ก.พาณิชย์ตั้งเครือข่าย "คลัสเตอร์อาหารออร์แกนิค"ภาคเหนือ

 

          เชียงใหม่ - 1 มิ.ย.61-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้ประกอบการอาหารออร์แกนิค จัดตั้งสมาคมเครือข่ายคลัสเตอร์อาหารออร์แกนิคภาคเหนืออย่างเป็นทางการ หวังเพิ่มาตรฐานการผลิตให้เกษตรกร พร้อมกระจายสินค้าเข้าถึงผู้บริโภค   หลังพบว่าตลาดความต้องการอาหารออแกนิกสูงขึ้น ส่วนแผนระยะยาวเล็งทำ Unseen Organic tourism ต่อยอดการท่องเที่ยวกับอาหารออแกนิคร่วมกัน

 

           

                นายสันติพงษ์ วงค์ทะเนตร ผอ.ส่วนส่งเสริมธุรกิจภูมิภาค กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า  กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้พัฒนารูปแบบธุรกิจ เพื่อสร้างโอกาสทางการค้า ภายใต้โครงการจัดตั้งศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการแบบครบวงจร เพื่อพัฒนาศักยภาพ และขีดความสามารถทางการแข่งขันของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชน ด้วยการลงพื้นที่จริง วิเคราะห์และศึกษากลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพในแต่ละภูมิภาค ผลักดันให้เกิดความเชื่อมโยงกันในรูปแบบของเครือข่ายคลัสเตอร์ ร่วมจัดทำระบบการบริหารจัดการธุรกิจ การตลาด และจัดทำแผนพัฒนาเครือข่ายคลัสเตอร์ให้สามารถนำไปใช้ได้จริง ตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการและผู้บริโภคอย่างเป็นรูปธรรม มุ่งสร้างผลประโยชน์แก่เศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว โดยมีสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ดำเนินงาน ใน 6 ภูมิภาค

   

          

          ทั้งนี้ ตามแผนงานจะได้มีการจัดตั้งเครือข่ายคลัสเตอร์พร้อมกันทั้งใน 6 ภูมิภาค ในส่วนของภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคอีสานภาคใต้ และภาคใต้ชายแดน  เพื่อเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการฐานราก ซึ่ง การพัฒนารูปแบบธุรกิจให้เกิดการรวมกลุ่มทางการค้าให้เกิดคลัสเตอร์ทางธุรกิจการค้า โดยในส่วนของภาคเหนือเป็นคลัสเตอร์ธุรกิจอาหารออร์แกนิค ,ในส่วนของภาคกลาง เป็นคลัสเตอร์ท่องเที่ยวเชิงเกษตร , ภาคตะวันออก เป็นคลัสเตอร์ท่องเที่ยววิถีชุมชน และภาคอีสานเป็นคลัสเตอร์สิ่งทอ,ม  ภาคใต้เป็นครัสเตอร์อาหารฮาลาล และภาคใต้ชายแดนเป็นคลัสเตอร์แปรรูปยางพารา โดยพัฒนาทั้ง 6 ภูมิภาคในรูปแบบคลัสเตอร์ธุรกิจแล้ว ทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จะนำผู้เชี่ยวชาญเข้ามาพัฒนาในเรื่องของระบบบริหารจัดการกลยุทธ์การตลาด เพื่อให้คัสเตอร์มีแผนระยะสั้นระยะกลางระยะยาวเพื่อให้สามารถขับเคลื่อน และดำเนินการในส่วนของคลัสเตอร์ได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

 

            

              นายสันติพงษ์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ในภาคเหนือนั้น ได้มีการจัดตั้งสมาคมเครือข่ายคลัสเตอร์อาหารออร์แกนิคภาคเหนือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จะให้คำปรึกษาและพัฒนาระบบการบริหารจัดการ การตลาด และแผนพัฒนาเครือข่ายคลัสเตอร์ กิจกรรมให้คำปรึกษาด้านแผนผังโมเดลธุรกิจ โดยหวังว่า คลัสเตอร์เหล่านี้จะผนึกกำลังกัน สร้างความเข้มแข็ง รวมกันเป็นเครือข่าย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า พร้อมให้การสนับสนุนด้วยการจัดส่งกลุ่มพี่เลี้ยงเอสเอ็มอี ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญ กับเรื่องของเศรษฐกิจฐานราก โดยต่อไปในการพัฒนาอาหารออร์แกนิกในพื้นที่ภาคเหนือ ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความสำคัญ ซึ่งต่อไปทางสมาคมเครือข่ายฯจะเป็นตัวขับเคลื่อนให้ธุรกิจออร์แกนิค และอินทรีย์ได้เชื่อมโยงธึรกิจระหว่างกัน และเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าได้อย่างเป็นระบบ 

                              

              นางสาววิภาพร พัฒนาภรณ์ นายกสมาคมเครือข่ายคลัสเตอร์อาหารออร์แกนิคภาคเหนือ กล่าวว่า เป้าหมายของสมาคมฯ ในระยะสั้นจะเร่งรวบรวม สมาชิก หรือเกษตรกรที่ทำออร์แกนิค ที่กระจายอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ มารวมเป็นกลุ่มเป็นสมาชิก และวางแผนการปลูก เพื่อจะได้ป้อนวัตถุดิบให้กับโรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหารได้อย่างทั่วถึง  ส่วนเป้าหมายในระยะกลางทางเครือข่ายคลัสเตอร์ที่อยู่ในภาคอื่นๆ จะมีการเชื่อมโยงกันและมีการแลกเปลี่ยนสินค้า ทำการซื้อขายเพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้า และทำให้เกษตรกรมีความยั่งยืนมีเศรษฐกิจที่ดี ส่วนเป้าหมายในระยะยาว มีการวางแผน 10 แหล่งท่องเที่ยว Unseen Organic tourism ขณะนี้มีการพบแล้ว 2 ถึง 3 แห่ง และจะมีการพัฒนาในจุดต่างๆที่ได้ค้นพบ เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว  โดยจะมีอาหารออร์แกนิค บริการให้กับนักท่องเที่ยว

                   

            ในทางด้านวิชาการที่จะช่วยสนับสนุนให้เกษตรกรเข้ามาผลิตสินค้าออร์แกนิคให้ได้มาตรฐาน  จะต้องมีการวางแผนเพิ่มเติมขึ้นมา แต่ตามสถาบันการศึกษาไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อาจจะต้องเข้ามาเป็นพี่เลี้ยง ในขณะเดียวกันหน่วยงานภาครัฐ เกษตรจังหวัด กระทรวงสาธารณสุข จะต้องเข้ามาเป็นพี่เลี้ยง ในเรื่องของการตรวจประเมินคุณภาพของสินค้า เป้าหมายของสมาคมเอง ทางเครือข่ายต้องการที่จะสร้างตลาดออแกนิค ที่คนสามารถเข้าถึงได้ง่าย ผู้ผลิตและผู้บริโภคมาพบกันในราคาที่เหมาะสมเป็นธรรม 

                 

            ทางสมาคมฯมองว่า ปัจจุบันนี้ผู้บริโภคตื่่นตัวในการเลือกซื้ออาหารออร์แกนิค อาหารอินทรีย์มากขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มตลาดที่ดีขึ้น แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ มาตรฐานเนื่องจากเกษตรกรแปลงเล็ก ไม่มีความสามารถที่จะทำให้ได้มาตรฐาน สูง เทียบเท่ามาตรฐานส่งออก หรือได้มาตราฐานเหมือนเกษตรแปลงใหญ่ ดังนั้น จึงคิดว่าการที่จะทำรับบการรับรองแบบมีส่วนร่วม (PGS) ป็นการรวมกลุ่มของเกษตรกรที่ตั้งกฎเกณฑ์ขึ้นมา และยอมรับกฎเกณฑ์นี้ และให้ผู้บริโภคเข้ามาชมมาดูว่า เกษตรกรมีความตั้งใจที่จะผลิตอาหาร ที่มีความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค และในเบื้องต้นจำนวนสมาชิก 200 รายได้ให้คำปฏิญาณกับสมาชิกเครือข่าย คลัสเตอร์อาหารออร์แกนิค เพื่อให้ความมั่นใจกับผู้บริโภคว่าจะมีความซื่อตรงไม่ปลอมปนและไม่นำผลผลิตที่มี เคมีมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภค