'บิ๊กหลวง' ไม่ออกความเห็น ปม 'ผู้การแต้ม' ร้องสอบยาบ้า 5 เม็ด

หลัง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หรือ ผู้การแต้ม อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยื่นขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบประกาศกฎกระทรวงสาธารณสุขที่ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าการครอบครองยาเสพติดต่ำกว่ากำหนด เช่น ยาบ้าไม่เกิน 5 เม็ดหรือยาไอซ์ไม่เกิน 100 mg เป็นการครอบครองเพื่อเสพ ให้ถือว่าผู้นั้นเป็นผู้ป่วย ว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายอื่นใดหรือไม่ อันนำมาสู่การสั่งเพิกถอนกฎกระทรวงต่อไป 

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยว่า ตนไม่มีความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับการยื่นให้ตรวจสอบกฎหมายดังกล่าว เพราะว่า ตนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ปฏิบัติหน้าที่ ไม่ใช่ยูทูปเบอร์ หรือ influencer แต่ถึงอย่างไรความเห็นของ influencer หากพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รัฐ ก็ไม่มีผิดถูก ยินดีรับฟังและก็ให้เกียรติในฐานะที่เป็นอดีตนายตำรวจ และพร้อมที่จะไปให้ข้อมูลกับผู้ตรวจการแผ่นดินในเชิงวิชาการ 

พล.ต.ท.ภานุรัตน์ ระบุว่า ประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ที่เพิ่งประกาศใช้เมื่อปี 2564 นั้น ถือว่าสอดคล้องกับหลักสากล ยืนยันสามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดได้จริง ซึ่งในประเด็นการสันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้ครอบครองยาเสพติดจำนวนเท่าใดถือว่าเป็นผู้เสพนั้น หากมองย้อนไปก่อนหน้านี้ กฎหมายกำหนดให้สันนิษฐานผู้ที่ครอบครองยาบ้า 15 เม็ดเป็นผู้เสพด้วยซ้ำ ส่วนจำนวน 5 เม็ดนั้น เพิ่งมาเริ่มมีในยุคสมัย คสช. แต่ไม่มีสภาพบังคับ เพิ่งมีสภาพบังคับจริงจังก็จากการประกาศกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว ย้ำว่าไม่ได้หมายความว่าผู้ที่ครอบครองยาบ้า 5 เม็ด จะไม่ได้รับโทษหรือไม่มีความผิด ยังคงมีความผิดตามกฎหมาย แต่เป็นการเพิ่มทางเลือกว่า สมัครใจเข้ารับการบำบัดจนหายขาดและแพทย์รับรอง ก็จะไม่ได้รับโทษตามกฎหมาย แต่หากไม่สมัครใจเข้ารับกระบวนการบำบัด ก็ยังคงมีความผิดฐานครอบครองยาเสพติด

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบนี้ถือว่า ตรงจุดแล้ว เชื่อว่าจะไม่เพิ่มจำนวนพ่อค้ารายย่อยตามชุมชนต่าง ๆ ที่ผ่านมานั้นปัญหาสำคัญหลังจากประกาศใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ คือ การไม่ใส่ใจและจริงจังของหน่วยงานราชการ จนทำให้ผู้เสพซึ่งถือว่าเป็นผู้ป่วยนั้น ไม่ได้เข้าสู่กระบวนการบำบัดอย่างถูกต้อง จนเกิดปัญหาผู้เสพหลุดออกมาคุมคลั่งตามที่ปรากฏในข่าว ดังนั้นรัฐบาลปัจจุบันจึงเพิ่มความเข้มงวดและสั่งการมายัง ป.ป.ส. โดยเฉพาะการนำผู้เสพยาตามชุมชนต่าง ๆ เข้าสู่กระบวนการบำบัด เพื่อคืนพวกเขากลับมาคืนสู่สังคม

"ที่ผ่านมาอาจจะมองว่ากระบวนการบำบัดผู้เสพยาเสพติดไม่ได้ผล เนื่องจากความไม่จริงจังของภาครัฐในสมัยก่อนและการนำผู้เสพไปบำบัด แต่ไม่ได้ติดตามผลอย่างต่อเนื่องและไม่ได้ให้โอกาสเขากลับคืนสู่สังคม จนทำให้เขาขาดทางเลือก แล้วกลับไปเสพยาเสพติดมาอีกครั้ง " พล.ต.ท.ภานุรัตน์กล่าว

เลขาธิการ ป.ป.ส. เชื่อว่า การแก้ไขยาเสพติดด้วยวิธีการเปิดใจให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าถึงปัญหาและพูดคุยกับประชาชนในชุมชนต่าง ๆ จะสามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดได้อย่างจริงจังมากกว่าการสั่งการอย่างเดียว ซึ่งจะไม่ช่วยทำให้ผู้เสพลดลง