'น้ำกระท่อม-กัญชา' ทำหนุ่มคลั่ง มีดจี้คอพ่อ ก่อนชุลมุนผลักตกชั้น 3

8 มี.ค. 2567 พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน เปิดเผยว่าได้รับรายงานจาก พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ว่า เมื่อวานนี้ (7 มี.ค. 2567) เวลาประมาณ 20.00 น.เกิดเหตุชายคลุ้มคลั่งใช้อาวุธมีดจี้พ่อตนเอง บริเวณอะพาร์ตเม้นต์แห่งหนึ่ง ภายในซอยสุเหร่าคลองตัน แขวงสวนหลวง  เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายป้องกันปราบปราม สน.คลองตัน และอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง 

 

ที่เกิดเหตุเป็นอะพาร์ตเม้นต์ สูง 4 ชั้น เหตุเกิดบริเวณระเบียงห้องชั้นที่ 3 พบนายวิศณุศักดิ์ หรือบิ๊ก อายุ 25 ปี อยู่ในอาการคลุ้มคลั่งในมือขวา ถืออาวุธมีดดาบ ยาว 20 นิ้ว ส่วนมือซ้ายถือโทรศัพท์มือถือ พร้อมกับล็อกคอ นายพงษ์บดินทร์ อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นบิดา จนชาวบ้านไม่กล้าเข้าใกล้ และร้องขอให้วางมีดลง

 

นายวิศนุศักดิ์ ผู้ก่อเหตุ ทำทีโทรศัพท์คุยกับแม่ว่า "แม่มาบ้านด่วนเลยแม่ มีคนจะฆ่าบิ๊กเนี่ย... บอกให้พ่อมาด้วย ให้พ่อมาเลยตอนนี้"  ขณะที่นายพงษ์บดินทร ผู้เป็นพ่อ ร้องขอว่า "บิ๊กๆ ปล่อยพ่อน่ะลูก" แต่นายบิ๊ก ไม่ปล่อย  จากนั้นมีการยื้อฉุดกระชากมีดดาบกัน ก่อนที่นายบิ๊ก ได้ผลักพ่อตนเอง ตกลงจากระเบียงชั้น 3 จนได้รับบาดเจ็บสาหัส  

 

 

เมื่อตำรวจสายตรวจและฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่านายบิ๊ก ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งภายในห้องพักชั้น 3 ของอะพาร์ตเม้นต์ดังกล่าา เจ้าหน้าที่จึงนำไม้ง่ามพยายามเข้าไปเกลี้ยกล่อมและควบคุมตัวนายบิ๊ก แต่เกิดการต่อสู้ขัดขืนส่งผลให้ ด.ต.ทรงฤทธิ์ สุริยันต์ ผบ.ป.สน.คลองตัน ถูกมีดบาดมือข้างขวา ได้รับบาดเจ็บ ก่อนควบคุมตัวไว้ได้

 

ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนควบคุมตัว นายวิศณุศักดิ์ หรือบิ๊ก ผู้ก่อเหตุลงมาจากห้องขังเพื่อสอบปากคำที่ห้องสืบสวน โดยระหว่างที่นายบิ๊ก ถูกควบคุมตัว ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตน ดูดกัญชา กับดื่มน้ำกระท่อม ไม่ได้นอนมา 4 วันจนเกิดอาการเบลอเสียสติ โดยไม่รู้ว่าลงมือทำร้ายพ่อตนเอง และตนอยากขอโทษ อยากขอขมาพ่อ และอยากให้พ่อถอนแจ้งความ หากตนติดคุกไป ลูกจะอยู่กับใคร ทั้งนี้อยากไปขอโทษพ่อ อยากให้พ่อให้อภัยตน ยืนยันว่าตนดื่มแต่น้ำกระท่อมกับเสพกัญชาเท่านั้น โดยปกติเป็นคนชอบกินกระท่อมอยู่แล้ว หลังจากนี้จะเลิกทุกอย่างให้ขาด 

 

 

 

 

นายนพดล ผู้เห็นเหตุการณ์เจ้าของอะพาร์ตเมนต์ที่เกิดเหตุ  เปิดเผยว่าช่วงที่เกิดเหตุตนกำลังจะนอนแต่ได้ยินเสียงโวยวายจึงออกมาดู พบว่าเห็นคนกำลังแย่งมีดกันบนระเบียงชั้น 3 ตนจึงบอกให้ผู้ก่อเหตุปล่อยมีดก่อนแต่ผู้ก่อเหตุไม่ปล่อยพร้อมหยิบโทรศัพท์โทรหาแม่บอกว่ามีคนจะมาทำร้ายและให้ตามพ่อมาด้วย ตนจึงบอกว่านั้นแหละพ่อ ในขณะที่ผู้ก่อเหตุกำลังล็อคคอพ่อตนเองอยู่ แต่ผู้ก่อเหตุบอกว่าไม่ไช่มีคนกำลังจะทำร้าย

 

 

เมื่อตำรวจเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ พ่อของนายบิ๊กก็เกิดการยื้อแย่งมีด จนพ่อของผู้ก่อเหตุอ่อนแรงเนื่องจากถูกล็อคคออยู่และได้ทำการดิ้นและสลัดจนถูกผู้ก่อเหตุเหวี่ยงตกลงมาจากระเบียงชั้น 3 และขาไปเกี่ยวกับระเบียงชั้น 2และร่างมากะแทกกับ แท็งก์น้ำและเบาะมอเตอรืไซค์ชั้นล่าง ทำให้ พ่อของผู้ก่อเหตุไม่ได้รับอันตรายถึงชีวิต หลังตำรวจก็มาและได้เข้าจับกุมตัวผู้ก่อเหตุใว้ได้ภายในห้องพักและนำตัวไปโรงสถานีตำรวจ ส่วนพ่อได้ถูกนำส่งโรงพยาบาลมีอาการบาดเจ็บที่หัวแตกและหลังขยับไม่ได้

 

นายนพดล ยังให้ข้อมูลอีกว่า ครอบครัวของนายบิ๊ก ผู้ก่อเหตุ พักอาศัอยู่อะพาร์ตเมนต์ดังกล่าวมาสามปีแล้วโดยผู้ก่อเหตุเพิ่งมาอยู่ได้เพียงสามเดือนหลังจากปลดจากทหาร ส่วนสาเหตุ คาดว่าเกิดจากการหลอนจากเสพยาเสพติด  

 

 

 

 

พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหา รับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง โดยอ้างว่า ไม่ได้นอนมา 4 คืน พร้อมกับดื่มน้ำกะท่อมและเสพกัญชา ที่ซื้อมาจากเพื่อน จนทำให้มีอาการหลอนและหูแว่วว่าจะมีคนมาทำร้าย จึงชักมีดที่อยู่ภายในห้องมาทำร้ายพ่อที่พยายามเข้ามาห้ามและแย่งมีด จนตกลงมาจากชั้น 3 ได้รับบาดเจ็บ

 

จากการสอบประวัติ และตรวจปัสสาวะ ไม่พบประวัติอาชญากรรม แต่พบประวัติการเสพกัญชาและดื่มน้ำกะท่อมมาหลายปี ส่วนผลตรวจร่างกาย พบเพียงกัญชา ไม่พบสารเสพติดชนิดอื่น เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายบุพการีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส มีโทษจำคุก 2-10 ปี และ ข้อหาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เพราะในขณะเกิดเหตุตำรวจใช้ยุทธวิธีพร้อมไม้ง่ามเข้าไประงับเหตุ แต่ผู้ต้องหาต่อสู้ขัดขืนจนทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บที่นิ้ว

 

หลังสอบปากคำจะนำตัวไปฝากขังที่ ศาลอาญาพระโขนง  ซึ่งคดีนี้แม้จะเป็นคดีภายในครอบครัว ผู้เป็นพ่อแม้จะไม่เอาความ แต่เป็นคดีอาญาไม่สามารถยอมความได้ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีการสอบปากคำพ่อ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากการพลัดตกตึกและถูกลูกชายทำร้าย