แก้เกม ส่ง ‘หมายเรียก’ ไม่ได้ ‘พนักงานสอบสวน’ จะต้องทำยังไง เมื่อกฎหมาย 'ป.วิอาญา' ยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก
การพยายามแจ้ง หมายเรียก 2 ครั้ง ให้กับ บิ๊กโจ๊ก – พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) เพื่อให้มาพบ พนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา ฐานสมคบฯ ฟอกเงิน และ เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงินเครือข่าย ในคดีที่มีการสืบสวนสอบสวน ขยายผลจากการจับกุมเครือข่าย เว็บพนัน BNKMaster ท้องที่ สน.เตาปูน
แต่สุดท้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่สามารถแจ้ง หมายเรียก ให้ บิ๊กโจ๊ก – พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้สำเร็จ เพราะไม่พบตัว ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน
คล้ายเป็นเกมหนึ่ง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออก หมายเรียก แล้ว 2 ครั้ง แต่ หมายเรียก กลับไม่ถึงมือ บิ๊กโจ๊ก สักที
หมายเรียก ครั้งที่ 1 ออกเมื่อวันที่ 17 มี.ค.2567 ให้ บิ๊กโจ๊ก – พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มารับทราบข้อกล่าวหา ฐานสมคบฯ ฟอกเงิน และ เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน ในวันที่ 21 มี.ค.2567 เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (บก.น.2)
ในการ ส่งหมายเรียก บิ๊กโจ๊ก – พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่อยู่บ้านพัก เพราะไปปฏิบัติราชการที่ จ.เชียงใหม่ ในการรักษาความสงบเรียบร้อย กรณี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ โดย บิ๊กโจ๊ก – พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่าไม่ได้รับ หมายเรียก เนื่องจากพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจการสอบสวน
กระทั่ง วันที่ 22 มี.ค.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำ หมายเรียก ครั้งที่ 2 ให้ บิ๊กโจ๊ก - พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มาพบพนักงานสอบสวน ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล2(บก.น.2) ในวันที่ 26 มี.ค.2567 เวลา 10.00 น. โดยเจ้าหน้าที่นำ หมายเรียก ไปส่งให้กับ บิ๊กโจ๊ก – พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รวม 3 จุด ประกอบด้วย
- บ้านพักในซอยวิภาวดี 60 ด้านหลังสโมสรตำรวจ จุดเดิมที่เคยนำ หมายเรียก ครั้งที่1 ไปส่งให้
- สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สถานที่ทำงาน ตามที่นายกรัฐมนตรีให้ไปช่วยงาน
- บ้านพักตามภูมิลำเนาในจังหวัดสงขลา
แต่แล้ว ก็ไม่พบตัว บิ๊กโจ๊ก – พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เช่นเดียวกับครั้งแรก
ภายหลัง ปรากฏข่าวออก หมายเรียก ครั้งที่ 2 บิ๊กโจ๊ก – พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ลาราชการตั้งแต่วันนี้ ไป จ.หนองคาย และ ประเทศอังกฤษ จะเดินทางกลับมาปฏิบัติราชการ ในวันที่ 1 เม.ย.2567
ทำให้ บิ๊กโจ๊ก – พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่ได้รับ หมายเรียก ถึง 2 ครั้ง
กรณีดังกล่าวมีคำถามว่า การออก หมายเรียก 2 ครั้ง แต่ หมายเรียก ส่งไม่ถึงมือบุคคลตาม หมายเรียก จะทำให้มีผลแล้วหรือไม่ แล้วพนักงานสอบสวนต้องทำอย่างไรต่อไป
ตาม ป.วิอาญา มาตรา 55 ระบุเกี่ยวกับ การ ส่งหมายเรียก แก่ผู้ต้องหา ว่า จะส่งให้แก่บุคคลผู้อื่นซึ่งมิใช่สามีภริยา ญาติ หรือผู้ปกครอง ของผู้รับหมายรับแทนนั้นไม่ได้
ดังนั้น กรณีนี้ ทั้ง บิ๊กโจ๊ก – พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ภรรยา ญาติ และผู้ปกครอง ยังไม่มีใครรับ หมายเรียก ทั้ง 2 ครั้ง
ต่อกรณีดังกล่าว มีการตั้งข้อสังเกต ได้ 2 ทาง คือ 1. จังหวะเวลาช่างเหมาะเจาะและบังเอิญ ทำให้พนักงานสอบสวน คลาดกับบุคคลตาม หมายเรียก ไม่สามารถส่ง หมายเรียก ได้ ทั้ง 2 ครั้ง หรือ 2. มีการพยายามเลี่ยง หมายเรียก ทั้ง 2 ครั้ง
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นแนวทางไหน พนักงานสอบสวน จะรอดูว่า บิ๊กโจ๊ก – พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะเดินทางมาตาม หมายเรียก ครั้งที่ 2 ในวันที่ 26 มี.ค.2567 เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 หรือไม่
แต่หากไม่เดินทางมาตาม หมายเรียก คณะ พนักงานสอบสวน จะประชุมปรึกษาหารือกัน เพื่อพิจาณาว่า จะมีการ ออก หมายเรียก ครั้งที่ 3 หรือเสนอศาลเพื่อขออนุมัติหมายจับ
อย่างไรก็ดี มีแนวโน้มว่า ในคดีนี้ พนักงานสอบสวน อาจออก หมายเรียก เป็นครั้งที่ 3 เพื่อให้โอกาส บิ๊กโจ๊ก – พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มาพบ พนักงานสอบสวน อีกครั้ง
แต่หากออก หมายเรียก ครั้งที่ 3 แล้วไม่สามารถส่ง หมายเรียก ถึงมือบุคคลตาม หมายเรียก ได้ รวมทั้งไม่มาตาม หมายเรียก อีกเป็นครั้งที่ 3 มีความเป็นไปได้ว่า
พนักงานสอบสวน จะรวบรวมรายละเอียด การออก หมายเรียก และสถานการณ์ในการส่ง หมายเรียก ทั้งหมด เพื่อชี้แจงต่อศาล เพื่อขออนุมัติหมายจับจากศาลต่อไป
เป็นทางออกที่พนักงานสอบสวน จะดำเนินการได้ เมื่อไม่อาจส่ง หมายเรียก ให้ถึงมือ บุคคลตามหมายเรียกนั้นๆได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง