ข่าว

ปลัดศธ.เอาผิด ‘ซี8’ โกงเงินกองทุนเสมาฯ 88 ล.

ปลัดศธ.เอาผิด ‘ซี8’ โกงเงินกองทุนเสมาฯ 88 ล.

13 มี.ค. 2561

ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมเจ้าหน้าที่นิติกรฯ แจ้งความตำรวจ สน.ดุสิต ให้ดำเนินคดีผู้กระทำผิดทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต วงเงิน 88 ล้านบาท

 

          เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 มีนาคม 2561 ที่สน.ดุสิต นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พร้อมด้วยนิติกร ผู้ได้รับมอบอำนาจจากปลัดกระทรวงศึกษา เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.บำเพ็ญ ไวยรจนา สว.(สอบสวน) สน.ดุสิต เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในการทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต จำนวน 88 ล้านบาท โดยครอบคลุมทั้งข้าราชการที่เกี่ยวข้อง 5 คน และบุคคลอื่น 22 คน ในบัญชีที่ถูกนำมาใช้ในการโอนเงิน

          นายการุณ เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับเครือญาติของข้าราชการ ศธ. ระดับ ซี 8 ที่ไปเปิดบัญชีไว้ 22 บัญชีสำหรับถ่ายโอนเงินจากกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตเข้ามาในบัญชีดังกล่าว เพราะถือว่ามีผลประโยชน์ร่วมกันในการรับเงินการโอนจากกองทุนนี้ เนื่องจากมีหลักฐานชัดเจนว่าการถ่ายโอนเงินจากกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตจะเข้าบัญชีทั้ง 22 บัญชีเหล่านี้แบบซ้ำๆเดิมๆตลอด 10 กว่าปี ดังนั้นตนเชื่อมั่นว่าเครือญาติทั้งหมดของข้าราชการซี 8 จะต้องมีส่วนร่วมรู้เห็นด้วยแน่นอนจึงมาแจ้งความ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี ขณะเดียวกันตนจะมอบหมายให้สำนักนิติการของ สป.ดำเนินการตามระเบียบพิจารณาโทษทางวินัยข้าราชการซี 8 ศธ.ตามกระบวนการต่อไป

          ด้านนิติกร กล่าวว่า ที่เดินทางมาแจ้งความในวันนี้เป็นเรื่องของเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ซึ่งทางสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการดูแลในส่วนของกองทุนตรงนี้อยู่ สำหรับข้อมูลยังไม่สามารถเปิดเผยได้อยู่ระหว่างการตรวจสอบต้องรอคณะกรรมการสอบสวนทาสำนักงานปลัดจัดตั้งขึ้น วันนี้จึงขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเนินคดีที่เหลืออยู่ที่ดุลพินิจของทางพนักงานสอบสวน ในเบื้องต้นจากการตรวจสอบมีการโกงเงินไป 88 ล้าน ซึ่งหลังจากการตรวจสอบยอดอาจจะมีการลดหรือเพิ่มขึ้นขึ้นอยู่กับการตรวจสอบ โดยขณะนี้นอกจากการแจ้งความต่อผู้กระทำผิดโดยกระทรวงศึกษาธิการแล้ว นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยังให้สถาบันการศึกษาที่พบการทุจริตเข้าแจ้งความในข้อหาถูกยักยอกเงินคู่ขนานไปด้วย

          นิติกร ยังกล่าวอีกว่า สำหรับการทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต เกิดขึ้นจากการตรวจสอบภายในสำนักานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ที่พบว่า ตั้งแต่ปี 2551 ถึง 2561 มีหลักฐานการโอนเงินกองทุนไปยังชื่อบัญชีของบุคคลอื่น 22 บัญชี ไม่ใช่บัญชีของสถานศึกษาที่ต้องได้รับเงิน จำนวน 88 ล้านบาท และพบมีข้าราชการเกี่ยวข้อง 5 คน และ 1 คนให้การรับสารภาพว่าทำจริง และทำเงินไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว ขณะที่อีก 4 คนอยู่ระหว่างการสอบสวน

          ขณะที่ พ.ต.ท.บำเพ็ญ บอกว่า เมื่อรับแจ้งความแล้วยังต้องรอรวบรวมข้อมูลหลักฐาน ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหากับผู้กระทำผิด ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นข้อหาการยักยอกเงินหรือไม่ แต่ในเบื้องต้น ข้าราชการที่กระทำผิด จะมีข้อหาการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ หรือประพฤติมิชอบ ตามมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งต้องส่งเรื่องต่อให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาโทษ ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะส่งไปยังที่ใด