อุบลราชธานี - คมข่าวทั่วไทย
วันที่ 21 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 49/49 หมู่ที่ 23 ต.ขามใหญ่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานีเพื่อสัมภาษณ์ พ.ต.อ.ศรัญ นิลวรรณ อดีต ผกก.สภ.เมือง จ.อุบลราชธานี พ่อของนางสาวสุดาวดี หรือน้องนุ่น นิลวรรณ หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากกรณีอุบัติเหตุสุดสะเทือนขวัญเมื่อปี 2553 ซึ่งยังคงเดินหน้าหาความเป็นธรรม
พ.ต.อ.ศรัญ นิลวรรณ กล่าวว่า กรณีราชกุลเทพหัสดินฯ ออกมาแถลงข่าวเรี่ยไรเงินของราชสกุล 5 แสนบาท เพื่อให้เหยื่อเป็นค่าใช้จ่ายด้านคดีความ ซึ่งทางญาติผู้เสียหายปฏิเสธไม่รับ มีความเห็นว่าควรจะไปมอบให้แพรวา ให้ไปรวบรวมเอาเงินมาชดใช้ทางผู้เสียหายตามคำพิพากษา เพราะเราไม่รับนอกเหนือจากคำพิพากษา
พ.ต.อ.ศรัญ กล่าวอีกว่า สำหรับการที่แม่แพรวามอบสำเนาโฉนดให้รายการทีวีประกาศขายเพื่อนำเงินมาใช้เหยื่อเป็นเรื่องของเขา เราไม่อยากจะไปยุ่งเกี่ยวเขาก็มีหน้าที่ปฏิบัติตามคำพิพากษา ถ้าไม่ทำตามเราก็ทำบังคับคดีไป แต่ผมเชื่อว่าเขาคงจะหาวิธีกันจนได้ เพราะว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของผู้เสียหายที่จะไปยุ่ง เขาอยากทำอะไรก็ว่าไปมันเป็นสิทธิของเขาอยู่แล้ว เขาจะประกาศจริงหรือประกาศเพื่อลดกระแสเราก็ไม่รู้ ก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของเขา ถ้าจะขายจริงทำไมไม่ขายตั้งนานแล้ว เพราะว่าให้ตอนไหนก็ได้ ส่วนเรื่องด้านความจริงใจก็แล้วแต่คนจะมอง เพราะเราไม่ได้คุยกับเขา เราไม่รู้จักเขาดี เราก็ไม่รู้จะจริงใจหรือว่าทำอะไรเพื่อผลอะไร ก็เลยไม่อยากพูด เดี๋ยวไม่ใช่มันจะเป็นบาป ก็แล้วแต่คนจะมองก็แล้วกัน
พ.ต.อ.ศรัญ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ทางทนายก็เริ่มกระบวนการบังคับคดี มีการสืบทรัพย์ ทางทนายก็เริ่มสืบทรัพย์ และ แจ้งให้ญาติทราบเป็นระยะๆสืบทรัพย์เรื่องที่ดิน เข้าไปดำเนินการ ถ่ายรูปไปตรวจสอบที่ดินบางแปลงก็ติดจำนอง บางแปลงก็ไม่ติดจำนอง ก็อย่างที่ท่านรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ท่านบอกถ้าอยากจะช่วยจริงหรือจริงใจจริงก็ต้องเอาโฉนดไปวางไว้ที่กระทรวงยุติธรรม กรมบังคับคดีเขาจะช่วยขายทอดตลาดให้ ถ้าพอก็ไม่ต้องขายเยอะ ถ้าไม่พอก็ต้องขายอีก ถ้าเหลือก็คืนเขาไป ทางเราเองก็จะไปเร่งรัดอะไรเขาไม่ได้ เรามีแต่จะบังคับคดีอย่างเดียว จะไปบอกว่ารีบๆขายก็ไม่ได้ เพราะว่ามีกรอบของข้อกฎหมายอยู่ เขาก็ต้องรู้ว่าเมื่อแพ้คดีก็ต้องจ่าย ถ้าเขาไม่เตรียมก็ต้องดิ้นรน
“แม่แพรวา บอกเครียดมา 9 ปี ผมว่าเป็นธรรมดาเป็นครอบครัวที่ลูกกระทำความผิด แล้วก็มีปัญหาทางคดีความอยู่เรื่องความเครียดก็เป็นเรื่องธรรมดา เขาแค่เครียด แต่พวกเราเป็นทุกข์เศร้าโศกเสียใจก็ต้องมากกว่าเขาอยู่แล้ว เขาเครียดมากเครียดน้อยก็ไม่รู้ มันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว เราทั้งทุกข์ โศกเศร้าเสียใจ เดือดร้อน ต้องลำบากเดินทาง เขาอยู่กรุงเทพฯไปศาลแค่ 2-3 ครั้ง แต่เราทั้งลำบากในการเดินทางหลายสิบครั้ง ยังมากกว่าเขาเยอะ สิ้นเปลืองไปเยอะใน 9 ปีที่ผ่านมา” พ.ต.อ.ศรัญ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง