ข่าว

หนุ่ม KSR หัวร้อน ศาลไม่ให้ประกัน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลอาญาธนบุรี รับฝากขังครั้งแรก20-31ส.ค.นี้ ชี้พฤติการอารมณ์ร้อน พกมีดขี่รถหากปล่อยตัวกลัวเหตุซ้ำชั้นสอบสวนแจ้ง 4 ข้อหา ผตห.รับสารภาพ3ข้อหา ปฏิเสธข้อหาพยายามฆ่า

 

            21 ส.ค.62 – จากกรณีเกิดเหตุ หนุ่ม ขี่รถจักรยานยนต์คาวาซากิ รุ่น KSR สีขาวดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ได้ทำร้าย นายกิติพงษ์ มากจงดี อายุ 53 ปี คนขับรถแท็กซี่ ใช้มีดแทงที่หน้าอกแต่ไม่เข้าเนื่องจากติดธนบัตรบริเวณกระเป๋าเสื้อ แล้วยังชกไปที่ใบหน้าผู้เสียหายด้วย กระทั่งกลางดึกวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา หนุ่มก่อเหตุได้เข้ามอบตัว พนักงานสอบสวน สน.แสมดำ ภายหลังทราบชื่อ "นายสิทธิชัย อุไร" อายุ 26 ปี อาชีพช่างตกแต่งภายใน ภูมิลำเนาบางขุนเทียน กทม.

 

               ซึ่งพนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหา พร้อมนำตัว "นายสิทธิชัย" ไปยื่นฝากขังครั้งแรกต่อศาลอาญาธนบุรี เมื่อวานที่ผ่านมา (20 ส.ค.) ซึ่งในการฝากขังดังกล่าวผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว แต่ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พฤติการณ์ตามคำร้องฝากขังของพนักงานสอบสวนส่อแสดงว่า ผู้ต้องหาเป็นคนอารมณ์ร้อน ขณะที่รถจักรยานยนต์ไปในทางสาธารณะ  ก็ยังพกพาอาวุธมีดไปด้วย  เมื่อพบผู้เสียหายกดแตรรถเป็นสัญญาเตือน เพราะเหตุที่ผู้่ต้องหาขี่รถรถจักรยานยนต์แซงรถแท๊กซี่ของผู้เสียหาย ในระยะกระชั้นชิด ผู้ต้องหาก็โกรธจนถึงขั้นใช้อาวุธมีแทงผู้เสียหายที่บริเวณอก ซึ่งเป็นอวัยะสำคัญ นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังชกผู้เสียอีกหลายที จนล้ม ศรีษะกระแทกฟุตบาทแตก การกระทำของผู้ต้องหาตามคำร้องฝากขังถือเป็นอันตรายต่อสาธารณชน ที่่ขับรถในทางสาธารณะกรณีมีเหตุอันควรเชื่อว่า หากอนุญาติให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาอาจจะไปก่อเหตุ อันตรายต่อประการอื่นแก่สาธารณะชนที่ขับรถในทางสาธารณะลักษณะเดียวกับเหตุคดีนี้  ศาลจึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอประกันตัว ผู้ต้องหาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงได้ควบคุมตัว "นายสิทธิชัย" ผู้ต้องหาไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษธนบุรี ระหว่างการฝากขังครั้งแรกตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา

               โดยคำร้องฝากขัง ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17.35 น. ขณะที่ "นายกิติพงษ์ มากจงดี" อายุ 53 ปี ผู้เสียหาย ขับรถแท็กซี่ทะเบียน มก 3989 กรุงเทพ มาตาม ถ.พระราม 2 ขาออก เมื่อมาถึงบริเวณใกล้ด่านเก็บเงินทางด่วน "นายสิทธิชัย" ผู้ต้องหาที่ขี่รถจักรยานยนต์คาวาซากิ รุ่น KSR สีขาวดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ได้แซงขวาผ่านรถแท็กซี่ของผู้เสียหาย ในระยะกระชั้นชิดจึงได้บีบแตร จากนั้นผู้ต้องหาได้ตัดหน้ารถของผู้เสียหาย แล้วผู้ต้องหาไปจอดที่ฟุตบาทด้านซ้าย แต่ผู้เสียหายไม่ได้หยุดรถ ผู้ต้องหาจึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามมาอีกและแซงขวารถผู้เสียหายอีกครั้ง ซึ่งในมือซ้ายกำมีดได้เคาะกระจกรถผู้เสียหาย แล้วผู้ต้องหาก็ขี่รถแซงขึ้นไปทางหน้ารถผู้เสียหายลักษณะขวางหน้ารถแล้วชะลอรถ แต่ผู้เสียหายหยุดจึงเฉี่ยวชนด้านท้ายรถของผู้ต้องหาจนล้ม ผู้เสียหายจึงหยุดรถทันทีและเลื่อนกระจกรถลง ขณะที่ "นายสิทธิชัย" ผู้ต้องหาได้วิ่งเข้ามาใช้มือขวากำมีดแทงมาที่บริเวณหน้าอกด้านขวาของผู้เสียหายแต่ไม่เข้าเนื่องจากติดธนบัตร จากนั้นผู้ต้องหาชกไปที่บริเวณใบหน้าผู้เสียหาย 1 ครั้ง

               จากนั้น ผู้เสียหาย จึงไปจอดรถแท็กซี่ริมถนน เพื่อเรียกตัวแทนบริษัทประกัน แล้วลงจากรถเพื่อพูดคุยกับ"นายสิทธิชัย" ผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหาได้ชกต่อยใบหน้าผู้เสียหายอีก 1 ครั้งจนล้ม ศีรษะไปกระแทกขอบฟุตบาทเป็นแผลได้รับบาดเจ็บ แล้วผู้ต้องหาได้หลบหนีไป จนเมื่อวันที่ 19 ส.ค. "นายสิทธิชัย" ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวยอมรับว่าเป็นคนก่อเหตุ พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหาฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่น , ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย  , พกพาอาวุธไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุอันสมควร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 295 , 371 ประกอบมาตรา 80 , พ.ร.บ.จราจรทางบก พ. ศ. 2522 มาตรา 43 (8) ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้เกิดอันตรายฯ , ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น , พกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร แต่ปฏิเสธข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

            ซึ่งพนักงานสอบสวน ยังสอบสวนไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานอีก 4 ปาก และรอผลตรวจลายพิมพ์นิ้วมือ กับประวัติต้องโทษด้วย จึงขอฝากขังครั้งแรกผู้ต้องหาเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 20-31 ส.ค.นี้ พร้อมขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากคดีมีโทษร้ายแรงเกรงว่าจะหลบหนี

            ขณะที่ "ศาลอาญาธนบุรี" ได้พิจารณาคำร้องแล้ว ก็อนุญาตให้ฝากขังได้

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ