ประกาศล่าตัวขบวนการนำเข้า 'เนื้อสุกร' เถื่อน ทำราคาตกต่ำ เกษตรกรเดือดร้อน
'สส.เพื่อไทย' จี้รัฐ เร่งปราบปรามขบวนการลักลอบนำเข้า 'เนื้อสุกร' ทำกลไกราคาเกษตรกรตกต่ำ 'สมศักดิ์' วอน 'กรมปศุสัตว์-ดีเอสไอ' เข้มงวดจับกุม ฝังกลบ ไม่ให้หลุดรอดสู่ตลาด
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และ ประธานยุทธศาสตร์การเกษตร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยเรื่องราว มีประชาชนร้องเรียนเข้ามาเรื่อง การลักลอบนำเข้า "เนื้อสุกร" ด้วยวิธีการสำแดงเท็จ ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทย ได้ติดตามมาตลอดตั้งแต่ก่อนยุบสภาในชั้นกรรมาธิการ พร้อมท้วงติงการปล่อยปละละเลยของหน่วยงานรัฐ จนส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรต้องประสบปัญหาราคาตกต่ำ เพราะการลักลอบนำเข้า ทำให้ผู้ค้าบางรายต้องขาดทุนจนหมดเนื้อหมดตัว
"ขอประกาศไว้ตรงนี้พรรคเพื่อไทยจะติดตามผู้อยู่เบื้องหลังที่ทำลายกลไกการตลาด ซึ่งขบวนการเหล่านี้ ทำให้กลไกทางการตลาดของประเทศไทยนั้น สูญเสียรายได้ไปหลายพันล้านบาท และฝากไปยังรัฐบาลรักษาการ ให้มีแนวทางการทำงานที่เข้มงวดมากกว่านี้ เพราะคนที่ได้รับผลกระทบ คือเกษตรกร" นายวิสุทธิ์กล่าว
ขณะเดียวกันนายสมศักดิ์ เทพสุทิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ต่อสายด่วนไปยัง พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงถึงการตรวจยึดและเผาทำลายขบวนการลักลอบนำเนื้อสุกรเข้ามาในประเทศไทย
เบื้องต้นทราบว่า การเผาทำลายนั้นเป็นหน้าที่ของกรมปศุสัตว์เตรียมสถานที่ในการฝังกลบ และอีกประเด็นที่สำคัญคือ การฝังกลบนั้น ผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการฝังกลบคือ ผู้ลักลอบนำเข้า
จากข้อมูล พบว่า ขณะนี้ดีเอสไอ สามารถตรวจยึดของกลางได้ 161 ตู้ ผู้ประกอบการยินยอมจ่ายค่าฝังกลบ 78 ตู้ อีก 83 ตู้นั้น ยังมีการต่อสู้ทางคดี จึงยังไม่สามารถนำไปทำลายได้ ดังนั้นดีเอสไอจะเซ็นหนังสือ เพื่อส่งมอบ 78 ตู้ให้กรมศุลกากรส่งต่อให้กรมปศุสัตว์ฝังกลบให้ไวที่สุด ดังนั้นตนได้กำชับว่า เรื่องนี้ต้องจบภายในสัปดาห์นี้และทำให้เกษตรกรนั้นสบายใจที่สุด และวางใจได้ว่าหมูเหล่านี้จะไม่ถูกนำมาเวียนขายในตลาดอีก
หากพบว่ามีการนำกลับมาขายหรือเนื้อสุกรที่อายัดไว้หายไป ต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนในประเด็นกระแสข่าวพบเนื้อสุกรอีก 400 ตู้ ตามที่สื่อนำเสนอก็ขอให้ดีเอสไอชี้แจงเพิ่มเติมว่าจริงหรือไม่
นอกจากนี้นายสมศักดิ์ยังได้พูดคุยกับ นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ หารือแนวทางทำลายฝังกลบชิ้นส่วนสุกรนำเข้า ได้รับแจ้งว่า ขณะนี้ได้มีการขุดหลุมเพื่อทำลายเนื้อสุกรไว้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์จังหวัดสระแก้ว โดยหลุมมีขนาดขนาดกว้าง 9 เมตร สูง 3 เมตร ยาว 150 เมตร เวลานี้รอเพียงการส่งมอบเท่านั้น
ส่วนการลำเลียงไปฝังกลบ จะมีรถของกรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ และ ดีเอสไอประกบหัวท้าย เพื่อความสบายใจว่าจะไม่มีเนื้อสุกรหายระหว่างทาง โดยจะใช้เวลาในการฝังกลบ 2 วันก็จะเสร็จสิ้น
"การลักลอบนำเนื้อสุกรเข้าประเทศเป็นความเดือดร้อนของเกษตรกรอย่างมาก กลไกราคาสุกรพังพินาศ คนเลี้ยงก็ตาย คนขายก็ขาดทุน ดังนั้นต้องช่วยกัน ทำให้เกษตรกรหมดปัญหาเหล่านี้ การฝังกลบต้องทำให้สังคมเกษตรกรสบายใจว่าสุกรเหล่านี้จะไม่กลับมาเวียนขายในตลาดอีก" นายสมศักดิ์ กล่าว
ส่วนปัญหาราคาเนื้อสุกรตกต่ำในเวลานี้ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกไม่ดี การสั่งซื้อจากต่างประเทศ จึงลดลง ดังนั้นเมื่อมีรัฐบาล พรรคเพื่อไทยจะผลักดันและบูรณาการ ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมศุลกากร ต้องกวดขันป้องกัน หาแนวทางการสำแดงเท็จ เพื่อไม่ให้ลักลอบนำสุกรเข้าสู่ประเทศไทยได้ กรมปศุสัตว์ ต้องหมั่นตรวจตรา ตรวจสอบ พัฒนา ไม่ให้พ่อค้าคนกลางกดราคาผู้ค้าสุกรได้ รวมถึงหาตลาดการส่งออกเนื้อสุกรให้แก่เกษตรกรมากขึ้น กระทรวงพาณิชย์ จะต้องคอยตรวจสอบห้องเย็น รวมถึงหาแนวทางทำให้ราคาอาหารสัตว์นั้น มีราคาถูกลงกว่าปัจจุบัน ซึ่งเรื่องนี้หากหน่วยงานข้างต้นร่วมแรงร่วมใจ เกษตรกรจะเดินต่อไปได้