ชุมชนวัวลาย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 3.วิสาหกิจชุมชนบ้านนาต้นจัน ตำบลบ้านตึก อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย
4.กลุ่มหัตถกรรมผ้าไหมบ้านดู่ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา 5.วิสาหกิจชุมชนกลุ่มทอผ้าย้อมสีธรรมชาติหนองบัวแดง อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ 6.กลุ่มทอผ้าไหมผ้าฝ้ายบ้านห้วยทราย อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม 7.กลุ่มแปรรูปผ้ามัดย้อมบ้านสงเปลือย อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร และ8.กลุ่มทอผ้าดอกแค อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช
นายวัฒนศักดิ์ กล่าวต่อว่า กรมการค้าภายในจะร่วมกับวิสาหกิจชุมชนในการพัฒนายกระดับ-และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชน พร้อมทั้งส่งเสริมทางการตลาดโดยการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
ทั้งนี้คาดว่าโครงการดังกล่าวจะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับวิสาหกิจชุมชนให้สามารถดำรงธุรกิจของชุมชนอยู่ได้อย่างมั่นคง สร้างรายได้กลับสู่ชุมชนอย่างแท้จริงขณะเดียวกันผู้บริโภคจะสามารถเข้าถึงสินค้าและเลือกซื้อสินค้าชุมชนได้อย่างงสะดวกและรวดเร็ว