แจ้ง 5 ข้อหาหนัก 2 มือ ฆ่าล้างหนี้ 'ป้าอ้อย' ก่อนนำศพโยนทิ้งผา
ตำรวจแจ้ง 5 ข้อหาหนัก 2 ผู้ต้องหาลวง "ป้าอ้อย" จนท.ฝ่ายทะเบียน ม.ราชภัฏกาญจนบุรี ฆ่าล้างหนี้ ก่อนนำศพทิ้งหน้าผา อ.ศรีสวัสดิ์ กล้องวงจรปิดจับภาพนาทีขับรถไปทิ้งศพชัดเจน พบใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
7 ก.ค.2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี แจ้ง 5 ข้อหาหนัก น.ส.วิลาวัณย์ หรือ สาว อายุ 38 ปี และ นายนิติ หรือกอล์ฟ 2 ผู้ต้องหาคดี ฆ่าล้างหนี้ นางดารัณ แพลอย หรือ ป้าอ้อย เจ้าหน้าที่หน้าที่ฝ่ายทะเบียนมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ในความผิดฐาน 1.ร่วมกันฆ่าผู้อื่น , 2. ร่วมกันฝัง เผา ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย ,3.ข้อหาร่วมกันกระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อม ในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป , 4.ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และ 5.ร่วมกันช่วยเหลือผู้อื่น มิให้ต้องรับโทษ หรือรับโทษให้น้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสียหรือทำให้สูญหาย ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด
โดยเมื่อช่วงสายวันนี้ ลูกชายและลูกสะใภ้ของนางดารัณ เดินทางมาที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมกับ นายรพี ชำนาญเรือ ที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือเรื่องการประสานงานกับตำรวจ ในการติดตามหาตัวของนางดารัณ หรือ ป้าอ้อย
นายระพี เปิดเผยว่าขณะนี้ครอบครัวของป้าอ้อยยังอยู่ในความโศกเศร้าเสียใจ และยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน ส่วนการเดินทางมาที่ สภ.เมืองกาญจนบุรีในวันนี้ เพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวนให้ข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงพบกับเจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัด ที่จะเข้ามาช่วยเหลือในส่วนของเงินเยียวยา และช่วยจัดหาทนายมาว่าความให้กับครอบครัวของป้าอ้อยด้วย
ส่วนกรณีขบวนการจ้างคนไปดาวน์รถแล้วนำรถไปขาย ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ป้าอ้อยถูกฆาตกรรมในครั้งนี้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนขยายผลในเรื่องนี้ให้ถึงที่สุดด้วย
ทั้งนี้นอกจากครอบครัวของป้าอ้อยที่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนแล้ว ทางพนักงานสอบสวนยังได้เรียกตัวสามีของ น.ส.วิลาวัณย์ หรือ สาวเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม ซึ่งมีกระแสข่าวว่าสามีของ น.ส.วิลาวัณย์ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนวันเกิดเหตุไม่กี่วันภรรยา พูดให้ฟังว่าอยากจะหาวิธีการเก็บคนบางคน ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นป้าอ้อยหรือไม่
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบคลิปวีดิโอกล้องวงจรปิดจากบริเวณด้านหน้า อบต.หนองเป็ด อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่ น.ส.วิลาวัณย์ และสามี คือนายนิติ นำศพของป้าอ้อยไปโยนทิ้งหน้าผา ประมาณ 8 กิโลเมตร พบว่าในวันศุกร์ที่ 30 มิ.ย.2566 ซึ่งเป็นวันที่ป้าอ้อยหายตัวไปนั้น รถของ น.ส.วิลาวัณย์ ได้ขับผ่านบริเวณหน้า อบต.หนองเป็ด เมื่อเวลาประมาณ 14.39 น. ก่อนจะขับผ่านกล้องอีกหลายตัวซึ่งอยู่ตามเส้นทางมุ่งหน้าไปยังจุดทิ้งศพ
ก่อนที่รถของ น.ส.วิลาวัณย์ จะขับกลับมาผ่าน ณ จุดเดิม ในเวลาประมาณ 15.11 น. รวมแล้วใช้ระยะเวลาจากจุดที่กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ครั้งแรกที่หน้า อบต.หนองเป็ด ไปจนถึงจุดที่ทิ้งศพ ประมาณ 30 นาทีเท่านั้น ทำให้เชื่อได้ว่าทั้งสองคนน่าจะรีบนำศพของป้าอ้อยโยนลงหน้าผาบริเวณจุดที่พบศพ แล้วรีบขับรถกลับเข้าสู่ตัวเมืองกาญจนบุรี เพื่อนำเอกสารหลักฐานและทรัพย์สินต่างๆของป้าอ้อยไปเผาทำลายในช่วงเย็นของวันที่ 30 มิ.ย. กระทั่งมีผู้ไปพบบัตรประชาชนและทรัพย์สินของป้าอ้อยที่ถูกเผา บริเวณท่าน้ำบ้านท่าพะเนียด
กอบชัย ยิ้มเชิง จ.กาญจนบุรี