มหากาพย์มาเฟียมังกรจีน "ตู้ห่าว" ล้างบางกลุ่มทุนจีนสีเทา

 จุดเริ่มต้นการขุดรากถอนโคน "กลุ่มทุนจีนสีเทา" 
      วันที่ 26 ต.ค.65 ผบช.น. นำทีมงานตรวจค้นสถานบันเทิงจินหลิง ย่านสาธร ลักลอบเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต พบนักเที่ยวทั้งชายและหญิงกว่า 237 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีน อีกทั้งยังพบห้องเก็บของที่ใช้สำหรับซุกซ่อนยาเสพติดชนิดเคตามีน แฮปปี้วอเตอร์ จำนวนมาก 

ยุทธการล้มไม่ค้ำ ลดกิ่งก้าน 

จากการตรวจผับจินหลิงในวันที่ 25 ต.ค. พบรถยนต์หรูภายในลานจอดรถผับจินหลิง 31 คัน โดยไม่มีผู้มาแสดงตัวเป็นเจ้าของรถ ต่อมาตำรวจได้สืบสวนขยายผลจากรถ โรลส์รอยซ์ 1ใน31คัน พบว่าเจ้าของคือนาย หวัง เจิ้น หนาน ชาวจีน อายุ 21 ปี จึงขออนุมัติศาลออกหมายค้น คอนโดหรูแห่งนี้

จากการตรวจค้นพบ ของกลางเป็นเงินสดกว่า 19 ล้านบาท อยู่ในตู้เซฟ พร้อมทรัพย์สินอีกจำนวนหนึ่ง อาทิ ไวน์ขวดละ 2 แสนบาท จำนวน 1 ขวด รถยนต์โรลส์รอยซ์ 2 คัน รถเบนซ์มายบัค 1 คัน และ รถเบ๊น เอแอลAMG 1คัน โดยเบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่ารถบางคันมีการสวมทะเบียน และจากนี้ตำรวจจะตรวจสอบว่ารถทั้งหมด ถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ เนื่องจากพบว่าบุคคลที่เป็นเจ้าของรถ มีภูมิลำเนาอยู่แถบภาคเหนือบนพื้นที่สูง ทั้งนี้ทรัพย์สินทั้งหมดที่พบมี 21 รายการ มูลค่ารวม 150 ล้านบาท ส่วนภายในห้องพัก พบชาวชาติพันธุ์ 2 คน เป็นผู้ดูแลห้องพัก โดยตำรวจจะนำตัวไปสอบสวนขยายผลว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหรือไม่

นอกจากนี้ตำรวจยังได้เข้าตรวจค้นห้องพักภายในคอนโดหรูย่านสาทร พบยาเสพติดจำนวนหนึ่ง เครื่องใช้แบรนเนมหรู และสุราจำนวนมาก โดยมีราคาแพงสุดขวดละ 2 ล้านบาท

 5 กลุ่มมาเฟียจีน 
  จากนั้นนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ออกมาแฉ 5 กลุ่มทุนจีนสีเทา  ประกอบด้วย 1.กลุ่มนายตู้ห่าว 2.กลุ่มนายเดวิด 3.กลุ่มนายหยู่ฉางเฟ่ย 4.กลุ่มนายโทนี่ และ 5.กลุ่มนายหมิง  ที่ทำธุรกิจในเมืองไทยแบบผิดกฎหมาย ทั้งเรื่องสถานบริการ บ่อนการพนัน การฟอกเงิน และยาเสพติด

   เข้าค้นบ้านตู้ห่าว 
 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ก็สั่งการให้เจ้าหน้าที่บุกตรวจค้นบ้านหรูย่านพระราม 5 ที่เป็นบ้านพักของตู้ห่าว พบเพียง พ.ต.อ.หญิง ตำแหน่ง ผกก.กองการต่างประเทศ ภรรยาของตู้ห่าว ซึ่งชี้แจงว่าตู้ห่าวไม่ได้พักอาศัยที่บ้านหลังดังกล่าว พร้อมนัดหมายนำตัวตู้ห่าวมามอบตัวสู้คดี

 ตู้ห่าวติดต่อขอมอบตัว    

     วันที่ 23 พ.ย. 2565 ตู้ฮ่าวได้ติดต่อเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ แต่ปฏิเสธเรื่องความเชื่อมโยงกับยาเสพติดภายในผับจินหลิง

  ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ยืนยันมีหลักฐานว่าตู้ห่าวมีความเชื่อมโยงกับผับจินหลิง โดยมีชื่อเป็นผู้เช่าผับ และยังสืบสวนพบว่าตู้ห่าวอยู่ในคืนที่ตำรวจบุกค้นผับจินหลิงด้วยเช่นกัน พร้อมยืมยันว่าตำรวจสามารถเอาผิดตู้ห่าวได้ 

 

ยึดทรัพย์ "ตู้ห่าว" 
 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ได้เปิดเผยว่าทำการยึด โฉนดที่ดิน 5 แปลง (ที่ดินมูลค่า 250 ล้านบาท) 38 ไร่ 3 งาน 39 ตารางวา และสิ่งปลูกสร้างรวมมูลค่าประมาณ 3 พันล้านบาท รถยนต์อีกจำนวน 5 คัน คันที่มีราคาแพงที่สุด มีราคา 17 ล้านบาท เป็นรุ่น Bentley Continental GT และยังมีรถยนต์โตโยต้า รุ่น Alphard รุ่น Hiace รถยนต์นิสสัน รุ่น March รวมมูลค่าทั้งรถยนต์ อาคาร ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 3,020,450,000 บาท และในส่วนของ ป.ป.ส. อีก 1,131 ล้านบาท  

 

ยึดเครื่องบินตู้ห่าว
ณ สนามบินบ่อฝ้าย อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ร่วมกันตรวจยึดเครื่องบินของตู้ห่าว หลังพบว่าเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทและเครื่องบินก็ถูกซื้อขายในนามบริษัทดังกล่าว  

 

 

 

 

เพื่อนร่วมรุ่นบิ๊กโจ๊กมีเอี่ยวเอื้อประโยชน์ "ตู้ห่าว" 

   มีการเปิดโปง ตำรวจ ตม. คอยอำนวยความสะดวกให้แก่กลุ่มทุนจีนสีเทา  พบว่า มี พล.ต.ต.ถึง 3 นาย เป็นอดีต ผบก.ตม.4 และ ตม.5 โดยในนี้มี 2 นายเป็นเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) 47 กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. 

ผบช.น. แจงคดี "ตู้ห่าว" 
 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.)  เปิดเผยความคืบหน้าคดีทุนจีนสีเทาหลังดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ ยันไม่ได้เอายาม มารับเป็นคนดูแลผับจินหลิง ระบุ เสนออัยการสูงสุดพิจารณา ใช้ พ.ร.บ.ป้องปรามอาชญากรรมข้ามชาติ จนมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา ย้ำ จะทำคดีนี้ให้สมบูรณ์ 

 มีตำรวจ 3 นาย เอี่ยวช่วยเหลือ 
ตำรวจที่ไม่ใช่ผู้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบคดี นำผู้ต้องหา 1 ราย แยกออกไปฟ้องเอง โดยได้รับการติดต่อจากบุคคลภายนอก ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเงิน ใช้เงินในการจ้างวานเจ้าหน้าที่ให้กระทำผิด ซึ่งขณะนี้ได้มีการดำเนินคดีอาญา และส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการแล้ว 

ขอยืนยันว่าเป็นการกระทำเฉพาะบุคคล ส่วนบุคคลที่เป็นผู้จ้างวาน อยู่ระหว่างการติดตาม โดยการสอบสวนได้อยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช. 

เสนออัยการสูงสุดพิจารณา ใช้ พ.ร.บ.ป้องปรามอาชญากรรมข้ามชาติ 

ผบช.น. กล่าวอีกว่า ในทางกฎหมาย ตำรวจได้ดำเนินคดีกับบุคคลชาวจีน 2 คนที่ตรวจพบในห้องเก็บยา ในข้อหามีเคตามีนไว้ในครอบครอง และได้สืบสวนเส้นทางการเงินและการติดต่อสื่อสาร พบความเกี่ยวข้องกับบุคคลอื่น ๆ อีก 10 ราย ทั้งที่อยู่และไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ จนสามารถออกหมายจับได้ ตอนนี้สามารถจับกุมได้แล้ว 7 ราย ทำหน้าที่แตกต่างกัน

และยังได้มีการเสนอไปให้อัยการสูงสุดพิจารณาว่า ทั้ง 10 รายนี้ เกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติหรือไม่ เพราะบุคคลที่เกี่ยวข้องมาจากหลายประเทศ หลายสัญชาติ แต่มีความเชื่อมโยงกัน จึงพิจารณาแล้วเห็นว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เลยได้เสนอไปยังอัยการสูงสุด จนนำไปสู่การตั้งคณะทำงานฯ

ต้องรอดูกันต่อไปว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีหลักฐานเพียงพอในการเอาผิด "ตู้ห่าว" ซึ่งตอนนี้เป็นเพียงผู้ต้องหาที่รอการพิสูจน์ว่ากระทำผิดจริง หรือ เป็นผู้บริสุทธิ์...