ข่าว

"โชเฟอร์แท็กซี่" ปาดวินจยย.ล้มชน "ยายพร" เจ็บสาหัส มั่นใจไม่ได้ชนใคร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"โชเฟอร์แท็กซี่" ปากหน้า วินจยย. จนเสียหลักพุ่งชน "ยายพร" เจ็บสาหัส เข้าพบตำรวจ สน.บางขุนเทียน ยืนยันเปิดไฟเลี้ยว และ มั่นใจไม่ได้ชนใคร ขณะตำรวจแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท

2 ธ.ค.2564 ความคืบหน้าการติดตามตัว โชเฟอร์แท็กซี่ เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ จนเสียหลักพุ่งเข้าชน นางวรรณทนีย์ อุไรวรรณ์  หรือ ยายพร อายุ 68 ปี ล้มลงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดย โชเฟอร์แท็กซี่ ขับรถหลบหนีไปโดยไม่ได้ลงมาให้การช่วยเหลือแต่อย่างใด ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้ามืด วันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา บริเวณปากซอยเอกชัย 22 ซึ่งล่าสุด ยายพร อาการปลอดภัยแล้ว  ที่ผ่านมาตามที่เสนอไปก่อนหน้านี้แล้ว 

 

ขณะที่ นายทัชชัย สุทาบุญ อายุ 41 ปี คนขับวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง ปากซอยวัดหนัง เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ถูกรถแท็กซี่ ไม่ทราบทะเบียน ปาดหน้ากระทันหันเพื่อเข้ารับผู้โดยสาร จนเป็นเหตุให้รถ จักรยานยนต์ของตนเสียหลักพลิกคว่ำไถลไปชน ยายพร ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนตนเองก็ได้รับบาดเจ็บและ รถจักรยานยนต์ ได้รับความเสียหาย โดยโชเฟอร์รถแท็กซี่คันดังกล่าวเร่งเครื่องหลบหนีไปไม่จอดให้ความช่วยเหลือ 

 

 

\"โชเฟอร์แท็กซี่\" ปาดวินจยย.ล้มชน \"ยายพร\" เจ็บสาหัส มั่นใจไม่ได้ชนใคร

 

ล่าสุด ที่ สน.บางขุนเทียน นายอนุรักษ์ กระจ่างโฉม อายุ 55 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีเขียวเหลือง ทะเบียน 1 มก 3848 กรุงเทพมหานคร เข้าพบ พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ บุญเสริมศักดิ์ สว.(สอบสวน) สน.บางขุนเทียน เพื่อมอบตัวและรับทราบข้อกล่าวหา โดย นายอนุรักษ์ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนเห็น ยายพร ยืนอยู่ข้างถนนและโบกเรียกรถตนซึ่งกำลังแล่นมาตามทางเดินรถช่องทางที่ 2  จังหวะนั้นตนเปิดไฟเลี้ยวซ้ายเพื่อจะเข้าริมถนนจอดรับยายแล้ว

 

\"โชเฟอร์แท็กซี่\" ปาดวินจยย.ล้มชน \"ยายพร\" เจ็บสาหัส มั่นใจไม่ได้ชนใคร

 

จังหวะนั้น ได้ยินเหมือนมีรถเกิดอุบัติเหตุชนกันขึ้นจากด้านหลัง ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าใครชนใคร แต่รถตนไม่ได้โดนชน ด้วยความตกใจประกอบกับบริเวณนั้นมืดมาก จึงเร่งเครื่องมุ่งหน้าออกจากจุดเกิดเหตุ ไปรับผู้โดยสารที่อื่น กระทั่งเห็นภาพคลิปเหตุการณ์จากข่าว ถึงรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความประมาทของตน ตนก็พร้อมแสดงความรับผิดชอบด้วยการเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนทันที ส่วนจะเป็นเรื่องประมาทร่วมกันกับ นายทัทชัย ผู้ขับขี่ รถวินจักรยานยนต์รับจ้างด้วยหรือไม่ ต้องให้พนักงานสอบสวนพิจารณา ตนก็พร้อมที่จะประสานงานกับบริษัทประกันภัย ซึ่งตนทำกรรมธรรม์คุ้มครองชั้น 3 เอาไว้ และยังมี พรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถอีกด้วย

 

\"โชเฟอร์แท็กซี่\" ปาดวินจยย.ล้มชน \"ยายพร\" เจ็บสาหัส มั่นใจไม่ได้ชนใคร

 

 

ขณะที่ พ.ต.อ.วิศิษฐ์ สังขนันท์ ผกก.สน. บางขุนเทียน กล่าวว่า จากการตรวจสอบหลักฐาน กล้องวงจรปิดพบพฤติกรรม โชเฟอร์แท็กซี่ มีความผิด ในข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและมีทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังมีข้อหาไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือ ซึ่งเท่าที่ดูในเบื้องต้น ผู้ขับรถวิน จยย. ก็ขับขี่มาโดยใช้ช่องทางปกติคือเลนซ้าย ส่วนทางโชเฟอร์แท็กซี่ ปาดจากเลนที่ 2 เข้ามา ขณะนี้ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหากับโชเฟอร์แท็กซี่เป็นหลัก ส่วนเจ้าตัวจะให้การอย่างไรก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา อย่างไรก็ตามหากภายหลังพบว่า ทางผู้ขับขี่วิน จยย. มีความผิดด้วยก็จะถูกแจ้งข้อหาประมาทร่วม ยืนยันคดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน

 

\"โชเฟอร์แท็กซี่\" ปาดวินจยย.ล้มชน \"ยายพร\" เจ็บสาหัส มั่นใจไม่ได้ชนใคร

 

ด้าน นายทัชชัย ซึ่งเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนด้วยเช่นกัน กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่โชเฟอร์แท็กซี่เข้ามามอบตัวตอนนี้ วงเงิน พรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถของตนไม่พอจ่ายค่ารักษาตัวยายพรแล้ว การเดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ตนจะยังไม่ขอเจรจาเรื่องค่าเสียหายในส่วนของตนแต่อย่างใด แต่อยากให้โชเฟอร์แท็กซี่ รับผิดชอบยายพรมากกว่า เพราะยายพรเจ็บหนัก ตอนนี้ย้ายจาก รพ.บางปะกอก 8 ไปรักษาต่อที่ รพ.มเหสักข์ เท่าที่ทราบยายเริ่มรู้สึกตัว แต่แพทย์ยังไม่ให้ใครเยี่ยม 

 

"ส่วนเรื่องที่โชเฟอร์แท็กซี่อ้างว่า ไม่รู้ไม่เห็นกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นและอ้างว่าเปิดไฟเลี้ยวซ้ายแล้ว ตนขอยืนยันว่าตนไม่เห็นไฟเลี้ยวของรถแท็กซี่แต่อย่างใด ตนขับขี่มาตามช่องทางเดินรถด้านซ้ายสุดตามกฎหมาย และถูกแท็กซี่ปาดเข้ามาจากทางด้านขวาอย่างกะทันหัน จนต้องหักหลบเสียหลักล้มคว่ำเข้าไปชนยายพร ตอนนั้นตน ลุกขึ้นมาได้ยังตะโกนบอกคู่กรณีว่าอย่าหนี ซึ่งคู่กรณีก็มองตนแค่แว๊บเดียว แล้วขับรถเร่งเครื่องออกไป ไม่มีจิตสำนึกที่จะช่วยเหลือ ตนต้องฝากหน่วยกู้ภัย ที่รุดมาตรวจสอบให้ช่วยดูแลยายพร แล้วรีบขับขี่รถ จยย.ออกติดตาม คู่กรณี แต่ก็ไม่ทัน จากนั้นตนก็ย้อนกลับมาที่เกิดเหตุอีก ซึ่งหลังจากนี้ หากตนถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดี ว่าเป็นการประมาทร่วมก็ขอยอมรับ" นายทัชชัย กล่าว

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ