ข่าว

เช็คให้แน่ใจ กกต.แจ้ง"เลือกตั้งอบต." ตรวจสอบคุณสมบัติให้ครบถ้วนก่อนสมัคร

เช็คให้แน่ใจ กกต.แจ้ง"เลือกตั้งอบต." ตรวจสอบคุณสมบัติให้ครบถ้วนก่อนสมัคร

10 ต.ค. 2564

จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. เผยความพร้อมเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล หรือ "เลือกตั้งอบต." ขอให้ผู้สมัครตรวจสอบคุณสมบัติให้แน่ใจไม่ขัดกฎหมาย

 

ประเดิมการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ นั่นคือ  "การเลือกตั้งอบต." หรือ การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)  ซึ่งขณะนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้ซักซ้อมเตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว อย่างไรก็ตาม"กกต."ได้ออกมาเตือน ผู้ประสงค์ลงสมัครเลือกตั้งอบต. ตรวจสอบคุณสมบัติเป็นไปตามกฎหมาย เพราะหากพลาดไปอาจต้องได้รับความผิด  โดยกกต. จะเปิดรับสมัครสมาชิกอบต.และนายกอบต. ตั้งแต่วันพรุ่งนี้แล้ว(11 ต.ค.) จนถึง 15 ต.ค.64

 

"พ.ต.อ.จรุงวิทย์  ภุมมา"  เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  เปิดเผยว่า  การเตรียมความพร้อมการเปิดรับสมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)  กำหนดเปิดรับสมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ระหว่างวันที่ 11 - 15 ต.ค. ขณะนี้ภาพรวมทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่ได้รับรายงานว่าพื้นที่ใดพบปัญหาหรืออุปสรรคใด

 

จรุงวิทย์  ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

 

ทั้งนี้ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ผู้รับสมัครให้ปฏิบัติตามแนวทางที่ได้วางไว้อย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดด้วย

 

"ผมมีความเป็นห่วงในส่วนผู้ประสงค์ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ว่าจะมีผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมาลงสมัคร จึงอยากย้ำเตือนว่าขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติให้เรียบร้อย เพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องหรือคดีความ อยากให้ตรวจสอบคุณสมบัติให้เรียบร้อย"  เลขาธิการ กกต. กล่าว 

 

อย่างไรก็ตาม ในวันอาทิตย์ที่ 28 พ.ย.ที่จะมีการเลือกตั้งนั้น อยากให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งกันให้มากๆ อย่านอนหลับทับสิทธิ หากมีเหตุที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิได้ก็สามารถยื่นแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิได้ แต่ถ้าไม่ไปใช้สิทธิและไม่แจ้งเหตุก็จะเสียสิทธิหลายอย่าง

 

อนึ่ง ผู้สมัครที่รู้ว่าตนเองขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัคร แล้วมาสมัคร มีโทษตามมาตรา 120 ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี และปรับตั้งแต่ 2 หมื่นถึง 2 แสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี