ข่าว

ปราบจริง..'เด็กแว้น'ต้องสูญพันธุ์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์...  สายตรวจระวังภัย   โดย...  ศุภชัย เพชรเทวี

 



          ปัญหา “เด็กแว้น” เป็นอีกหนึ่งปัญหาของเมืองไทย ที่จับเท่าไรก็ไม่หมด ปราบเท่าไรก็ไม่หาย ยังคงออกมาสร้างความเดือดร้อนรำคาญตามท้องถนนหลวงได้ตลอด แถมบางกรณีก็ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ไปแว้นยกล้อในเขตพระราชฐานหน้าวัดพระแก้ว จนคนสวดด่ากันทั้งประเทศ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นหมาดๆ ในค่ำคืนวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

 

ปราบจริง..'เด็กแว้น'ต้องสูญพันธุ์

 


          ทว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทั้งนโยบาย มาตรการ รวมถึงกฎหมายเพิ่มโทษ เอาผิดไปถึงผู้ปกครอง ก็ยังไม่มีความยำเกรง เพราะยังมีกลุ่มแว้นป่วนเมืองอยู่ทุกหัวมุมเมือง โดยเฉพาะช่วงสุดสัปดาห์ แม้จะไม่มากและถี่เหมือนเก่าก่อน แต่ก็ยังมีให้เดือดร้อนรำคาญไม่น้อย ประหนึ่งว่ากลุ่มเด็กแว้นท้าทายอำนาจรัฐ ทำให้ “แม่ทัพสีกากี” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. อยู่เฉยไม่ได้ ต้องปราบจริงจังให้ “แว้นสูญพันธุ์” หากพื้นไหนปล่อยปละละเลย ผู้กำกับการ (ผกก.) ไปจนถึง ระดับ ผู้บังคับการ (ผบก.) ต้องรับผิดชอบ


          เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาการแข่งรถในทาง การขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น จึงได้กำหนดนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาเด็กแว้น และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาเด็กแว้นอย่างจริงจังและเข้มงวดมาโดยตลอด โดยมี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.เป็นผู้ควบคุม กำกับ ดูแล พร้อมมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทาง ด้วยการมอบหมาย พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และดำเนินการเป็น 4 มาตรการ คือ 1.มาตรการป้องกันเชิงรุกก่อนเกิดเหตุ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนหาข่าว เพื่อให้ทราบกลุ่มบุคคลผู้มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการแข่งรถในทาง จากทุกเบาะแส เพื่อรวบรวมข้อมูลผู้แข่งรถ กองเชียร์ ร้านดัดแปลงสภาพรถ และผู้สนับสนุนต่างๆ ออกกวดขันจับกุมผู้ขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ในความผิดที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงใช้มาตรการยึดรถต้องสงสัย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกตรวจสอบร้านจำหน่ายอะไหล่ ร้านซ่อมรถ และร้านดัดแปลงสภาพรถ จัดอบรมให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ โดยวิทยากรผู้มีประสบการณ์

 

 

ปราบจริง..'เด็กแว้น'ต้องสูญพันธุ์

 

 

          2.มาตรการปราบปรามขณะเกิดเหตุ กวดขันจับกุมบุคคลขณะมั่วสุม หรือรวมตัวกันแข่งรถในทาง โดยวางแผนการทำงานอย่างรอบคอบ บันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวไว้เป็นพยานหลักฐาน เพื่อสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีในภายหลัง 3.มาตรการสอบสวนขยายผล เมื่อมีการจับกุมผู้กระทำผิด ต้องสอบสวนขยายผลให้ทราบถึงสมาชิกในกลุ่ม และร้านแต่งรถ รวมถึงดำเนินคดีกับแอดมินเพจ ที่เชิญชวน หรือนัดหมายให้มีการรวมกลุ่มเพื่อแข่งรถในทาง กรณีผู้กระทำความผิดเป็นเด็ก หรือเยาวชน ให้ใช้มาตรการทางกฎหมายกับบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง และ 4.มาตรการเฝ้าระวังและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม จัดทำระบบฐานข้อมูลผู้ที่เคยถูกจับกุมและผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการแข่งรถในทาง ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างสถานีตำรวจด้วยระบบ Crimes จัดอบรมความประพฤติเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้กระทำผิด และกลุ่มเสี่ยง

 

 

 

ปราบจริง..'เด็กแว้น'ต้องสูญพันธุ์

 


          “ต้องดำเนินการตลอด เพื่อให้การแข่งขันรถบนทางสาธารณะสูญพันธุ์ ภายใน 4-5 เดือนจากนี้เชื่อว่าเห็นผล ถ้าพบว่ายังมีอีกก็จะขยายเวลาในการดำเนินการออกไป แต่จะไม่มีการดำเนินการแบบไฟไหม้ฟาง จะดำเนินการจนกว่าเรื่องนี้ไม่มีอีก แม้ในความเป็นจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีงานหลายหน้า แต่ไม่ว่าเรื่องอะไรที่เป็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เราจะทำให้ดีที่สุด ที่ผ่านมากรณีการแข่งขันรถค่อยๆ หายไป เหลือเพียงถนนบางเส้นทางเท่านั้น สำหรับพื้นที่ที่ยังปล่อยปละละเลยให้มีการแข่งขันรถ จะดำเนินการอย่างเฉียบขาดตั้งแต่ผู้กำกับโรงพัก ไปจนถึงผู้การฯ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวย้ำ


          หวังว่าการเอาจริงเอาใจหนนี้จะทำให้เด็กแว้นสูญพันธุ์อย่างที่แม่ทัพตำรวจคาดหวัง อาจจะใช้เวลาบ้าง ถ้าปราบได้จริงประชาชนก็รอได้..!!

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ