ข่าว

"นายกฯ" ยิ้มแย้มเข้าถวายสักการะพระสังฆราช-ทักปชช.ก่อนชูมือไอเลิฟยู

"นายกฯ" ยิ้มแย้มเข้าถวายสักการะพระสังฆราช-ทักปชช.ก่อนชูมือไอเลิฟยู

01 ม.ค. 2565

"นายกรัฐมนตรี" พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยิ้มแย้มเข้าถวายสักการะพระสังฆราชเนื่องในวันขึ้นปีใหม่-ทักปชช.ก่อนชูมือไอเลิฟยู

พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วยนางนราพร​ จันทร์โอชา​ ภริยา ​เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่​ พ.ศ.2565 ที่​วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม​

 

โดยก่อนที่ "นายกรัฐมนตรี​" ​จะเดินทางกลับ​ได้มีการทักทาย​กับประชาชนที่มาทำบุญ ว่า​ สวัสดีปีใหม่นะจ๊ะ​ ขอให้ปลอดภัย พร้อมชูมือแสดงสัญลักษณ์​ไอเลิฟยู​ให้กับประชาชน​ ด้วย​สีหน้ายิ้มแย้มมีความสุข​ ขณะที่ประชาชนเองก็ได้บอกว่า​ สวัสดีลุงตู่​ พร้อมขอถ่ายรูปกับ "นายกรัฐมนตรี" ​ก่อนเดินกลับด้วย

 

สำหรับบรรยากาศการทำบุญที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม​ เนื่องในวันขึ้นปีใหม่​ ได้มีประชาชนทยอยเดินทางมาเข้าคิวสักการะ​พระพุทธอังคีรส​ ซึ่งเป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม​ โดยใต้ฐานพระพุทธอังคีรส มีพระบรมอัฐิและพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรรจุอยู่ด้วยเพื่อความเป็นสิริมงคล​และถือโอกาสในการเยี่ยมความสวยงามของสถาปัตยกรรม การประดับตกแต่งภายในแบบยุโรปผสมแบบไทยทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว 

ขณะที่ สมเด็จพระสังฆราช ได้ประทานพรให้แก่ประชาชนคนไทย เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นการเตือนใจให้มีสติในการดำเนินการชีวิตตลอดปี 2565 ด้วยการคิดดี ทำดี มีเมตตา โดยมีข้อความดังนี้ 

 

เนื่องในอภิลักขิตสมัยขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๖๕ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม ความว่า

 

บัดนี้ ถึงอภิลักขิตสมัยขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๖๕ อันเป็นวาระเถลิงศก ซึ่งเป็นกาลที่ผู้คนต่างหวังจะได้รับพรมงคลกันทั่วหน้า ผู้ปรารถนาความสวัสดีโดยบางคน เข้าใจว่าต้องมีผู้ประสาทพรอันศักดิ์สิทธิ์ให้จึงจะเกิดความสวัสดีแก่ตน หากว่าแท้จริงแล้ว "พร" ซึ่งหมายถึงสิ่งประเสริฐดีงามนั้น เป็นสภาวะที่เราทั้งหลาย สามารถสรรค์สร้างให้บังเกิดมีขึ้นได้ด้วยตนเอง เช่น ถ้าประสงค์ผลอันเลิศ หรือฐานะอันประเสริฐ ก็ย่อมต้องบำเพ็ญบุญกิริยาด้วยการ "ให้" สิ่งอันเลิศ เพื่อเหตุต้นแห่งผลดี จะได้เริ่มบังเกิดขึ้นแก่ตัวท่านเองในทันที

การบริจาควัตถุปัจจัยแก่ผู้ประสบความทุกข์ยาก เป็นปรกติจริยาของคนไทยนับแต่โบราณกาล ดังประจักษ์ได้จากวิกฤตการณ์ใหญ่ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองแต่ละครั้ง ล้วนบรรเทาได้เพราะ "การุณยธรรม" ของเพื่อนไทย การให้ปันกันนี้เองย่อมก่อมิตรภาพและความกลมเกลียวในหมู่คณะ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทยตลอดมา อย่างไรก็ตาม การให้ ยังสามารถเป็นไปโดยหลากหลายวิธี หาได้จำกัดอยู่เพียงที่พัสดุข้าวของเงินทองไม่

 

หากยังรวมไปถึงการแผ่ "อภัยทาน" คือการให้ความไม่ผูกเวร ไม่ก่อภัย ไม่เบียดเบียน ไม่ริษยาอาฆาต และไม่ประทุษร้ายกันอีกด้วย การให้ในลักษณะนี้สำคัญยิ่งกว่าการให้จตุปัจจัยทั้งมวล เพราะล้วนตั้งต้นจากความสะอาดใสในจิตใจของตน อย่างชนิดที่ไม่ต้องลงทุนลงแรง ไม่ต้องเสียเวลา และไม่จำกัดฐานะ 

 

สามารถบำเพ็ญได้ในทุกขณะและในทุกสถาน ขอเพียงแผ่พรหมวิหาร มุ่งดี มุ่งเจริญ มองเพื่อนมนุษย์ด้วยเมตตาธรรมอย่างยุติธรรมเสมอหน้า ผู้กำลังคิดตั้งปณิธานทำความดีในปีใหม่ จึงพึงระลึกไว้เสมอว่า หากท่านมั่นในอุดมการณ์แห่ง "อภัย" ประคับประคองจิตใจให้ถึงพร้อมด้วย "อวิหิงสา" คือความไม่เบียดเบียนแล้ว บรรดาพรมงคลอันนำมาซึ่งความสุขในชีวิต ย่อมเกิดมีขึ้นโดยมิต้องเรียกร้องสิ่งประเสริฐอื่นใดจากภายนอก และพรนั้น ยังอาจเปลี่ยนแปลงศัตรูให้กลับกลายเป็นมิตร ดับเพลิงโกรธที่เผาผลาญชีวิต ให้กลับเป็นฉ่ำเย็นสนิทด้วยน้ำใจไมตรี สมดังพระพุทธภาษิตที่ว่า "ททํ มิตฺตานิ คนฺถติ" แปลความว่า "ผู้ให้ย่อมผูกมิตรไว้ได้" ทุกประการ

 

ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและคุณความดีที่ทุกท่านร่วมกันสร้างสรรค์ จงบันดาลดลความโสมนัสชุ่มชื่นพระราชหฤทัย ให้บังเกิดมีในสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้าทั้งสองพระองค์ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ทั้งบันดาลให้สรรพสิริสวัสดิ์ และสันติสุขพลันมาสู่ประเทศชาติและประชาชนชาวไทย ให้เกิดภิญโญสโมสรด้วยความสุขเกษมศานต์ ตลอดพุทธศักราช ๒๕๖๕ โดยทั่วกัน เทอญ"