ข่าว

'สารวัตรแจ๊ะ' นำทีมลากคอ FC สายหื่น ปัด 'ขืนใจ' สาวอ้างปิกาจูปวกเปียก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจสืบสวนนครบาลไล่ล่า 'นัท night stalker' จอมหื่นนักสะกดรอย ลากสาวขืนใจ อ้างปิกาจูไม่แข็ง บอกคิดว่าต้องถูก 'สารวัตรแจ๊ะ' จับกุมสักวัน

4 พ.ค.2567  ตำรวจสืบสวนนครบาล จับกุมนายณัฐพล หรือ นัท อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้  โดยผู้เสียหาย ของผู้ต้องหารายนี้ เป็นหญิงสาวหน้าตาดี อายุ 22 ปี  เมื่อช่วงปลายปี  2566 ได้เข้าทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ส่วนผู้ต้องหาทำงานอยู่บริษัทเดียวกับเหยื่อ โดยทำหน้าที่เป็นพนักงานขับรถของบริษัท เข้ามาตีสนิทกับผู้เสียหายและแสดงอาการคลั่งไคล้ผู้เสียหาย จนขอย้ายมาทำงานแผนกเดียวกับผู้เสียหาย จากนั้นผู้ต้องหาก็เริ่มคุกคามผู้เสียหาย จนผู้เสียหายรู้สึกอึดอัด บางครั้งผู้ต้องหาถึงขั้นนำสิ่งของ ของผู้เสียหายมาสูดดม หลังเลิกงานก็จะสะกดรอยตามผู้เสียหาย ไปถึงที่พัก 

สารวัตรแจ๊ะ นำทีมลากคอ FC สายหื่น ปัดขืนใจสาวอ้างปิกาจูปวกเปียก

 

 

จนถึงวันเกิดเหตุ มีงานเลี้ยงบริษัท หลังเสร็จงานเลี้ยงผู้เสียหายต้องกลับมาทำงานต่อที่บรษัท ผู้ต้องหาก็ตามกลับมาด้วย และอาศัยช่วงที่บริษัทไม่มีใคร ได้ลงมือลากผู้เสียหายเข้าห้องฟิสเนตของบริษัทฯ แล้วลงมือกระทำชำเราอย่างรุนแรง จนผู้เสียหายหมดสติไป เมื่อผู้เสียหายรู้สึกตัว ก็พบว่าตนกำลังถูกไอ้โรคจิตรายนี้ข่มขืนอยู่ จึงใช้เท้าถีบและหนีออกมา ซึ่งหลังเกิดเหตุเธอได้เดินทางไปแจ้งความที่ สน.ประชาชื่น และได้แจ้งเรื่องนี้ให้กับหัวหน้าในบริษัททราบทันที 
         

เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด พบว่าหลังเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้ไปทำความสะอาดและทำลายหลักฐานในห้องฟิสเนตจุดที่ลงมือก่อเหตุ  หลังจากนั้นผู้ต้องก็ไม่มาทำงานอีกและหนีหายไปเลย ซึ่งต่อมาก็ได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหา  

 

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งชุดสืบนครบาลเพื่อไล่ล่าติดตามตัว จนชุดสืบสวนได้ไปพบบุคคลต้องสงสัยที่มีตำหนิรูปพรรณตรงกับคนร้าย กำลังขับรถยนต์อยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.ต.ธีรเดชฯ สั่งให้ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น. หรือ สารวัตรแจ๊ะ ชุดสืบสะกดรอยนักสะกดรอยรายนี้ไปเรื่อยๆ เพื่อพิสูจน์ทราบ 

สารวัตรแจ๊ะ นำทีมลากคอ FC สายหื่น ปัดขืนใจสาวอ้างปิกาจูปวกเปียก

 

 

กระทั่งต่อมาคนร้ายเริ่มระวังตัวจึงเริ่มขับรถโดยใช้ความเร็วต่ำ แต่ชุดสืบสวนไม่กลัวว่าคนร้ายจะรู้ตัว โดยสารวัตรแจ๊ะสั่งลูกทีม ขับตามรถคนร้าย จนกระทั่งคนร้ายเริ่มออกอาการเริ่มขยับฉวัดเฉวียนและใช้ความเร็ว กระทั่งได้พยายามจะสับขาหลอกชุดสืบสวนหักเลี้ยวกลับรถกะทันหันและพยายามขับขี่มุดไปตามช่องแคบ แต่ท้ายสุดก็ถูกสกัดจับได้กลางถนนวิภาวดีรังสิต


ในชั้นจับกุม นายณัฐพล ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเคยเป็นพนักงานในแผนกไอที  ตามที่ผู้เสียหายกล่าวว่าตนนั้นเป็นสตอกเกอร์ตามคุกคามชีวิตประจำวันผู้เสียหาย ผู้ต้องหา ยืนยันว่าไม่ได้เป็นสตอกเกอร์ แค่เป็นห่วงความปลอดภัยของผู้เสียหาย 


ในวันเกิดเหตุผู้เสียหายได้ดื่มเหล้าจนมีอาการเมาไม่ได้สติ และตนจึงได้พาผู้เสียหายไปที่อ่างล้างจานเพื่อไปอาเจียน และพาผู้เสียหายมาเช็ดตัวที่ห้องฟิตเนสในระหว่างนั้นตนเห็นผู้เสียหายถอดเสื้อจนเห็นร่องอก ตนจึงเกิดอารมณ์และได้ลูบไล้ร่างกายผู้เสียหาย

 

 

สารวัตรแจ๊ะ นำทีมลากคอ FC สายหื่น ปัดขืนใจสาวอ้างปิกาจูปวกเปียก

 

 

จนกระทั่งตนกำลังจะถอดกางเกงแต่ อวัยวะเพศของตนเกิดอาการอ่อนตัวจนไม่สามารถทำอะไรได้เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผู้เสียหายรู้สึกตัวพอดี ซึ่งภายหลังเกิดเหตุ ตนได้ลาออกจากบริษัทและออกมาทำงานรับจ้างด้วยตนเอง 

 

ผู้ต้องหายังให้การอีกว่า โดยตลอดช่วงที่หลบหนีได้ตั้งจิตขอขมาองค์เทพและผู้เสียหายเรื่อยมา จนในวันที่ถูกจับกุมตนมีลางสังหรณ์จากองค์เทพว่าวันนี้ตนจะถูกลงโทษจากคดีความที่เคยก่อไว้ และถ้าถูกจับวันนี้จะมีญาติผู้ใหญ่มาช่วยเหลือและตนจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่   ตนอยากเจอกับ สารวัตรหมวกไหมพรหม หรือ สารวัตรแจ๊ะ เพราะติดตามใน tiktok มานานและคิดว่าสักวันตนอาจจะถูกสารวัตรแจ๊ะจับเพราะชุดสืบของสารวัตรแจ๊ะเก่ง อีกทั้งตนยังอยากคุยกับผู้การจ๋อ เพราะติดตามมานานและคิดว่าผู้การจ๋อซึ่งน่าจะเข้าใจตนมากที่สุด

 

หลังจับกุมตัว ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ