ตั้งกก.สอบ !! ‘2 ตร.’ ตั้งด่านลอยทำรถชนกัน 3 คันรวด
รองโฆษก ตร. เผยต้นสังกัดตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ‘2 ตำรวจ’ ปมตั้งด่านลอยจนเกิดเหตุรถชนกัน 3 คันรวดที่อยุธยาฯแล้ว
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 มกราคม 2561 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อความและคลิปวิดีโอในโลกโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ 2 นายตำรวจทางหลวงพระนครศรีอยุธยา ในลักษณะเหมือนการตั้งด่านลอย จนทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนกันรวด3คัน ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น บริเวณถนน 347 (ฝั่งมุ่งหน้า อ.บางะหัน) กม.25 ต.เกาะเกิด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จากที่ได้รับรายงานเบื้องต้นทราบว่าก่อนหน้านี้ตำรวจทางหลวงพระนครศรีอยุธยา ได้รับการร้องเรียนจากผู้ใช้รถใช้ถนนว่า เส้นทางดังกล่าวมีรถบรรทุกวิ่งในช่องทางเดินด้านขวา ในลักษณะแช่เป็นเวลานาน ทำให้เกิดปัญหาการจราจรจึงได้ออกแผนการตรวจและจับผู้กระทำความผิด ซึ่งในวันเกิดเหตุน่าจะเกิดจากความผิดพลาดในการปฏิบัติหน้าที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งหลังเกิดเหตุตำรวจทางหลวงพระนครศรีอยุธยา เรียกรถยนต์กู้ชีพนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล และไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ
รองโฆษก ตร. กล่าวอีกว่า การดำเนินการทางวินัยตำรวจทั้ง 2 นาย ที่ปฏิบัติงานในเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นผู้บังคับบัญชามีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้รายงานตัวที่ บก.ทล.พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ว่ามีการกระทำผิดวินัย หรือกฎระเบียบอย่างไรบ้าง ซึ่งทางพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เน้นย้ำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง และข้อบังคับที่กำหนด อย่างเคร่งครัด ส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นที่ยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือปฏิบัติงานไม่สนองนโยบายของผู้บังคับบัญชา ก็จะไม่เข้าข้าง หากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีความผิดก็จะดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาอย่างเด็ดขาด
วันเดียวกัน(29 ม.ค.61) พ.ต.อ.เอกราช ลิ้มสังกาศ รอง ผบก.ทล. เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า กรณีคลิปดังกล่าวขอชี้แจงก่อนว่า การทำงานของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงแบ่งเป็น 3 รูปแบบ รูปแบบที่ 1 การออกตรวจพื้นที่ รูปแบบที่ 2 ตรวจรถตามจุดเสี่ยงต่างๆ และรูปแบบที่ 3 การตั้งจุดตรวจ ซึ่งต้องจะใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 8-9 นาย และมีการตั้งจุดให้เห็นชัดเจน สำหรับกรณีดังกล่าวเป็นการออกปฏิบัติหน้าที่ออกตรวจพื้นที่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการร้องเรียนว่าบริเวณดังกล่าว มีรถบรรทุกขับด้วยความเร็วสูงจึงได้ทำการออกตรวจ และเมื่อเห็นรถบรรทุกขับรถอยู่ในช่วงทางขวาสุดจึงได้ทำการเรียกรถบรรทุก แต่รถเก๋งทั้งสองคันได้หยุดเสียก่อน จากนั้นรถบรรทุกจึงหยุดรถแต่ไม่สามารถหยุดได้ทัน จึงเป็นเหตุให้รถเก๋งถูกรถบรรทุกชนท้าย
พ.ต.อ.เอกราช เปิดเผยต่อว่า ทั้งนี้รถบรรทุกถือว่ามีความผิดที่ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และขับรถในช่องทางขวาสุด ตามกฎหมายแล้วการขับรถจะต้องขับในความเร็วที่สามารถชะลอหรือหยุดรถได้ ซึ่งได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาขับรถโดยประมาทแก่รถบรรทุกคันดังกล่าว สำหรับรถเก๋งอีก 2 คันได้ให้ทางประกันรับผิดชอบ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ทำการเรียกรถพยาบาลเข้าช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บและดูแลคดีกับทางสถานีในพื้นที่ดังกล่าว
พ.ต.อ.เอกราช เปิดเผยอีกด้วยว่า ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฎิบัติหน้าที่ตอนนี้ได้เรียกเข้ามาสอบถามแล้วว่ามีการปฏิบัติหน้าที่บกพร่องหรือไม่ หากพบว่าบกพร่องหรือกระทำผิดจะดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยทันที และพร้อมจะชดใช้และให้ความช่วยเหลือทั้งหมด
---------------------------
(ที่มา FB : Hawa Hawax)