"เจ๊กระต่าย" แม่ค้าออนไลน์ ปัดเอี่ยวค้ายา อ้างไลฟ์ขายของได้ครั้งละล้าน
"เจ๊กระต่าย" แม่ค้าขายเสื้อผ้าออนไลน์ ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับ แก๊งค้า "ยาเสพติด" หลังตร.ปส. เปิดยุทธการสยบไพรี บุกค้นบ้าน ร้าน พร้อมยึดทรัพย์กว่า 100 ล้าน ขณะตร.พบโยง ผู้ต้องหาค้ายาที่หลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน
28 เม.ย.2565 จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดปฏิบัติการ ยุทธการสยบไพรี 65/11 “The Dark Rabbit Operation” นำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายพร้อมกัน 30 จุดทั่วประเทศ เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดยมีการนำกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าจับกุม นางสาวสุทธิตา (สงวนนามสกุล) หรือ เจ๊กระต่าย แม่ค้าออนไลน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในความผิดฐาน สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิด ก่อนหรือขณะกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ,ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกัน ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ที่ได้มีเหตุสมคบกัน ในขบวนการค้ายาเสพติด ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่ง ใน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี
การจับกุม สืบเนื่องจากการขยายผลการจับกุมยาเสพติด และสืบทราบว่า น.ส.สุทธิตา หรือ เจ๊กระต่าย มีส่วนเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงในการค้ายาเสพติด โดยมีการเปิดร้านขายเสื้อผ้า ซึ่งเป็นร้านขายเสื้อผ้าบังหน้า ซึ่งจากแนวทางการสืบสวน พบว่า เจ๊กระต่าย ถูกเชื่อมโยงกับ นางสาวกนกกร (สงวนนามสกุล) ที่ทำธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งขณะนี้ นางสาวกนกกร ได้หลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้านแล้ว
โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดเข้าจับกุม นางสาวสุทธิตา หรือ เจ๊กระต่าย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ว่าตนเป็นแม่ค้าขายของออนไลน์ มาเป็นเวลา 4 - 5 ปีแล้ว ปกติก็มีลูกค้าจำนวนมา การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับกุมในวันนี้ ทำให้ตนรู้สึกงง และถูกกล่าวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดนั้น ตนยืนยันว่า "ไม่เป็นความจริง" ส่วนกรณีที่พบว่าในบัญชีเงินหมุนเวียน หลายร้อยล้านบาทนั้น ยืนยันว่าไม่ทราบ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบการเงินของตนได้เพรามีหลักฐานการโอนเงินของลูกค้าที่ครั้งไลฟ์ขายของ ซึ่งการขายของแต่ละครั้งมีรายได้วันละกว่า 1 ล้านบาท และ เจ๊กระต่าย ยืนยันว่า พร้อมจะชี้แจงรายละเอียดกับตำรวจได้ทั้งหมด
นางสาวสุทธิตา หรือ เจ๊กระต่าย ยังบอกอีกว่า ตัวเองมีบริษัทที่จัดตั้งถูกต้อง มีการจดทะเบียนถูกต้องทุนจดทะเบียนบริษัท 5 ล้าน ซึ่งเพิ่งจดทะเบียนการค้าได้ประมาณ 3 ปีเท่านั้น ส่วนเรื่องการโอนเงินให้บุคคลอื่นนั้นไม่มี นอกจากร้านค้า
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า รู้จักกับ นางสาวกนกกร หรือไม่ เจ๊กระต่าย ยอมรับว่า รู้จักกับ นางสาวกนกกร ซึ่งเคยเป็นทำงานเป็น แอดมินเพจของตัวเอง แต่ได้ออกไปนานกว่า 2 ปีแล้ว โดยไม่ทราบว่าไปไหนเพราะตอนออกไปไม่ได้แจ้งกับตนเอง และอ้างว่าไม่เคยใช้ให้ นางสาวกนกกร ทำธุรกรรมใดเกี่ยวกับการเงินของบริษัท และไม่รู้จักกับ เครือข่ายค้ายาที่ประเทศเพื่อนบ้าน
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจค้นที่บ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้อายัดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ทั้งนาฬิกาหรูและกระเป๋าแบรนด์เนม รวมถึงตรวจยึดอาวุธปืน 2 กระบอกของบุคคลในบ้านได้อีกด้วย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เดินทางมาตรวจค้น ที่ตั้งของ ร้านค้าของเจ๊กระต่าย ในตัวเมืองอำเภอพระพุทธบาท ซึ่งเป็นโกดังสินค้าเสื้อผ้าที่ใช้ในการไลฟ์สดขายของ ผ่านทางเพจขายของ และจากการตรวจสอบเพจพบว่า จนถึงเมื่อวานนี้ยังคงมีการโพสต์ข้อความขายของอยู่ตามปกติ
ขณะที่ พลตำรวจเอกรอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางเข้าทำการสอบปากคำผู้ต้องหา พร้อมเปิดเผยว่า ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ ซึ่งตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานเส้นทางการเงินว่าวามารถเอาผิดได้
ด้านพลตำรวจตรีธนรัชน์ สอนกล้า ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 2 เปิดเผยว่า แนวทางการสืบสวนของตำรวจ พบว่าผู้ต้องหารายนี้มีเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดสระบุรีที่เคยมาจับไปก่อนหน้านี้คือ นายศุภชัย และนายชัยวุฒิ หรือ มิกซ์-แม็กซ์ คิสเนอร์ ผู้ต้องหาที่เป็นคู่แฝดกัน และถูกยิงเสียชีวิตก่อนตำรวจเข้าจับกุมเมื่อปี 2561 ส่วนอีกคนถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรม เมื่อปี 2562 ในจังหวัดลพบุรี จากนั้นก็พบว่ามีการตั้งเครือข่ายขึ้นมาใหม่เพื่อค้ายาเสพติดในพื้นที่นี้
โดยตำรวจได้สืบสวนขยายผลจากการจับยาบ้า 12 ล้านเม็ด เมื่อปี 2563 และยาบ้า 590,000 เม็ด และคดีจับไอซ์ 516 กิโลกรัม เมื่อปี 2564 ที่ส่วนใหญ่ลำเลียงมาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก่อนจะพบความเชื่อมโยงการติดต่อสื่อสาร และเส้นทางการโอนเงิน ระหว่างผู้ต้องหาที่จับได้พร้อมของกลาง และผู้สั่งการรายใหญ่ในประเทศเพื่อนบ้าน มาถึง กระต่าย ผู้ต้องหาที่เข้าจับกุมในวันนี้
และจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาพบว่า มีการทำธุรกิจบังหน้าหลายอย่าง และให้บุคคลอื่นถือครองทรัพย์สินแทนหลายอย่าง โดยนำเงินไปซื้อสินค้าแบรนด์เนมหลายชนิด ส่วนการตั้งบริษัทที่ค้าขายเสื้อผ้า มีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท แต่ยังไม่พบหลักฐานการเสียภาษี และยังพบเงินหมุนเวียนในรอบปี 2562 กว่า 242 ล้านบาท
ทั้งนี้ ถึงแม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องเป็นสิทธิของผู้ต้องหา ที่จะต้องมาชี้แจงที่มาของเงินให้ได้ ซึ่งตำรวจยืนยันว่ามีหลักฐานแน่นจนนำไปสู่การอนุมัติหมายจับของศาล ซึ่งจากแนวทางการสืบสวน ยังพบอีกว่า เจ๊กระต่าย ตอนนี้ ถือเป็นผู้ต้องหาสำคัญในพื้นที่ภาคกลาง จังหวัดลพบุรี สระบุรี อยุธยา และถือเป็นเครือข่ายใหญ่ที่สุดในอำเภอพระพุทธบาทด้วย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังพบว่าในเมื่อคืนที่ผ่านมามีการจัดปาร์ตี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจปัสสาวะของบุคคลภายในบ้าน เจ๊กระต่าย เบื้องต้นพบว่ามีสารเสพติดทั้งหมด 3 คน ทั้งนี้ตำรวจได้อายัดทรัพย์สินจากการตรวจค้นในวันนี้ ประกอบด้วย รถยนต์ นาฬิกา กระเป๋าหรู รวมมูลค่าทรัพย์สินมากกว่า105ล้านบาท และหากรวมเงินหมุนเวียนในบัญชีรวมกว่า 300 ล้านบาท