ข่าว

รวบทันควัน 'แก๊งทวงหนี้โหด' มือถือตบหน้ายายขายข้าวไข่เจียววัย 75

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รวบแล้ว 'แก๊งเงินกู้ทวงหนี้โหด' ใช้โทรศัพท์ตบหน้ายายขายข้าวไข่เจียว วัย 75 ปี หนำซ้ำทำลายข้าวของ เจ้าตัวยังปากแข็ง ปัดทำร้ายร่างกาย อ้างแค่ไปทวงเงิน แต่ยินดียกหนี้ให้ยายทั้งหมด

8 พ.ค. 2567 จากกรณีนาง สุพัตรา หรือยายสุข  อายุ 75 ปี แม่ค้าขายข้าวไข่เจียว เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ หลังถูกชายไม่ทราบชื่อ 2 คน ขับรถกระบะสีขาวเข้ามาจอดที่หน้าร้านก่อนจะเดินเข้ามาทวงเงิน และใช้โทรศัพท์มือถือตบเข้าที่หน้า กระชากเสื้อ ปักข้าวกล่องกระจายเกลื่อนร้าน และถ่มน้ำลายใส่ก่อนพากันขับรถออกไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 7 พ.ค. 2567 ที่ผ่านมา บริเวณหน้าคอนโดย่านบางใหญ่ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี 
 

ยายวัย 75 ปี เจอแก๊งทวงหนี้โหด ทั้งตบหน้า ทั้งพังร้านขายข้าว

 

 

โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพรถกระบะ ยี่ห้ออิซูซุ สี่ประตู สีขาว ขับมาจอดที่หน้าร้านผู้เสียหาย เมื่อเวลา 13.18 น.จากนั้นได้มีชายฉกรรจ์ 2 คนลงมาจากรถ ฝั่งคนขับสวมเสื้อสีดำ ทราบชื่อนายจำนงค์ และฝั่งคนนั่งหน้าสวมเสื้อสีแดง หรือ นายกมลแพทย์ เป็นคนตบหน้ายายสุข ระหว่างที่ชายเสื้อดำเดินเข้าไปที่ในร้าน ชายเสื้อแดงยืนคุมเชิงอยู่ที่ด้านหน้ารถ สักพักชายสวมเสื้อสีแดงได้เดินตามเข้าไปในร้าน ต่อมาเวลา 13.26 น. ชายทั้ง 2 คนได้เดินกลับมาขึ้นรถ แล้วกลับรถขับออกไป


ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา  พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) พร้อมด้วย  พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี เดินทางมาที่ สภ.บางใหญ่  ภายหลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวนายกมลแพทย์  อายุ 35 ปี และนายจำนงค์  อายุ 24 ปี 2 ผู้ต้องหาแก็งเงินกู้นอกระบบ ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายยายสุข หลังติดตามมาทวงหนี้ถึงที่ร้าน

 

 

รวบทันควัน แก๊งทวงหนี้โหด มือถือตบหน้ายายวัย 75

 

 

โดยผู้ก่อเหตุทั้งสองได้เดินทางเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.บางใหญ่ เพื่อขอมอบตัว ซึ่งผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ราย ให้การปฎิเสธ โดยอ้างว่าแค่มาติดตามทวงหนี้จริง แต่ไม่ได้ลงมือทำร้ายร่างกายยายสุข ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า "ร่วมกันประกอบธุรกิจให้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับในทางการค้าปกติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้ กู้ยืมเงิน โดยมีลักษณะเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ และร่วมใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้ เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ"

ยายสุข ผู้เสียหายให้ปากคำ่ต่อ พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1

 

 

ทางด้าน พล.ต.ท.จิรสันต์   ซึ่งร่วมสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ร่วมกับปลัดจังหวัดนนทบุรี และฝ่ายปกครอง อ.บางใหญ่ ใช้เวลาในการสอบประมาณ 30 นาที ก่อนจะเดินทางเข้าพูดคุยกับ นางสุพัตรา หรือยายสุข   ผู้เสียหาย ถึงรายละเอียดการกู้เงิน ซึ่งได้เคยติดต่อกับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบางใหญ่แล้ว แต่ไม่ได้มีการไกล่เกลี่ยเรื่องเงินกู้กันเพราะติดต่อเจ้าหนี้ไม่ได้ จนกระทั่งมาเกิดเรื่อง

 

พล.ต.ท.จิรสันต์  กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการกู้เงินกันตั้งแต่ปลายปี 2566 จำนวน 5,000 บาท เป็นระบบดอกลอย ตอนนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้ง 2 คนซึ่งเป็นคนทวงหนี้  ส่วนเจ้าของเงินยังไม่ได้ตัว ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้ให้ฝ่ายปกครองร่วมดำเนินการ กรณีคุณยายได้เคยมาที่ศูนย์ดำรงธรรมแล้วแต่ติดต่อเจ้าหนี้ไม่ได้ จึงไม่ได้เข้าระบบ 

 

 

2ผู้ต้องหาทวงหนี้โหด ยังให้การปฏิเสธ ไม่ได้ทำร้ายยายสุข

 

 

ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้มาทวงเงิน และมีการใช้กำลังทำร้ายร่างกาย ก่อนที่จะหลบหนีไป ซึ่งหลังจับกุมตัวได้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน แต่ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ รับแต่เพียงว่ามีการให้กู้เงิน แต่ไม่ได้ใช้โทรศัพท์ทำร้าย ซึ่งคุณยายยังยืนยันว่าถูกทำร้าย ต้องมีการสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง 

 

พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1

 

 

จากการสอบสวนพบว่านายกมลแพทย์ เป็นเจ้าของเงิน แต่นายก้อง เป็นเพียงคนนำเงินมาปล่อยกู้เท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีหลักฐานเพียงพอว่าเป็นคนปล่อยเงินกู้รายใหญ่ พบว่ามีเงินออกกู้เพียง 3 รายเท่านั้น และทางผู้ก่อเหตุทั้งสองรายยินดียกหนี้จำนวน 5,000 บาท ให้กับยายสุขแล้ว หลังเจ้าหน้าที่อำเภอบางใหญ่เข้าเจรจาไกล่เกลี่ย 

 

ศุภชัย สินธ์ประเสริฐ : นนทบุรี

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ