ข่าว

'บิ๊กช้าง'ผู้ดับไฟ'อุทยานราชภักดิ์-จีที200'สู่มือแจง'สภา'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์... ถอดรหัสลายพราง โดย... พลสุ่มยิง

 

 

          หากเปรียบกระทู้ถามสดเป็นข้อสอบ ถือว่า “บิ๊กช้าง” พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม สอบผ่านฉลุย ในการทำหน้าที่แทน “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และอดีต รมว.กลาโหม ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร  ชี้แจงความเหมาะสม การจัดซื้อเครื่องบินหรูลำใหม่รุ่น Dassault Falcon 2000 S RTP33-742 กว่า 1 พันล้านบาท ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)

 

 

          หรือแม้แต่การตอบคำถามสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เรื่องมาตรฐานการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจและทหารภายหลังนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว นักเคลื่อนไหวและนักกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งถูกคนรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และยังไม่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้รวมถึงกรณีถูกเจ้าหน้าที่กดดันให้หยุดเคลื่อนไหว เพื่อแลกกับการคุ้มครองความปลอดภัย


          จากนี้ไป “พล.อ.ชัยชาญ” ต้องรับบทหนัก เพราะนอกจากทำหน้าที่ รมว.กลาโหม ‘เงา’ ดูแลกองทัพและงานด้านความมั่นคง เพื่อแบ่งเบาภาระ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะรมว.กลาโหม ที่เลือกนั่งบัญชาการงานตึกไทยคู่ฟ้าเป็นส่วนใหญ่แล้ว ยังต้องรับบทบาทผู้รับเหมางานในสภา


          ถือเป็นสูตรสำเร็จของสองพี่น้องบูรพาพยัคฆ์ อย่าง “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” มักจะเลือกใช้งานทหารมาจากสายยุทธการ เพราะมีความเชี่ยวชาญงานในกองทัพและรอบรู้งานด้านการเมือง เช่นเดียวกับทีมงานนายกรัฐมนตรีประจำทำเนียบรัฐบาล เช่น พล.ต.นิมิตต์ สุวรรณรัฐ ที่ปรึกษา รมว.กลาโหม พล.ต.ณัฐวุฒิ ภาสุวณิชยพงศ์ ผอ.สำนักการฝึกและศึกษา กรมยุทธการทหารบก 


          พล.อ.ชัยชาญ ไม่ใช่ทหารฝั่ง “บูรพาพยัคฆ์” หรือ “วงศ์เทวัญ” แต่เติบโตจากกรมยุทธการทหารบก ก่อนจะเข้ามาเป็นหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำปลัดกระทรวงกลาโหม สมัย พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม และเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกลาโหม ซึ่งมีลักษณะงานคล้ายคลึงกับกรมยุทธการทหารบก 




          และทำงานเข้าตา “บิ๊กป้อม” สมัยดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงกลาโหม โดย พล.อ.ชัยชาญ รับมอบหมายเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการทุจริตโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ในพื้นที่โรงเรียนนายสิบทหารบก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นโครงการที่ผลักดันโดย ‘บิ๊กโด่ง’ พล.อ. อุดมเดช สีตบุตร สมัยดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. น้องรัก “บิ๊กป้อม” จนไร้ข้อกังขา


          ส่วนปัญหาคาราคาซังมานานและทำให้กองทัพตกเป็นเป้าโจมตีมาตลอดสำหรับโครงการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด จีที 200 ของ 3 เหล่าทัพ ตกเป็นประเด็นอีกครั้ง หลังศาลอังกฤษสั่งจำคุกผู้ก่อตั้งบริษัทจำหน่ายในข้อหาฉ้อโกง จนสังคมถามหาผู้รับผิดชอบในการอนุมัติจัดซื้อดังกล่าว และฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย


          ทั้งนี้การจัดซื้อจีที 200 เกี่ยวพันธ์กับ ผบ.เหล่าทัพหลายคน แต่ในส่วนกองทัพบกส่วนใหญ่เกิดขึ้นสมัย ‘บิ๊กป๊อก’ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา น้องรัก ‘บิ๊กป้อม’ เป็น ผบ.ทบ. และเคยตั้งโต๊ะแถลงข่าวยืนยันถึงประสิทธิภาพการใช้งาน แต่จากนั้นไม่นานก็ออกคำสั่งให้กำลังพลระงับการใช้เครื่องมือดังกล่าวเพื่อรอการตรวจสอบหลังเกิดปัญหาการฟ้องร้อง


          ‘พล.อ.ชัยชาญ’ ยังคงได้รับความไว้วางใจจาก “บิ๊กป้อม” ให้เข้ามาสะสางปัญหาดังกล่าวให้เหล่าทัพ ด้วยการเป็นตัวกลางเชิญหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมที่จัดซื้อจีที 200 มาประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าในการฟ้องร้องดำเนินคดีตามคำแนะนำของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ก่อนส่งเรื่องกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการตามขั้นตอน และสามารถลดกระแสกดดันจากสังคม


          ด้วยความเป็นทหารมีฝือมือ มีผลงานปรากฏเด่นชัด ภายหลังเกษียณอายุราชการในตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมได้ไม่ถึง 2 เดือน  “พล.อ.ชัยชาญ” ได้เข้าดำรงตำแหน่ง รมช.กลาโหม ใน ครม.ประยุทธ์ 5 ให้ทำหน้าที่ช่วยงาน ‘บิ๊กป้อม’ อย่างต่อเนื่อง จึงรอบรู้งานของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในห้วง 5 ปีที่ผ่านมา


          การกลับมาดำรงตำแหน่ง รมช.กลาโหม อีกสมัยของ ‘พล.อ.ชัยชาญ’ ในครม.ประยุทธ์ 2/1 นอกจากมาช่วยเสริมทัพงานด้านความมั่นคงของ “บิ๊กตู่” ในสถาวะไม่มีอำนาจพิเศษ ม.44 แล้ว งานในสภาที่ต้องเจอกับนักการเมือง ‘เขี้ยวลากดิน’ ก็จำเป็นต้องใช้คนมีความพร้อมและรอบรู้มารับมือ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ