ย้อน 2 คดีฆ่ายกครัว 5 ศพ ปัญหาหลักหนี้สิน-หึงหวง

 

28 ส.ค. 2556 เกิดขึ้นอีกครั้งกับเหตุสลดฆ่ายกครัว เมื่อผู้เป็นพ่อเกิดอาการเครียดจากหนี้สินภายในบ้านตัดสินใจใช้มีดปาดคอฆ่าลูก 2 คน ภรรยาอีก 1 คน ก่อนที่จะฆ่าตัวตายตาม แต่ผู้เป็นพ่อ บาดเจ็บสาหัส

 

เหตุการณ์ ฆ่ายกครัว เกิดขึ้นช่วงดึก (28 ส.ค. 2566) ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ ด.ช. อายุ 11 ปี, ด.ช.อายุ 13 ปี  และ น.ส.วิภาพร อายุ 41 ปี ทั้งหมดเป็นแม่ลูก แต่ละคนมีบาดแผลบริเวณลำคอ และตามร่างกายหลายแห่ง เป็นการฆ่ายกครัว 

 

 

ส่วนผู้ก่อเหตุฆ่ายกครัว ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นสามีและพ่อของเด็กๆ คือนายสาณิช หลังก่อเหตุฆ่าลูกเมียแล้ว พยายามหนีความผิดใช้มีดเชือดคอตัว หวังจบชีวิต แต่เจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล ได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

 

 

ส่วนสาเหตุ ฆ่ายกครัว เบื้องต้นเกิดจากผู้เป็นพ่อเกิดความเครียดเรื่องหนี้สิน เนื่องจากผู้เป็นพ่อไปค้ำประกันบุคคลอื่น จนถูกกรมบังคับคดีจะยึดบ้าน เท่านั้นยังไม่พอ ภรรยา เองก็ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกต้องไปกู้ยืมเงินจากหลายแห่งเป็นเงินกว่า 1.7 ล้านบาท จนถูกเจ้าหนี้ทวงทุกวัน ผู้เป็นสามีเลยทนความกดดัน ความเครียดไม่ไหว ตัดสินใจฆ่ายกครัว 3 ศพ

 

 

 

วินจยย.หึงหวง "ฆ่ายกครัว" 5 ศพ

 

ย้อนไปดูคดีฆ่ายกครัว ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือน ส.ค. 2566 ที่ผ่านมา เมื่ออดีตสามี อาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ใช้อาวุธปืนยิงลูกเลี้ยง 2 ศพ แม่ยาย และพี่สาวของแม่ยาย อีก 2 ศพ ก่อนที่จะยิงตัวเองเสียชีวิต รวมแล้ว 5 ศพ

 

 

 

เหตุ ฆ่ายกครัว เกิดช่วงค่ำวันที่ 7 ส.ค. 2566  คดีดังกล่าวสร้างความสะเทือนใจอีกครั้งให้กับคนในสังคม เมื่อนายสมชาย อายุ 54 ปี อาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ใช้อาวุธปืนยิงแม่ยาย นางโสภา อายุ 59 ปี เป็นศพแรก ที่แผงขายลอตเตอรี่ ภายในตลาดนิกแน็ก ซอยแจ้งวัฒนะ 6 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม.  

 

 

 

จากนั้นนายสมชาย ขี่รถจักรยานยนต์ มาคอนโด ภายในซอยแจ้งวัฒนะ 6 ห่างจากที่เกิดเหตุจุดแรกเข้าไปในซอยประมาณ1 ก.ม. โดยตามขึ้นไปยิงลูกเลี้ยง ด.ช.อายุ 7 ขวบ, ด.ช. 9 ขวบ และ น.ส.ทวี อายุ 60 ปี พี่สาวของแม่ยายเสียชีวิต 3 ศพ

 

 

 

 

ก่อนที่นายสมชาย มือปืนจะลงมาจากคอนโด แล้วใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงศีรษะตัวเอง ฆ่าตัวตายที่ศาลาพักร้อน หน้าคอนโดดังกล่าว เหตุการณ์นี้ ฆ่ายกครัว  5 ศพ และโชคดีที่อดีตภรรยา ไม่อยู่ห้องจึงรอดตายหวุดหวิด

 

 

 

ส่วนปมฆ่ายกครัว 5 ศพ นั้นมาจากความหึงหวง และหนี้สิน เนื่องจากทั้งคู่จดทะเบียนหย่า กันแล้ว ฝ่ายชาย พยายามตามง้อขอคืนดีแต่ฝ่ายหญิงไม่ยอม พยายามตีตัวออกห่าง หนีไปอยู่ที่อื่น ทำให้ฝ่ายชายโกรธแค้นตัดสินใจฆ่ายกครัว

 

 

 

ธุรกิจเจ๊ง อดีตจ่าทบ. ฆ่ายกครัว 5 ศพ

 

ย้อนไปปี 2563 ช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 กำลังระบาด เศรษฐกิจตกต่ำ หลายครอบครัวประสบปัญหาด้านธุรกิจ ทำให้เกิดเหตุสลดขึ้นเช่นกัน เมื่อ อดีตจ่าทหารบก เครียดธุรกิจเจ๋ง เพราะพิษโควิด-19 หาทางออกไม่ได้ตัดสินใจ ฆ่ายกครัว 5 ศพ

 

 

 

เหตุ ฆ่ายกครัว เกิดขึ้นวันที่ 17 ก.ย. 2563 ภายในบ้านเลขที่ 9/34 หมู่บ้านอลิชาเพลส 2 ถนนครุใน ซอย 3 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กทม. ซึ่งทาวน์โฮม 2 ชั้น เปิดกิจการค้าน้ำยาเคมีและผลิตภัณฑ์ดูแลรักษารถยนต์ ชื่อบริษัท เวล อินดัสเทรียล ซัพพลาย จำกัด 

 

 

 

เมื่อตำรวจสน.ทุ่งครุ เข้าไปตรวจสอบในบ้านพบศพ จ.ส.อ.อนุวัต หรือเอ็กซ์ คล้ายพยัฆ อายุ 39 ปี อดีตจ่าทหารบก ใช้อาวุธปืนยิงขมับขวาตัวเอง เสียชีวิตอยู่ข้างเตียงนอน โดยมีศพภรรยาคือ น.ส.วิภางค์ อายุ 39 ปี ถูกยิงที่ขมับขวาทะลุซ้าย 1 นัด และลูกชายอายุ 8 ขวบ ถูกยิงเข้าที่ศรีษะ 1 นัด อยู่ในห้องนอนเดียวกัน

 

 

 

 

นอกจากนี้ภายในบ้านยังพบศพ จ.ส.อ.ประวิทย์ คล้ายพยัฆ อายุ 72 ปี อดีตข้าราชการทหารบก ถูกยิงเข้าที่ศรีษะ 1 นัด และ นางอรสา อายุ 65 ปี ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด และตามลำตัวรวมแล้ว 6 นัด  ซึ่งทั้งสองศพเป็นพ่อแม่ของ จ.ส.อ.อนุวัต

 

 

 

จากการสอบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ จ.ส.อ.อนุวัต  ใช้อาวุธปืน บิดา มารดา ภรรยา และลูกชาย ก่อนที่จะฆ่าตัวตายตาม ส่วนสาเหตุปัญหาเรื่องธุรกิจ หนี้สินครอบครัว ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 จนหาทางออกไม่ได้สุดท้ายฆ่ายกครัว 5 ศพ

 

 

 

และนี่คือคดีที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นภายในครอบครัว แต่ด้วยปัญหาเศรษฐกิจ หนี้สิน และ ความหึงหวง หลายครอบครัวหาทางออกไม่ได้ ต้องจบชีวิตด้วยการฆ่ายกครัว