หนุ่มขับ 'เบนซ์หัวร้อน' ปืนขู่วิน จยย. กลางซอยทองหล่อ ตรวจฉี่สีม่วงทั้งคัน
หนุ่มขับ 'เบนซ์หัวร้อน' ขับรถปาดหน้าวิน จยย.ก่อนถูกล้อมรถ เจ้าตัวชักปืนขู่ อ้างตัวเป็น 'น้องต่อ' กลางซอยทองหล่อ ตำรวจระงับเหตุคุมตัวเข้าโรงพัก พบ ปืน-ยา ท้ายรถ ผลตรวจฉี่สีม่วง ยกคัน 6 ราย ตรวจประวัติเคยทำร้ายเจ้าสัวเสื้อยืดยี่ห้อดัง ปี 54
25 ส.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.สาโรจน์ สมหารวงศ์ สวป.สน.ทองหล่อ พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ทองหล่อ เข้าตรวจสอบเหตุทะเลาะวิวาท และมีการทำร้ายร่างกาย บริเวณหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ถนนสุขุมวิท 55 (ซอยทองหล่อ) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
โดยที่เกิดเหตุอยู่ในฝั่งของซอยทองหล่อ มุ่งหน้าถนนสุขุมวิท พบรถเบนซ์ สีเทา จอดอยู่ริมทาง โดยมีวินรถจักรยานยนต์หลายสิบคนกำลังล้อมไม่ให้บุคคลภายในรถยนต์หลบหนี เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงจึงได้กันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปก่อน จากนั้นได้เข้าตรวจสอบ และพาตัวบุคคลในรถเบนซ์ไปสอบปากคำที่ สน.ทองหล่อ
จากการสอบสวนทราบว่า นายขวัญชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี และนายศราวุธ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนสุขุมวิท 55 มุ่งหน้าไปทางด้านปากซอยทองหล่อ เมื่อมาถึงบริเวณปากซอยทองหล่อ 2 ได้มีรถเบนซ์ ซึ่งมีนายชาวิญญ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี เป็นคนขับ ก่อนจะมีการขับขี่รถปาดหน้ากัน
จากนั้นผู้เสียหายได้ขี่รถจักรยานยนต์ จอดชิดขอบทางด้านซ้าย ส่วนคนขับรถเบนซ์ ได้หยุดรถ และเดินลงมา พร้อมกับแสดงอาวุธปืนให้เห็น แล้วเข้าทำร้ายร่างกายด้วยการชกเข้าที่ใบหน้าของผู้เสียหาย 1 ครั้ง จนได้รับบาดเจ็บ
ต่อมา นายศราวุธ ซึ่งเพื่อนของนายขวัญชัย ได้มีปากเสียงกับ นายชาวิญญ์ อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ โดยได้มีการจอดรถขวางหน้ากัน ซึ่งนายศราวุธ เกรงว่าจะมีเหตุการณ์บานปลาย จึงได้เข้าไปช่วยห้ามปราม ต่อมาคนขับรถเบนซ์ ได้เปลี่ยนมามีปากเสียงกับนายศราวุธแทน และได้ทำการหยิบอาวุธปืนขนาดเล็กจากกระเป๋ากางเกงด้านขวาออกมา ขึ้นลำกล้อง พร้อมหันปากกระบอกปืนมาทาง นายศราวุธ และพูด “มึงรู้ไหม กูเป็นใคร กูเป็นน้องต่อนะ มึงจะต่อยกับกูไหม เดี๋ยวมึงได้เจอกัน”
จากนั้นนายศราวุธ จึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินมาที่ สน.ทองหล่อ เพื่อเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย โดยตำรวจได้ทำการตรวจสอบพบว่า รถเบนซ์ คันดังกล่าวโดยสารมาทั้งหมด 6 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 2 คน สาวประเภทสอง 2 คน
จากการตรวจค้นภายในรถพบอาวุธปืน ขนาด .25 มม. อยู่ใต้เบาะฝั่งคนนั่งข้างคนขับ และพบไอซ์ น้ำหนัก 2 ขีด ที่กระโปรงท้ายรถ โดยจากการสอบสวนพบว่าไอซ์ ซองดังกล่าวเป็นของนายยุทธ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี หนึ่งในผู้โดยสารรถเบนซ์คันดังกล่าว
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้นำตัวทั้ง 6 คน ไปตรวจหาสารเสพติดที่ โรงพยาบาลตำรวจ ผลปรากฎว่าทั้ง 6 คน มีสารเสพติดในร่างกาย ส่วนเรื่องทะเบียนรถเบนซ์ ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า มีการสวมทะเบียนด้วย หรือไม่
เบื้องต้นตำรวจ แจ้งข้อหา “ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ , ทำร้ายร่างกาย และ ความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน” กับ นายชาวิญญ์ และ ข้อหา “ครอบครองยาเสพติด” กับ นายยุทธนา
ต่อมาเมื่อตำรวจพาตัวทั้ง 6 คน ไปตรวจร่างกายเสร็จสิ้น จึงพาตัวกลับมาที่ห้องฝ่ายปฏิบัติการสายตรวจ สน.ทองหล่อ เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงเหตุที่เกิดขึ้น ก็ไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด
มีรายงานข่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า นายชาวิญญ์ เคยตกเป็นข่าวใหญ่ เมื่อปี 2554 โดยครั้งนั้น บิดาของนายชาวิญญ์ เป็นหุ้นส่วนในบริษัทขายเสื้อยืดยี่ห้อดัง ทำให้ครอบครัว นายชาวิญญ์ รวม 4 คน มีเรื่องทำร้ายร่างกาย กรรมการผู้จัดการบริษัท วัย 81 ปี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งขณะนั้น นายชาวิญญ์ ก็ได้ชักปืนมาขู่ กรรมการผู้จัดการบริษัทรายนี้ด้วย โดยเหตุเกิดในพื้นที่ สน.หัวหมาก ซึ่งทั้งหมดให้การปฏิเสธในชั้นพนักงานสอบสวน ก่อนที่เรื่องจะดำเนินสู่ขั้นตอนในชั้นศาล และ ศาลอนุญาตให้ประกันตัวในวงเงิน คนละ 3 แสนบาท
นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวอีกว่า ก่อนหน้านั้น นายชาวิญญ์ เคยถูกศาลพิพากษาจำคุกนาน 9 ปี 10 เดือน 3 วัน ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” เหตุเกิดท้องที่ สน.โชคชัย เมื่อปี 2542 และพ้นโทษ เดือน มิ.ย. 2553 หลังจากนั้นในวันที่ 9 ก.ค. 2553 ก็ถูกตำรวจ สน.ห้วยขวาง จับกุมข้อหา “มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ที่บริเวณถนนเลียบ รฟม. แขวงและเขตห้วยขวาง และในวันที่ 21 ก.ย. 2553 ตำรวจ สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต จับกุมพร้อมพวกในข้อหา “บุกรุกเข้าไปในเคหสถาน” อีกด้วย