ข่าว

พี่น้องตระกูล"ธรรมวัฒนะ"ขอขมา"นพดล"

พี่น้องตระกูล"ธรรมวัฒนะ"ขอขมา"นพดล"

06 ก.ย. 2553

พี่น้องตระกูลธรรมวัฒนะทำบุญครบ 11 ปี "ห้างทอง" เสียชีวิต "นพดล" เผยพี่เครียดจัดการมรดกลั่นไกปลิดชีพตัวเอง บี้น้องชายพ้นตลาดยิ่งเจริญ ซัด "หมอพรทิพย์" ชำแหละศพปั้นหลักฐานเท็จ คุณหญิงหมอท้าให้ฟ้อง ยันผลชันสูตรชี้ชัดไม่ได้ฆ่าตัวตาย

กว่า 10 ปีหลังการเสียชีวิตจากคมกระสุนปืนอย่างมีเงื่อนงำของนายห้างทอง ธรรมวัฒนะ อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชากรไทย เมื่อกลางดึกคืนหนึ่งในเดือนกันยายน 2542 ส่งผลให้นายนพดล ธรรมวัฒนะ อายุ 56 ปี นักธุรกิจชื่อดัง ตกเป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าพี่ชายตัวเอง กระทั่งวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกฟ้องนั้น

 ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 กันยายน ที่บ้านธรรมวัฒนะ เลขที่ 299/9 หมู่ 7 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ นายนพดล นางมัลลิการ์ หลีระพันธ์ น.ส.คนึงนิตย์ ธรรมวัฒนะ และนางนฤมล มังกรพานิชย์ พี่น้องตระกูลธรรมวัฒนะ ซึ่งอดีตเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน ทำบุญเลี้ยงพระอุทิศส่วนกุศลเนื่องในวันครบรอบการเสียชีวิต 11 ปีของนายห้างทองและบรรพบุรุษตระกูลธรรมวัฒนะ จากนั้นนายนพดลและคนในครอบครัวทำพิธีการขอขมาต่อนายห้างทองและบรรพบุรุษ

 ต่อมา น.ส.คนึงนิตย์ และนางนฤมล กล่าวขอขมานายนพดลถึงการกระทำและการแสดงความคิดเห็นที่ให้ร้ายนายนพดลตลอดระยะเวลา 11ปีที่ผ่านมา โดยในส่วนของคดีการเสียชีวิตของนายห้างทอง ยอมรับในคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ตลอดระยะเวลา 11 ปี ไม่เคยเชื่อว่านายนพดลสังหารนายห้างทอง แต่ยอมรับผิดเองที่ไม่เคยสอบถามความจริงจากนายนพดล ขณะที่นายนพดลพร้อมให้อภัยในฐานะพี่ และหวังว่าน้องจะรู้สึกสำนึกผิด

 นายนพดลกล่าวเปิดใจถึงข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของนายห้างทองว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่ามีการปั้นพยานหลักฐานเท็จกล่าวหาตน และอ้างว่า พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม หนึ่งในผู้ร่วมชันสูตรพลิกศพนายห้างทอง ได้ปั้นพยานหลักฐานรอยช้ำตามร่างกายของนายห้างทองซึ่งไม่เป็นไปตามหลักวิชาการ ส่วนการแถลงข่าวร่วมกันของพี่น้องยืนยันว่าไม่ได้สร้างภาพถึงการรักใคร่กลมเกลียวกัน

 "ปัญหาที่ทำให้พี่ห้างทองต้องจบชีวิต ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากปัญหาการจัดการทรัพย์สินที่มีนายปริญญา ธรรมวัฒนะ น้องชาย เข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้พี่ห้างทองเกิดความเครียด" นายนพดลกล่าว

 นางนฤมลยอมรับว่า ที่ผ่านมาไว้ใจนายปริญญามาก จนมอบให้บริหารตลาดยิ่งเจริญหลังการเสียชีวิตของนายห้างทอง โดยนายปริญญาอ้างว่า นายห้างทองไม่มีสิทธิ์บริหารกองมรดก เพราะเสียชีวิตไปแล้ว ทั้งนี้ รู้สึกสำนึกผิดที่หลงเชื่อและไว้ใจนายปริญญามากเกินไป และเรียกร้องให้นายยุวรัตน์ กมลเวชช อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และนายปริญญา ลาออกจากการบริหารจัดการทรัพย์สินตลาดยิ่งเจริญ เพื่อให้ครอบครัวเป็นผู้บริหารเอง

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวเปิดใจของนายนพดลและพี่น้อง ได้มีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตลาดยิ่งเจริญจำนวนหนึ่งนำดอกไม้มาให้กำลังใจ และเรียกร้องให้นายนพดลกลับไปบริหารงานที่ตลาดยิ่งเจริญ หลังไม่ได้รับความเป็นธรรม

 ด้าน พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าวถึงการพิสูจน์ศพนายห้างทองว่า ดำเนินการตามขั้นตอนทางนิติวิทยาศาสตร์ และเป็นศพที่เสียชีวิตมาเป็นเวลานาน คงจะไม่สามารถมาสร้างหรือปั้นพยานหลักฐานเท็จได้

 “หมอไม่เคยบอกว่านายนพดลฆ่านายห้างทอง เพียงแต่เราตรวจสอบพบพยานหลักฐานว่า นายห้างทองไม่ได้ฆ่าตัวตาย นี่คือสิ่งที่เรายืนยันมาตลอด ส่วนตัวไม่ต้องการจะมาทะเลาะ โต้เถียงกับนายนพดลผ่านสื่ออีกต่อไป เพราะจะเสื่อมเสียเกียรติกันเปล่าๆ หากนายนพดลเห็นว่าสิ่งที่หมอทำไม่ถูกต้องก็สามารถใช้สิทธิ์ฟ้องร้องได้ตามกฎหมาย” พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าว

 ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กล่าวอีกว่า หลักธรรมมีอยู่ว่าหากการกล่าวหาหรือพูดในสิ่งที่เป็นเท็จจะเป็นบาปต่อกัน ดังนั้นการใช้กระบวนการยุติธรรมมาตัดสินจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ส่วนเรื่องที่นายนพดลเคยร้องเรียนต่อแพทยสภานั้นก็ว่าไปตามหลักเกณฑ์ เชื่อว่าที่ผ่านมาแพทยสภาไม่เคยปกป้องตน และยืนยันอีกครั้งว่า ไม่เคยกล่าวหาว่านายนพดลฆ่านายห้างทอง ขณะเดียวกันนายห้างทองก็ไม่ได้ฆ่าตัวตายแน่นอน