ข่าว

แจ้งจับ !! หนุ่มแสบหลอกทำงานเกาหลีใต้

แจ้งจับ !! หนุ่มแสบหลอกทำงานเกาหลีใต้

07 ม.ค. 2561

เตือนภัย !! หนุ่มแสบใช้เฟซบุ๊กหลอก 8 คนไทยไปทำงานเกาหลีใต้ ก่อนเชิดเงินหนีกว่า 1 แสนบาท

 

           วันที่ 7 ม.ค.61 นางนิธิอร บุญญานุสิทธิ์ เจ้าหน้าที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านเลขที่ 208 บ้านสองห้อง หมู่ที่ 9 ต.ตลาดไทร อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา เพื่อพบกับกลุ่มแรงงานชาวไทย 8 คน ที่ถูกมิจฉาชีพใช้เฟซบุ๊กหลอกลวงว่าจะช่วยให้ไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ จนเสียทรัพย์สินกว่า 140,000 บาท โดยได้ทำการรวบรวมเอกสาร และหลักฐานของการหลอกลวง ได้แก่ บัญชีธนาคารผู้รับโอนเงิน, หน้าเฟซบุ๊กมิจฉาชีพ, สลิปการโอนเงิน, ข้อความแชทคุยกัน และเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชุมพวง ให้เร่งทำการสืบสวนหามิจฉาชีพรายนี้มาดำเนินคดี

           โดยนางบุญเลิศ อาจดี อายุ 36 ปี หนึ่งในผู้ที่ได้รับความเสียหายในครั้งนี้ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2560 ได้เข้าไปพบข้อมูลในเฟซบุ๊กของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งใช้ชื่อว่า “ก้องภพ ป้องคำลา” ที่มีข้อความโฆษณาชวนเชื่อว่าสามารถช่วยให้คนว่างงานเดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ได้ ซึ่งเป็นงานเกี่ยวกับทำการเกษตร ประกอบกับขณะนั้นตนก็กำลังหางานทำอยู่ จึงรู้สึกสนใจและลองติดต่อทางเฟซบุ๊กดู จนได้มีการทักแชทคุยกัน จึงตกลงว่าจะต้องไปทำพาสปอร์ต ส่งไปให้เขา พร้อมกับเอกสารต่างๆ เพื่อที่จะจองตั๋วเครื่องบินให้ โดยตกลงราคาค่าดำเนินการ และค่าตั๋วเครื่องบินไป คนละ 17,000 บาท จึงทำให้ตนรีบไปกู้ยืมเงินนอกระบบ รวมทั้งนำที่นาไปจำนองไว้ เพื่อเอาเงินมาใช้ในการเดินทาง ต่อมามีญาติอีก 5 คนหลงเชื่อด้วย รวมทั้งตนเป็น 6 คน จึงได้พากันโอนเงินไปให้คนละ 17,000 บาท เข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก เลขบัญชี 408-006102-0 ชื่อบัญชี ก้องภพ ป้องคำลา ต่อมาก็มีเพื่อนบ้านที่รู้จักกันชาว จ.ขอนแก่น สนใจร่วมเดินทางไปด้วยอีก 2 คน จึงโอนเงินไปให้อีกคนละ 20,000 บาท รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น กว่า 142,000 บาท โดยได้มีการนัดเวลาเดินทางไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้ ในวันที่ 15 ธันวาคม 2560 หลังจากนั้นก็ได้มีการติดต่อพูดคุยกับนายก้องภพอย่างต่อเนื่อง แต่ต่อมาเมื่อใกล้จะเดินทาง นายก้องภพก็ได้ปิดเฟซบุ๊กหนี ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้รู้ว่าโดนมิจฉาชีพหลอกลวงเสียแล้ว และได้เข้าไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชุมพวง เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2560 เพื่อให้อายัดบัญชีธนาคารไว้ พร้อมกับให้สืบสวนหาตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

           ด้านนางสาวกนกพร ฉลอยฉิม อายุ 24 ปี ผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า ตนเองนั้นทำงานเป็นพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร แต่ด้วยความจนบังคับจึงอยากได้งานใหม่ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะต้องการนำเงินมาสร้างบ้านให้แม่อยู่อาศัย พอได้ยินข่าวจากญาติที่มาเล่าให้ฟังเรื่องไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ จึงรู้สึกสนใจ และนำสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาท ไปขาย เพื่อที่จะได้เงินมาใช้เป็นค่าเดินทาง ต่อมาเมื่อใกล้จะเดินทาง จึงได้รู้ว่าถูกหลอก ทำให้เสียใจมาก เพราะเสียเงินเสียทองไปแล้ว หลังจากนี้ก็จะระมัดระวังตัวไว้ ถ้าอยากไปทำงานก็จะไปติดต่อที่สำนักงานจัดหางาน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเดินทางไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายดีกว่า

           นางนิธิอร กล่าวว่า คดีแรงงานไทยถูกหลอกไปทำงานต่างประเทศลักษณะนี้ มีให้เห็นบ่อยครั้ง ซึ่งทุกวันนี้มิจฉาชีพได้ใช้ช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค ที่สามารถเชื่อต่อกับเหยื่อได้ง่าย รวมทั้งยังสามารถปลอมแปลงชื่อ ที่อยู่ อาชีพ เพื่อสร้างเป็นโปรไฟล์หลอกให้ดูน่าเชื่อถือ แต่สุดท้ายเมื่อหลอกเหยื่อได้เงินมาก็จะเปิดโซเชียลหนีไปอย่างลอยนวล จึงอยากฝากเตือนแรงงานไทยที่อยากจะไปทำงานในต่างประเทศ ก่อนโอนเงินไปให้ ควรตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ว่าบุคคล หรือหน่วยงานนั้นๆ ได้รับการรับรองจากกรมจัดหางานหรือไม่ ถ้าจะให้ดีก็ให้มาติดต่อที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด ซึ่งจะมีข้อมูลของบริษัทจัดหางานที่ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมกับติดตามข้อมูลข่าวสาร ที่จะมีการจัดนัดพบแรงงานเพื่อให้บริษัทจัดหางาน และแรงงานได้มาพูดคุยกัน ซึ่งจะทำให้สามารถได้เดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างปลอดภัย และถูกต้องตามกฎหมายด้วย