รวบแล้วหนุ่ม "ซิ่งกระบะ" หวาดเสียว เพื่อนร่วมทางถ่ายคลิปลงโซเชียลแจ้งตร.
ตำรวจเพชรบุรี รวบ หนุ่มศรีสะเกษ "ซิ่งกระบะ" หวาดเสียว เพื่อนร่วมทางหวั่นเกิดอุบัติ เพื่อนร่วมทางหวั่นเกิดอุบัติเหตุ ถ่ายคลิปแจ้งตร.ตามจับตัวจนได้
จากกรณีมีผู้นำคลิปวิดีโอโพสต์ใน TikTok เมื่อเช้าวันที่ 7 ก.พ. 2565 ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ก.พ.2565 เวลาประมาณ 10.40 โดยหญิงสาวเจ้าของคลิปและสามีได้ขับขี่รถออกมาจากศูนย์อีซูซุ ท่ากระเทียม อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี มุ่งหน้าเข้ากทม.ได้สังเกตเห็น คนขับ ซิ่งรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 3 ฒฒ 2032 กรุงเทพมหานคร ลักษณะหวาดเสียว เกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อผู้ใช้รถในเส้นทาง จึงได้นำโทรศัพท์มือถือมาถ่ายคลิปไว้และโทรแจ้ง 191 ก่อนที่จะเจอด่านตำรวจของ สภ.เมืองเพชรบุรี จึงได้เข้าไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ด่านตรวจทราบและสกัดรถกระบะคันกล่าว ปรากฎว่าเมื่อคนขับรถกระบะ มาถึงด่านตรวจเจ้าหน้าที่ได้ส่งสัญญาณให้หยุดรถ แต่คนขับไม่หยุดรถ และขับหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงประสานศูนย์ 191 จ.เพชรบุรี ให้แจ้งสถานีตำรวจสภ.เมืองเพชรบุรี สกัดจับแต่ไม่พบรถคันดังกล่าว
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าคนขับรถ ซิ่งกระบะ คันดังกล่าว ขับรถไปจอดภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง เนื่องจากคนขับไม่สามารถขับต่อไปได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบทะเบียนรถตามภาพที่ปรากฎและเข้าควบคุมคนขับรถเพื่อมาดำเนินคดี พร้อมรถกระบะของกลาง จากการสอบถามทราบว่าคนขับรถ ชื่อ นายคมสัน (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ชาวอ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ เจ้าตัวให้การรับสารภาพว่า วันดังกล่าวได้นั่งรถแท็กซี่เพื่อมารับรถยนต์ กระบะ คันดังกล่าวที่มาทำไว้ที่อู่รถยนต์ที่บ้านท่ากระเทียม อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี
พร้อมยอมรับว่าได้ดื่มเบียร์เข้าไป จากนั้นได้ขับรถ เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร จนปรากฏดังภาพข่าว ก่อนที่จะถูกทางตำรวจติดตามตัวพร้อมรถยนต์ที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี โดยพนักงานสอบสวนตั้ง 2 ข้อหา คือ 1. ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น 2. ไม่ปฏิบัติตามสัญญานจราจรมือที่เจ้าพนักงานจราจร แสดงให้ปรากฏข้างหน้า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.ภคิน ศิวเมธากุล รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องขอบคุณและแสดงความชื่นชมพลเมืองดี ที่พบเห็นการกระทำผิดตาม พรบ.จราจร และเอาใจใส่โดยแจ้งให้ตำรวจทราบ ถือว่าเป็นการช่วยกันดูแลสังคมให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่ยวดยานต์บนท้องถนน และจากกรณีนี้ถือเป็นกรณีตัวอย่าง สำหรับผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย แม้ว่าขณะหรือระหว่างเกิดเหตุจะไม่สามารถถูกจับกุมดำเนินคดีได้ แต่ก็ยังมีพี่น้องประชาชนจำนวนมากที่ช่วยกันสอดส่องดูแลและบันทึกหลักฐานให้กับทางตำรวจ และนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ในภายหลัง ซึ่งต้องขอบคุณพลเมืองดีรายนี้เป็นอย่างยิ่ง
สุรพล นาคนคร ผู้สื่อข่าว จ.เพชรบุรี