ข่าว

เจาะขุมทรัพย์ 'มาเฟียรัสเซีย – มาเฟียชาวจีน' ยึด 2 หัวหาด แหล่งท่องเที่ยวไทย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เจาะขุมทรัพย์ 'มาเฟียรัสเซีย – มาเฟียชาวจีน' ยึด 2 หัวหาดแหล่งท่องเที่ยวสุดบูม 'พัทยา' 'ภูเก็ต' พื้นที่ฟอกเงินทำเลทอง

เหตุ ฝรั่งเตะหมอ กร่างใส่คนไทย ใน จ.ภูเก็ต ในฐานะเจ้าบ้าน ถูกตีปี๊บขึ้นทันทีหลังเกิดเหตุ คล้ายชาวบ้านในพื้นที่รับรู้พฤติกรรม และได้รับแรงกดดันจาก ชาวต่างชาติ ในพื้นที่มานานแสนนาน

 

นอกจากอารมณ์ร่วมที่ถูก ชาวต่างชาติ เข้ามาหยามถึงในประเทศไทยแล้ว ในครั้งนี้มีการเรียกร้องให้ตรวจสอบ ชาวต่างชาติ ที่มาอาศัยพักพิงในเมืองไทย ทำธุรกิจผิดกฎหมาย หรือที่เรียกว่า มาเฟีย ทันที

 

ที่ล่าสุด บิ๊กต่อ - พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ออกคำสั่งด่วน! ให้ตรวจสอบทุกมิติ ชาวต่างชาติ เข้ามาทำอะไร ทำตัวแย่งอาชีพคนไทยหรือไม่ อย่างเช่น การขับ Grab รับส่ง ชาวต่างชาติ ด้วยกันเองในพื้นที่ จ.ภูเก็ต อย่างโจ๋งครึ่ม และในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆด้วยทั่วประเทศ และเข้ามาเปิดกิจการต่างๆแย่งอาชีพคนไทยหรือไม่ รวมไปถึงการตั้งก๊วนตั้งแก๊งทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลอยู่เหนือกฎหมายจะต้องทำไม่ได้

 

โดย บิ๊กต่อ สั่งการให้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตรวจสอบด่วน และรายงานให้ทราบ ภายใน 7 วัน

 

อย่างไรก็ดี พบว่า มาเฟียต่างชาติ ที่เข้ามาแผ่อิทธิพล สยายปีก ใช้แหล่งท่องเที่ยวของไทยกอบโกยผลประโยชน์ มีมานานหลายสิบปี มีทั้ง มาเฟียชาวจีน หรือ แก๊งจีนเทา และ มาเฟียรัสเซีย ฯลฯ

แน่นอนว่า แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม 2 แห่ง ที่กลายเป็นแหล่งขุมทรัพย์และฐานที่มั่นของ มาเฟีย คือ พัทยา และ ภูเก็ต จนถูกตั้งชื่อว่า มาเฟียพัทยา และ มาเฟียภูเก็ต

 

ข้อมูลเชิงลึก พบว่า มาเฟียชาวจีน มีขนาดใหญ่ อันดับ 1 รองลงมา คือ มาเฟียรัสเซีย

 

โดยพบว่า มาเฟียชาวจีน ส่วนใหญ่ อยู่ใน พัทยา แต่ปัจจุบันพบว่า มาเฟีย กลุ่มนี้ ย้ายฐานการกระทำความผิดส่วนหนึ่ง ไปที่ประเทศเพื่อนบ้าน 2 ประเทศ แต่ยังมาใช้เงินในประเทศไทย หรือมา ฟอกเงิน ในประเทศไทย

 

ขณะที่ มาเฟียรัสเซีย เดิมทีมีจำนวนมากใน พัทยา และมีส่วนหนึ่งอยู่ที่ ภูเก็ต อยู่แล้ว  แต่มาภายหลังเกิดการขัดแย้งระหว่าง มาเฟียชาวจีน กับ มาเฟียรัสเซีย ที่ พัทยา

 

ทำให้ มาเฟียรัสเซีย ย้ายฐานจาก พัทยา ไปที่ ภูเก็ต มากขึ้น

 

อย่างไรก็ดีพบว่า แต่ก่อนธุรกิจท่องเที่ยวใน พัทยา บูมมากกว่า ที่ ภูเก็ต ทำให้รายได้ที่ พัทยา ดีกว่า แต่ปัจจุบันพบว่า รายได้จากธุรกิจท่องเที่ยว ของ พัทยา กับ ภูเก็ต แทบไม่ต่างกัน

 

ยกตัวอย่างพฤติกรรม ของ มาเฟียรัสเซีย ที่เข้ามาปักหลักในประเทศไทยทั้ง มาเฟียพัทยา และ มาเฟียภูเก็ต จะเป็นการรวมก๊วนของกลุ่มชาวรัสเซียด้วยกัน หลายคนมีหมายจับจากประเทศตัวเอง บางคนถูกคดีฉ้อโกงจากประเทศตัวเอง และหลบหนีมาอยู่ในประเทศไทย โดยคนที่มีเงินก้อนใหญ่ติดตัวมาด้วย

จะนำมาลงทุนสร้าง ที่พัก คอนโดมิเนียม วิลล่าหรู รีสอร์ท ร้านอาหาร เรือยอร์ช ฯลฯ และเรียกเก็บค่าคุ้มครองจากคนชาติเดียวกัน ที่ต้องคดีหรือหนีหมายจับจากประเทศบ้านเกิดมา และลักลอบมาอาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยจะมีการดิวกับเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อเปิดทาง รวมถึงจัดหาตำแหน่งและอาชีพให้ พร้อมทั้งเรียกเก็บค่าคุ้มครองจากเพื่อนร่วมชาติเหล่านี้ โดยที่จะไม่ยุ่งกับชาติอื่นๆ   

 

แต่หากถูกเบี้ยวเงิน หรือหักหลังกัน จะเกิดการลักพาตัวเพื่อเรียกค่าไถ่ หรือเพื่อรีดทรัพย์ เป็นคดีที่ปรากฏขึ้นเป็นระยะๆ

 

ด้านการลงทุนทำธุรกิจ มาเฟียรัสเซีย จะใช้ นอมินี หรือ จดทะเบียนสมรสกับหญิงไทย เพื่อเป็นใบเบิกทาง ในการทำธุรกรรมและสัญญาต่างๆ

 

โดยมีการพึ่งพา คนในพื้นที่หรือคนในท้องถิ่น ที่มีหน้ามีตาและมีพาวเวอร์ในพื้นที่ คอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวก เพื่อแลกกับผลประโยชน์ต่างตอบแทน อาทิ ชาวต่างชาติ จะเช่าพื้นที่ เช่าห้องพัก เช่าอาคาร ของคนไทยในพื้นที่ เพื่อให้มีรายได้ เป็นการสมประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

 

ทั้งนี้ นอกจาก มาเฟียชาวจีน มาเฟียรัสเซีย แล้ว จากข้อมูลการสืบสวนจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังพบว่ามี มาเฟียผิวดำ อาทิ แคเมอรูน ที่มาก่อเหตุแก๊งเงินดำ รวมถึงชาวไต้หวัน ที่ใช้ประเทศไทยเป็นฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และบางกลุ่มบางแก๊ง มีการใช้ประเทศไทยเป็น ทางผ่านในการลำเลียงยาเสพติดด้วย

 

โดยสิ่งที่ มาเฟียต่างชาติ ทั้ง มาเฟียชาวจีน และ มาเฟียรัสเซีย กลัวมากที่สุด คือ การถูกยึดทรัพย์ฐาน ฟอกเงิน  โดยเจ้าหน้าที่พบว่า ปัจจุบันมีพัฒนาการ ฟอกเงิน ในหลายรูปแบบ อาทิ รูปแบบของเงินดิจิตอลแอบแฝงในรูปธุรกิจการแลกเปลี่ยนเงินตรา หรือโพยก๊วน

 

ดังนั้น การคุมเข้มและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะความผิดฐาน ฟอกเงิน เพื่อจัดการกับ มาเฟียต่างชาติ ที่เข้ามาแผ่อิทธิพลในประเทศไทย จึงต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องจริงจัง

 

ไม่ใช่ลุกขึ้นมากระพือแค่ช่วงที่มีกระแส แล้วสุดท้ายก็ปล่อยให้เป็นไฟไหม้ฟาง!

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ