ข่าว

ศาลสั่ง 'จำคุก' 4 ปี โจ๋ร่วมชุมนุมใต้ด่วนดินแดง 'เผารถตำรวจ'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลอาญาสั่ง "จำคุก" 4 ปี 3 โจ๋ร่วมชุมนุมใต้ทางด่วนดินแดง "เผารถตำรวจ" ให้การเบิกความเป็นประโยชน์ ลดโทษให้เหลือจำคุกคนละ 3 ปี ไม่รอลงอาญา ส่วนอีก 1 จำคุก 2 ปี ฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา

30 ส.ค. 2566  ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีเผารถยนต์ตำรวจ หมายเลขดำ อ.1847/2565 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายวัชรพล (สงวนนามสกุล) ,นายพลพล (สงวนนามสกุล) ,นายจตุพล (สงวนนามสกุล) และนายณัฐพล (สงวนนามสกุล) ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 14 ตามลำดับในความผิดฐานร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง,ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่นให้ได้รับความเสียหาย,ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 

 

 

ศาลสั่งจำคุก 3 โจ๋ ร่วมชุมนุมใต้ทางด่วนดินแดงเผารถตำรวจ

 

 

 

 

 

คดีนี้อัยการโจทก์ฟ้องระบุความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2565 ต่อเนื่องกัน ถึงเวลากลางคืน จำเลยกับพวกประมาณ 50-80 คน ร่วมกับเยาวชนชายอีก 2 คน ซึ่งถูกแยกตัวดำเนินคดีได้ร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปมั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวาย ทำกิจกรรมทางการเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต บริเวณใต้ทางด่วนดินแดง ถนนวิภาวดี ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มารักษาความปลอดภัย

 

นอกจากนี้พวกจำเลยยังร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์รถยนต์ตราโล่  ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้ปฏิบัติหน้าที่จนได้รับความเสียหายเป็นเงิน 91,692 บาท ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษพวกจำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 215 216 ,พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (9)ฯ

 

จำเลยทั้ง 4 ให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัว


โดยวันนี้ จำเลยทั้ง 4 พร้อมทนายความเดินทางมาฟังคำพิพากษาตามนัด

 

 

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานโจทก์จำเลยทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว เห็นว่า ฝ่ายโจทก์มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์เบิกความในข้อเท็จจริงมีรายละเอียดสอดคล้องกันว่า ในวันเกิดเหตุ มีการชุมนุมปราศรัยที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเสร็จแล้ว เวลาประมาณ 18.00 น

 

ต่อมาหลังจากตรวจสอบภาพวงจรปิดและภาพจากสื่อออนไลน์แล้วพบว่ามีผู้ชุมนุมประมาณ 50-80 คนขี่รถจักรยานยนต์ มาร่วมกันมั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายที่บริเวณใต้ทางด่วนดินแดง โดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 โดยมีการขวางปาสิ่งของ ยิงลูกแก้วหนังสะติ๊ก ปะทัดและลูกกระทบ ใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ เป็นการมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ที่จำเลยที่ 1,3 และ 4 อ้างว่าแค่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น ไม่ได้เผารถตำรวจ 2 คัน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นฟังไม่ขึ้น เห็นว่าจำเลยทั้ง 3 กระทำผิดตามฟ้องจริง
   

 

พิพากษาว่า จำเลยที่ 1,3 และ 4 กระทำผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษจำคุก ฐานร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นบทหนักสุด ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1,3 และ 4 มีอายุ 18-19 ปีเศษ ย่อมรู้ผิดชอบชั่วดีแล้ว เห็นควรให้จำคุกจำเลยที่ 1, 3 และ 4 คนละ 4 ปี คำเบิกความของจำเลยทั้งสามเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีอยู่บ้าง ลดโทษให้คนละ 1 ใน 4 คงจำคุกจำเลยที่ 1,3 และ 4 คนละ 3 ปี ไม่รอลงอาญา

 

ส่วนจำเลยที่ 2 พยานหลักฐานโจทก์ฟังได้เพียงว่า กระทำผิดฐานขัดขืนคำสั่งของเจ้าพนักงานตำรวจที่บอกให้หยุดแต่ไม่ยอมหยุดเท่านั้น ไม่ปรากฏภาพว่าจำเลย ที่ 2 ร่วมวางเพลิงเผาทรัพย์รถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ให้จำคุก 2 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 2 ไว้ 1 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา

 

ทั้งนี้ หลังฟังคำพิพากษาทนายความของจำเลยทั้ง 4 เตรียมยื่นประกันตัวระหว่างอุทธรณ์สู้คดีต่อไป

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ