ข่าว

"ข่าวจริง" อย. รับรองฟ้าทะลายโจร เข้าบัญชียาหลัก รักษาโควิด-19

"ข่าวจริง" อย. รับรองฟ้าทะลายโจร เข้าบัญชียาหลัก รักษาโควิด-19

12 ก.ย. 2564

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยัน อย. รับรองฟ้าทะลายโจร เข้าบัญชียาหลักแห่งชาติ รักษาโควิด-19 เป็นข้อมูลจริง

วันที่ 12 ก.ย.64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็น "ข่าวจริง" เพิ่มเติม 1 กรณีคือ กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง อย. รับรองฟ้าทะลายโจร เข้าบัญชียาหลักแห่งชาติ รักษาโควิด-19 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขพบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง "ข่าวจริง"

 

คณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร ได้มีประชุมครั้งที่ 6/2564 เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 และมีมติคัดเลือกรายการสมุนไพรจำนวน 2 รายการ คือ ยาสารสกัดจากฟ้าทะลายโจร และยาจากผงฟ้าทะลายโจร เพื่อใช้กับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ภายใต้เงื่อนไขดังนี้


1. ให้ใช้กับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีความรุนแรงน้อย เพื่อลดอาการของโรคที่รุนแรง
2. เฉพาะผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่มีการควบคุมปริมาณ andrographolide
3. รับประทานในขนาดยาที่มีปริมาณ andrographolide 180 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งให้รับประทานวันละ 3 ครั้ง
4. ใช้ได้โดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
5. มีการติดตามประเมินประสิทธิผล และความปลอดภัยหลังการใช้อย่างเป็นระบบ


ซึ่งได้มีการออกประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เป็นต้นมา "ข่าวจริง



 

และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางด้านสุขภาพ หรือหากพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัย สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1556 และสามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.fda.moph.go.th

 

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : อย. รับรองฟ้าทะลายโจร เข้าบัญชียาหลักแห่งชาติ รักษาโควิด-19 ้เป็น "ข่าวจริง" 

 

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป