
สธ.แจง4เหตุการณ์ชุมนุมเจ็บ1,427เสียชีวิต27
สธ.สรุปผู้บาดเจ็บ 4 เหตุการณ์ความรุนแรงจากการชุมนุม นปช. รวม 1,427 ราย เสียชีวิต 27 ราย พร้อมสรุปยอดย้ายผู้ป่วย รพ.จุฬา รวม 183 ราย
(3พ.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวสรุปภาพรวมผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เม.ย. มีผู้บาดเจ็บ 864 ราย ยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่รพ. 44 ราย ส่วยใหญ่เป็นทหาร จำนวนนั้นอยู่ในห้องไอซียู 2 ราย เสียชีวิต 25 ราย ส่วนเหตุการณ์ที่ถนนสีลม เมื่อวันที่ 28 เม.ย. มีผู้บาดเจ็บ 80 ราย ยังนอนพักรักษาที่รพ. 4 ราย ในจำนวนนั้นอยู่ห้องไอซียู 1 ราย ส่วนเหตุการณ์ระเบิดบริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์ มีผู้บาดเจ็บ 12 ราย กลับบ้านได้แล้วทั้งหมด ส่วนเหตุการณ์ที่อนุสรณ์สถาน ดอนเมือง มีผู้บาดเจ็บ 23 ราย ยังนอนค้างอยู่รพ. 10 ราย เสียชีวิต 1 ราย รวมผู้บาดเจ็บจาก 4 เหตุการณ์ทั้งสิ้น 1,427 รายเสียชีวิต 27 ราย
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับการบุกตรวจค้นรพ.จุฬาลงกรณ์ จากรายงานศูนย์ปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ได้รายงานว่า มีการย้ายผู้ป่วยในไปยังรพ.ต่างๆ รวมจำนวน 183 ราย โดยได้ย้ายไปในรพ.สังกัดกระทรวงสาธารณสุข 66 ราย ใน 21 รพ. ย้ายไปรพ.สังกัดกทม. 49 ราย ใน 7 รพ. รพ.สังกัดมหาวิทยาลัย 39 ราย ใน 4 รพ. รพ.สังกัดกระทรวงกลาโหม 3 ราย ใน 1 รพ. คือรพ.พระมงกุฎ รพ.เอกชน 25 ราย ใน 12 รพ. และรพ.จุฬาภรณ์ 2 ราย ทั้งนี้นางวลัยพรรณ สังโฆ 51 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บต้องผ่าตัดสมองซ้ำ 2 ครั้ง จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 เม.ย.นั้น ได้ย้ายไปรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู รพ.ศิริราช และอาการยังน่าเป็นห่วง
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ให้คงสิทธิเช่นเดิมของผู้ป่วยทุกราย โดยจากการสำรวจเบื้องต้น มีผู้ป่วยที่ใช้ข้าราชการ 46 ราย สิทธิรักษาฟรี 72 ราย และสิทธิประกันสังคม 10 ราย ส่วนที่เหลือผู้ระหว่างการสำรวจสิทธิ ทั้งนี้กรณีผู้ป่วยที่ต้องย้ายไปยังรพ.เอกชน รัฐบาลและกระทรวง จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนั้นให้ เพื่อไม่กระทบกับสิทธิของผู้ป่วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ผู้ป่วยไปรอรับยาที่รพ.จุฬาจำนวนมาก จะช่วยประสานให้สามารถรับยาที่รพ.ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขได้หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ได้มีการประสานกับทางรพ.จุฬา แต่ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรพ.จุฬา ว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะเป็นคนไข้ของรพ.จุฬา อย่างไรก็ตามรพ.ในสังกัด กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ในกพื้นที่กทม.ได้มีการประสานงานกับรพ.จุฬาแล้วว่า ถ้าสสมติว่ามีความจำเป็นต้องถ่ายเทผู้ป่วยมา ก็ยินดีทุกประการ แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับดุลพินิจของรพ.จุฬา เบื้องต้น ว่าความเหมาะสมคืออะไรและมีจำเป็นขนาดไหนอย่างไร เราพร้อมให้ความช่วยเหลือเพราะรพ.จุฬาถือเป็นศูนย์ที่ให้ความร่วมมือกันดีกับศูนย์ปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินระดับชาติ และเมื่อถามว่า กรณีผู้ป่วยที่ต้องได้รับเกร็ดเลือดซึ่งไม่สามารถรับบริการจากรพ.อื่นได้นอกจากรพ.จุฬา รมว.สธ. กล่าวว่า รพ.จุฬากำลังพิจารณาว่าจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากรพ.อื่นๆ หรือไม่ ซึ่งรพ.ในสังกัดกระทรวงยินดีทุกรพ.