สื่อสายตร.ตั้งฉายาให้"อัศวิน"มือปราบไผ่เขียว
สื่อสายตำรวจตั้งฉายาบิ๊กตำรวจ"วิเชียร"รับ"น้อย แบบเบอร์" หลังก.ต.ช.มีมติให้นั่งเก้าอี้ขาดลอย ด้าน "ภาณุพงศ์" รับฉายา "อ๊อด ตามเสียงบึ้ม" ขณะที่"อัศวิน"ได้"มือปราบไผ่เขียว" ส่วน"พงศ์พัฒน์" ชื่อ "กุ๊กกิ๊ก แตะต้องได้"
(30ธ.ค.) ที่สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคม พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารสมาคม ร่วมกันแถลงผลการโหวตตั้งฉายาตำรวจแห่งปี โดยนายไพโรจน์กล่าวว่า สมาคมได้ก่อตั้งขึ้นมานานกว่า 30 ปี มีสมาชิกเป็นผู้สื่อข่าวสายอาชญากรรมกว่า 300 คน จากหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ นิตยสาร และวิทยุ การตั้งฉายาตำรวจประจำปี 2553 ของผู้สื่อข่าวและช่างภาพสายอาชญากรรมที่ติดตามผลงาน และการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในปีนี้ทางคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ และตัวแทนจากผู้สื่อข่าวและช่างภาพสายอาชญากรรมจากสำนักพิมพ์และสื่อต่างๆ ได้ร่วมประชุมและพิจารณาลงมติตั้งฉายาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความโดดเด่น และประชาชนให้ความสนใจในรอบปี คือ 1.พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. โดยเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ พล.ต.อ.วิเชียร ขึ้นเป็น ผบ.ตร.คนใหม่ ด้วยคะแนน 8 ต่อ 0 เสียง ทำให้ พล.ต.อ.วิเชียร เป็น ผบ.ตร.คนที่ 7 ตามความคาดหมายของสื่อมวลชน จึงได้ให้ฉายา “น้อย แบเบอร์”
2.พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร. ในช่วงปีที่ผ่านมาได้เกิดเหตุระเบิดป่วนกรุง ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องแต่งตั้ง พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ เป็นหัวหน้าทีมคลี่คลายปม รวมถึงสามารถแกะรอยโยงใยเครือข่ายก่อการร้ายที่ก่อเหตุไว้หลายท้องที่ สื่อมวลชนจึงให้ฉายา “อ๊อด ตามเสียงบึ้ม” 3.พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ 10) รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เป็นนายตำรวจที่มีผลงานโดดเด่นอย่างมาก สามารถจัดการแก๊งค้ายาบ้าในชุมชนไผ่เขียว จ.พระนครศรีอยุธยา และยังติดตามคนร้ายในคดียิง “น้องโตมี่” ได้เป็นผลสำเร็จ สื่อมวลชนจึงให้ฉายา “มือปราบไผ่เขียว”
4.พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. แม้การก้าวมาจากเก้าอี้ผู้บังคับการปราบปราม และรอง ผบช.ก. ผงาดขึ้นในตำแหน่งนี้ถือว่าใช้เวลาไม่นานนัก แต่ก็ไร้เสียงวิจารณ์ เพราะสไตล์การทำงานเป็นที่ยอมรับในความเชี่ยวชาญงานตำรวจสมัยใหม่ ประกอบกับการใช้เทคนิคงานสืบสวนระดับสากล ที่นำมาสู่การปรับวิธีการทำงานของตำรวจไทยให้หันกลับมามองประชาชน จึงผุดโครงการ "ตำรวจผู้รับใช้ประชาชน" ลดช่องว่างระหว่างตำรวจกับประชาชน สื่อมวลชนจึงให้ฉายา “กุ๊กกิ๊ก แตะต้องได้” 5.พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. เป็นคนขยันทำงานแบบตรงไปตรงมา สุขุม ลุ่มลึก พูดน้อย อ่อนน้อมถ่อมตัว เป็นมือประสานสิบทิศ และเป็นนายตำรวจที่อ่อนเยาว์ที่สามารถติดยศพลตำรวจโทได้อย่างรวดเร็วแบบไม่ต้องเข้าคิวรอ ขนาดเพื่อนรุ่นเดียวกันบางคนยังเป็นแค่สารวัตร แต่ด้วยอายุราชการอีกยาวนานเกือบ 10 ปี คาดว่าตำแหน่ง ผบ.ตร.ไม่ไกลเกินเอื้อม สื่อมวลชนจึงให้ฉายา “น.1 อีซี่พาส”
6.พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร อดีตรอง ผบช.ภ.9 จากการที่ออกมาแถลงข่าวในหัวข้อ “ฉะ โผตำรวจ นักการเมืองล้วงลูก” แบบถึงพริกถึงขิง ไม่กลัวหน้าอินทร์หน้าพรหม หลังถูกย้ายมาเป็น รอง ผบช.สำนักงานกฎหมายและคดี โดยกล่าวหาว่ามีนักการเมืองล้วงลูกการแต่งตั้งนายตำรวจ เพราะตัวเองไปจับบ่อน พล.ต.ต.วิสุทธิ์ ยังบอกว่าจะมาแนวใหม่ เมื่ออยู่ในกรุจะดูแลงบลับของตร. การสั่งซื้อสั่งจ้างของตร.ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎกติกา...สื่อมวลชนจึงให้ฉายา “ท่านรอง เบรกแตก” 7.พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต ผบก.ส.3 เป็นคนเก่งในงานปราบปราม สมัยเป็นผู้บังคับการสืบสวนนครบาล ได้จัดหน่วยงานเป็นที่น่าเกรงขามของเหล่ามิจฉาชีพ จับกุมคดีสำคัญๆ ได้หลายคดี ร่วมถึงการจับกุมยาบ้าเป็นล้านเม็ด เฮโรอีน ยาไอซ์ ปิดคดีแก๊งปล้นรถขนเงินธนาคาร 16 ล้าน ซึ่งเป็นคดีที่ตำรวจนักสืบดังๆ หลายๆ รุ่นติดตามคดีอยู่ แต่ก็ไม่สามารถปิดคดีได้ สุดท้าย พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ ก็สามารถจับกุมได้ยกแก๊ง เมื่อถึงฤดูโยกย้ายนายตำรวจ กลับถูกย้ายไปอยู่สันติบาล 3 สื่อมวลชนจึงให้ฉายา “มือปราบตกสำรวจ”
8.พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เป็นนายตำรวจที่ขยันและมีผลงานการปราบปรามมาอย่างต่อเนื่อง เป็นเจ้าของโครงการชุด จู่โจม ปะ ฉะ ดะ ทั้งทางบกและทางน้ำ ล่าสุดได้จัดทำโครงการตำรวจนครบาล 1 พึ่งได้ จัดทำป้ายสัมพันธ์ด้วยข้อความ “ตำรวจนครบาล 1 พึ่งได้” ติดตั้งตามจุดสำคัญๆ ที่เห็นเด่นชัดในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อเป็นสัญญาประชาคมให้แก่ประชาชนในพื้น และเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อดึงความเชื่อมั่นและศรัทธาของประชาชนที่มีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้กลับคืนมา สื่อมวลชนจึงให้ฉายา “แต้ม...พึ่งได้” 9.พล.ต.ต.เพ็ชรลูก เสียงก้อง อดีต ผบก.ภ.จว.ตาก ตกเป็นจำเลยสังคมเมื่อคลิปภาพฉาวนัวเนียตำรวจหญิงถูกเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต จนต้องออกมายอมรับว่าเป็นตัวเองจริง แต่เป็นกระบวนการจ้องทำลาย ส่งผลให้ต้องออกจากราชการไว้ก่อน สื่อมวลชนจึงให้ฉายา “ผู้การคลิปฉุด” ฉุดให้ออกจากราชการ
10.พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. ตำแหน่งนี้มีอำนาจบารมีครอบคลุมทั่วประเทศ ผู้ที่จะมาเป็นต้องเป็นบุคคลที่ไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชา พล.ต.ต.สุพิศาลเป็นนายตำรวจที่มีผลงานโดดเด่น พิชิตคดีดังๆ ได้หลายคดี ยึดหลักการทำงานแบบ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ จึงได้รับฉายา “ผู้การนอมินี” 11.พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ผ่านมาจะต้องเป็นผู้ประสานงานทั้งในและนอกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่หน่วยงาน ที่สำคัญจะต้องประสานงานกับสื่อมวลชน เข้าถึงสื่อ ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ประวุฒิก็ทำงานอยู่ในระดับหนึ่ง จึงได้รับฉายา “โฆษกเสียงเบา”