"ณิชา"รายงานตัวศาล - ลั่นฟ้อง 7 แบงก์
"ณิชา" รายงานตัวศาลครั้งแรก ลั่นเสร็จคดีฟ้อง 7 ธนาคารแน่ ปปง.สอบ 4 ธนาคารปล่อยปละละเลย จ่อสอบอีก 3 ตร.พบคนร้ายนำบัตรปชช.ณิชาเปิดซิม 4 เบอร์ ยธ.เผยพร้อมช่วยเหลือ
เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 12 มกราคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. กล่าวถึงกรณี น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ อายุ 24 ปี ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ถูกคนร้ายนำบัตรประจำตัวประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคาร 7 แห่ง รวม 9 บัญชี ว่าส่วนตัวขอแสดงความเห็นใจและยืนยันออกหมายจับนั้นทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนหลังมีการออกหมายเรียกไปแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งพบว่า น.ส.ณิชา ไม่เข้ามารายงานตัวและให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนจึงมีการออกหมายจับ แต่พนักงานสอบสวนก็ได้รับฟังคำให้การและการร้องทุกข์ ยืนยันจะทำให้เกิดความชัดเจนและความเป็นธรรม ส่วนกรณีดังกล่าวจะเป็นความปล่อยปละละเลยของธนาคารหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ด้านนายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการกองคดี 1 เป็นผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) ระบุถึงกระแสข่าวการปรับเงินหรือการเยียวยาแก่ธนาคารที่เปิดบัญชีให้แก่บุคคลตัวปลอมที่ไม่ใช่เจ้าของบัตรประชาชนที่แท้จริง ว่า ปปง. จะเป็นหน่วยงานกำกับดูแลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงินของธนาคารและเกี่ยวกับการเปิดบัญชีต่างๆ ซึ่งมีการกำหนดหลักการการเปิดบัญชีไว้ตามขั้นตอน (KYC) ก่อนธนาคารจะเปิดบัญชีให้บุคคลใดก็ต้องมีการตรวจสอบก่อน เช่น การให้สอบถามข้อมูลส่วนตัวผู้ขอเปิดบัญชี วัน เดือน ปีเกิด ที่อยู่ อาชีพ ต่างๆ ตามระเบียบขั้นตอน แต่หากพบว่าพนักงานธนาคารไม่ทำตามขั้นตอนการตรวจสอบก่อนเปิดบัญชี ก็จะเปรียบเทียบปรับต่อธนาคารเป็นเงินสูงสุด 1 ล้านบาท ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามหลักเกณฑ์ แต่ตอนนี้ไม่อยากให้ด่วนสรุป ขอให้รอการตรวจสอบก่อน โดยวันนี้ (12 ม.ค.) จะเข้าไปตรวจสอบข้อมูล 4 ธนาคาร จากนั้นวันอังคารที่ 16 มกราคม จะไปตรวจสอบข้อมูลอีก 3 ธนาคาร รวมถึงจะมีการเรียกธนาคาร สถาบันการเงิน 30 กว่าแห่งทั่วประเทศมาวางมาตรการป้องกัน ทำความเข้าใจเพื่อไม่ให้ปัญหาลักษณะนี้อีก
ขณะที่ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือ น.ส.ณิชา ว่า เป็นความผิดพลาดในบางขั้นตอนของการดำเนินคดีในช่วงของการเข้าไปแสดงตัวตามหมายจับ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมได้ให้ความสำคัญและติดตามเรื่องนี้ โดยสั่งการให้สำนักงานยุติธรรมจังหวัดตากเข้าไปดูแล แจ้งสิทธิ์ต่างๆ แม้ว่า น.ส.ณิชา จะมีทนายความดูแลอยู่แล้ว เพราะเชื่อว่า น.ส.ณิชา ไม่ได้มีเจตนาหลบหนีและไม่มีเจตนาในการกระทำผิด โดยได้ให้ความช่วยเหลือแนะนำขั้นตอนการรับสิทธิ์ต่างๆ จากกองทุนยุติธรรมที่สามารถขอรับความช่วยเหลือได้ทันที รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการสู้คดีทั้งหมด ทั้งค่าทนายความ ค่าเอกสาร ค่าตรวจสอบ ค่าเดินทาง เป็นต้น
ส่วนการถูกควบคุมตัวในเรือนจำก็อยู่ในข่ายได้รับสิทธิ์รับเงินชดเชยตามพ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา ซึ่งคณะกรรมการกองทุนยุติธรรมจะพิจารณาค่าชดเชยอีกครั้ง ซึ่งปกติจะเป็นไปตามอัตราค่าแรงขั้นต่ำ
ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. เปิดเผยว่า ได้รับการสั่งการจาก พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบร่วมสนับสนุนการทำงานของคณะทำงานของตำรวจ เพื่อช่วยคลี่คลายคดีของน.ส.ณิชา จึงมีการจัดตั้งกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการของกก.1 บก.ป. ขึ้นมาเพื่อร่วมสืบสวนคลี่คลายคดีโดยเฉพาะ พร้อมสั่งการให้เร่งตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดทางคดีโดยเร็วที่สุด
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 มกราคม เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีดังกล่าวของบก.ป. ลงพื้นที่สืบหาข้อมูลและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของธนาคารธนชาต สาขาสีลม คอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารที่คนร้ายนำบัตรประชาชนของน.ส.ณิชา ไปเปิดบัญชี ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า คนร้ายได้นำบัตรประชาชนของน.ส.ณิชา ไปเปิดบัญชีธนาคารที่ธนาคารดังกล่าวเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของบก.ป. ยังพบข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ในช่วงเวลาที่น.ส.ณิชา ทำบัตรประชาชนหายนั้น คนร้ายนำบัตรประชาชนของน.ส.ณิชา ไปลงทะเบียนเปิดใช้ซิมโทรศัพท์มือถืออีก 4 หมายเลข ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลเพื่อดำเนินการตรวจสอบ
สำหรับ 9 บัญชี 7 ธนาคารที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์นำบัตรประชาชน น.ส.ณิชา ไปเปิดบัญชีนั้น ประกอบด้วย ธ.ไทยพาณิชย์ 1 บัญชี สาขาเดอะมอลล์ บางแค ธนาคารกสิกรไทย สาขาเดอะมอลล์ บางแค 1 บัญชี ธ.ทหารไทย สาขาซีคอน บางแค ธ.ออมสิน 1 บัญชี สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ธ.กรุงเทพ 1 บัญชี สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ธ.กรุงไทย 2 บัญชี สาขาลาดพร้าว 102 และสาขาเดอะมอลล์ บางแค และธ.ธนชาต 2 บัญชี สาขาสีลม คอมเพล็กซ์ และสาขาลาดพร้าว 177
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน น.ส.ณิชา พร้อมด้วยทนายความ ได้ไปรายงานตัวที่ศาลจังหวัดตากเป็นครั้งที่ 1 หลังจากที่ได้รับการประกันตัวไปเมื่อวันที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา จากนั้นเดินทางไปที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม โดยมี พล.ต.ต.ปริญญา วิศิษฐฎากุล ผบก.ภ.จว.ตาก พ.ต.อ.ศักดิ์ดา สังขนิตย์ รองผบก.ภ.จว.ตาก ร่วมสอบปากคำ
พล.ต.ต.ปริญญา กล่าวว่า ได้สอบสวนเพิ่มเติมกรณีบุคคลที่เกี่ยวข้องที่ไปเปิดบัญชีตามธนาคารต่างๆ ตามที่น.ส.ณิชา ได้แจ้งความไว้ 7 ธนาคาร 9 บัญชี ซึ่งต้องใช้ทีมสอบสวนทั้งหมด จากนั้นจะให้ทีมสอบสวนนำผลการสอบสวนทั้งหมดในการใช้ดุลพินิจพิจารณาคดีต่อไป
น.ส.ณิชา กล่าวว่า มอบเอกสารและรายละเอียดทุกอย่างที่พนักงานสอบสวนต้องการหมดแล้ว รวมทั้งทดสอบแบบลายมือชื่อ เพื่อเปรียบเทียบกับรายมือคนร้ายตัวจริงที่ไปเปิดบัญชี ภาพถ่ายของคนร้ายผู้หญิงที่ไปเปิดบัญชีกับธนาคารต่างๆ ถ้าหากพนักงานสอบสวนต้องการสอบปากคำเพิ่มเติมอีกก็ยินดี อย่างไรก็ตามต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขในส่วนที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ เช่นกรณีการยกเลิกบัตรประจำตัวประชาชนบัตรเก่า แล้วทำบัตรใหม่ บัตรเก่าต้องไม่สามารถนำไปใช้ได้อีก พนักงานธนาคารควรต้องมีการตรวจสอบบัตรประชาชนให้ดีก่อนที่จะอนุญาตให้มีการเปิดบัญชีได้ ถ้าคนร้ายนำไปเปิดบัญชีความเดือดร้อนก็จะตกอยู่ที่ประชาชนอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง ส่วนการฟ้องร้องธนาคารทั้ง 7 แห่งนั้น ฟ้องแน่ แต่รอให้การดำเนินคดีเสร็จสิ้นก่อนจึงจะให้ทนายความดำเนินการฟ้องต่อไป