'ป้าติ๋ม' กว่าจะได้มรดกไม่ง่าย พบมีหุ้นส่วนคนไทย นายกสมุย ห่วงไม่รู้กม.ไทย

เรื่องราวของมรดกร้อยล้านที่นางแคทเทอร์รีน จูแอลว์ โรแลนด์ เจอร์เมน เดลาโคท นักธุรกิจชาวฝรั่งเศส ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้ ป้าติ๋ม แม่บ้านคนสนิท ยังมีประเด็นว่านักธุรกิจฝรั่งเศสยกสมบัติให้ ป้าติ๋มแม่บ้าน มูลค่าร้อยล้านได้หรือไม่

จากข้อมูลตรวจสอบพบว่า  ผู้ตาย  คือ แคทเทอร์รีน จูแอลว์ โรแลน เจอร์แมน เดอลาโคท  จดทะเบียนธุรกิจ ให้เช้าที่พัก บังกะโล ชื่อบริษัท วี.วี.เอ็น.บี. จำกัด ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท ก่อตั้งเมื่อ 19 เม.ย. 2555 ที่หมู่ 2 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย ผู้ตายถือหุ้นสัดส่วนร้อยละ 49 นายทองใส (สงวนนามสกุล) ถือหุ้นสัดส่วนร้อยละ 35 และ น.ส.รัชประภา (สงวนนามสกุล) ถือหุ้นสัดส่วนร้อยละ 16 ผลประกอบการล่าสุดปี 65 บริษัทมีกำไรสุทธิ 316,459.53 บาท  และมีสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (ที่ดิน-อาคารและอุปกรณ์) 5.4 ล้านบาท

ข้อมูลดังกล่าว พบว่ายังมีคนไทยอีกสองคนถือหุ้นอยู่ในบริษัทด้วย ป้าติ๋ม จะได้รับมรดกในส่วนของวิลล่าที่เขียนไว้ในพินัยกรรมหรือไม่ 

 

 

 

 

 

นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย แสดงความเป็นห่วงว่ากรณีที่มีการจดทะเบียนบริษัทถือครองวิลล่าที่อยู่อาศัยและที่ดิน โดยมีชื่อคนไทย 2 คนเป็นผู้ถือหุ้น ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาต่อไปว่า ทรัพย์สินดังกล่าวจะให้ป้าติ๋มได้หรือไม่  หรือต้องได้รับความยินยอมจากหุ้นส่วนบริษัทก่อน ซึ่งเรื่องนี้ต้องเป็นไปตามข้อกฎหมาย

ส่วนปัญหาต่างชาติใช้นอมินีในการลงทุนในเกาะสมุย นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย พบว่า นักลงทุนหลายคนไม่เข้าใจกฎหมายไทย จึงทำให้เกิดใช้นอมินีในการทำธุรกิจ ซึ่งเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนท้องถิ่นในเกาะสมุยที่ดำเนินการทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเสียภาษีถูกต้อง

ทั้งยังมีความกังวล เพราะมีบางกลุ่มที่อาจไม่ได้เสียภาษีให้รัฐ และไม่ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนนักลงทุนต่างชาติบางคนดำเนินการไปด้วยความไม่รู้กฎหมายไทย หรือไปปรึกษาที่ปรึกษากฎหมาย หรือทนายความบางคนและนักบัญชี

 

และจากปัญหานักลงทุนชาวต่างชาติ ไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายไทย  จึงอยากให้ภาครัฐเข้ามาตรวจสอบ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจส่งผลให้เราสูญเสียรายได้  ซึ่งไม่เกิดประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวของเกาะสมุย และอาจทำให้เกิดความเสียหายให้กับการท่องเที่ยวอีกด้วย

 

 

คนไทยถือที่ดินแทนคนต่างด้าว มีสิทธิติดคุก

นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายคลายทุกข์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมให้ความรู้ทางกฎหมายว่า คนต่างด้าวไม่สามารถือกรรมสิทธิ์ที่ดินในประเทศไทยได้ ยกเว้นเข้าหลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนด โดยขอให้ความรู้เป็นข้อๆ ดังนี้

1.หากจะจดจัดตั้งบริษัท คนต่างด้าวถือหุ้นได้แค่ 49 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือต้องเป็นคนไทย เป็นไปตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 97

2.หากมีเหตุอันควรสงสัย ว่าคนไทยถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในนิติบุคคล เจ้าพนักงานมีหน้าที่ต้องสอบสวนหากพบว่ามีความผิด หรือขัดต่อ พรบ.ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ก็จะต้องดาเนินคดีตามกฎหมาย โดยการแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนในความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137 และมาตรา 267 แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จในเอกสารราชการ

3.หลังจากนั้นอธิบดีกรมที่ดินจะบังคับให้จำหน่ายที่ดิน หากไม่ยอมจำหน่าย อธิบดีก็มีอำนาจจำหน่ายที่ดินนั้นได้

4. ทนายความหรือนักกฎหมาย หรือผู้ที่แนะนำให้คนไทยถือหุ้น หรือถือที่ดินแทนคนต่างด้าวถือว่าผิดมรรยาททนายความ และมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 137 และมาตรา 267 และประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 111 ซึ่งวางหลักว่าการได้ที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือจำคุกไม่เกินสองปี หรือทั้งจำทั้งปรับ นิติบุคคลมีความผิดตามมาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน

 

สำหรับคนไทยที่เป็นตัวแทนคนต่างด้าวมีความผิดตามมาตรา 113 ในฐานเป็นตัวแทนคนต่างด้าวได้มาซึ่งที่ดินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือจาคุกไม่เกินสองปี หรือทั้งจาทั้งปรับ

 

5.เจ้าพนักงานที่ดินที่รับจดทะเบียนให้กับคนต่างด้าว หากรู้เห็นเป็นใจด้วย มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 มีโทษจาคุก 1-10 ปี