วิกฤติ "ยูเครน" รัสเซีย รู้ดีอยู่ สหรัฐฯ ยุโรป คว่ำบาตร อย่างเป็นทางการ (คลิป)
วิกฤติ "ยูเครน" รัสเซียรู้ดี เตรียมตอบโต้กลับ หลังสหรัฐฯ และ หลายประเทศในยุโรป ประกาศคว่ำบาตรอย่างเป็นทางการ ไบเดน ย้ำ จะออกมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม หากสถานการณ์รุนแรงมากขึ้น
วิกฤติ "ยูเครน" ใกล้ถึงจุดระเบิดศึกเข้าไปทุกวัน ล่าสุด โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ชุดแรก หลังรัสเซียส่งกองกำลังเข้าไปในลูฮันสก์และโดเนตสก์
โดยเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ลงนามกฤษฎีกา 2 ฉบับรับรอง สาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์ และ สาธารณรัฐประชาชนโดเนสตก์ ในฐานะรัฐเอกราช ก่อนจะส่งกองกำลังเข้าสู่สาธารณรัฐดังกล่าว เพื่อปฏิบัติการรักษาสันติภาพ
ลูฮันสก์และโดเนตสก์ประกาศเอกราชตามการลงประชามติ หลังจากความขัดแย้งกับรัฐบาลยูเครนแตะจุดสูงสุดในปี 2014 แน่นอนว่าทาง ยูเครนไม่มีทางยอมรับ ปฏิเสธการรับรองสถานะเอกราชของทั้งสองภูมิภาคดังกล่าว
ไบเดน มองว่า ความเคลื่อนไหวจากรัสเซียในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการรุกราน "ยูเครน" ทางสหรัฐฯ จึงขอโต้ตอบการกระทำดังกล่าว ด้วยการคว่ำบาตรสถาบันการเงินรัสเซีย 2 แห่ง ได้แก่
- ธนาคารวีอีบี (VEB)
- ธนาคารทหารรัสเซีย รวมถึงตราสารหนี้ภาครัฐและกลุ่มปัจเจกบุคคลอีกด้วย
จากมาตรการดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า สหรัฐฯ ได้ตัดรัฐบาลรัสเซียออกจากการระดมทุนของตะวันตก ทำให้รัฐบาลรัสเซียจะไม่สามารถระดมทุนจากประเทศตะวันตก และไม่สามารถซื้อขายตราสารหนี้ของตนเองบนตลาดสหรัฐฯ และตลาดยุโรปได้อีกต่อไป
ทั้งนี้ ไบเดน ยังได้กล่าวอีกว่า การระงับโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติ นอร์ด สตรีม 2 (Nord Stream 2) ระหว่างรัสเซียและเยอรมนี ซึ่งเยอรมนีได้ประกาศก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน พร้อมเสริมว่าจะมีการออกมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม หากสถานการณ์ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ไบเดน ยังตอบโต้การกระทำของรัสเซียต่อ "ยูเครน" เพิ่มเติมอีก ด้วยการประกาศการเคลื่อนกองกำลังสหรัฐฯ สู่ประเทศในภูมิภาคบอลติก 3 แห่ง ได้แก่
- เอสโตเนีย
- ลัตเวีย
- ลิทัวเนีย
ซึ่งทั้ง 3 ประเทศเป็นหนึ่งในสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต (NATO) และมีพรมแดนติดกับรัสเซีย โดยไบเดนกล่าวว่า สหรัฐฯ ไม่มีเจตนาจะสู้รบกับรัสเซีย แต่จะตามปฏิบัติตามข้อผูกพันขององค์การนาโต โดยเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ หลังจากปูตินประกาศให้ลูฮันสก์-โดเนตสก์ เป็นรัฐเอกราช ทางไบเดนก็ได้ลงนามคำสั่งบริหารสั่งห้ามพลเมืองอเมริกันทำธุรกิจในลูฮันสก์และโดเนตสก์
จนเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ยกเลิกการประชุมกับเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งตามกำหนดเดิม จะมีการประชุมในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ โดยระบุการยกเลิกว่า ไม่มีเหตุผลสมควรจะจัดการประชุมดังกล่าวอีกแล้ว