ร้อง 'ดีเอสไอ' สอบบุคคลสกัดพยาน แทรกแซงการดำเนินคดีบิ๊ก ปตท. ฮั๊วประมูล
ร้อง 'ดีเอสไอ' สอบบุคคลที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับพยานหลักฐาน และเจ้าหน้าที่เพื่อแทรกแซงคดีกล่าวหาบิ๊ก ปตท. และบริษัทในเครือร่วมกระทําผิดตาม พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ พ.ร.บ.ฟอกเงิน และ พ.ร.บ.ฮั้วประมูล หลังจากการดำเนินคดีไม่คืบหน้า
นายสยามราช ผ่องสกุล ในฐานะผู้มีส่วนได้เสียและเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท ปตท.จํากัด (มหาชน) บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จํากัด (มหาชน) (GGC), บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จํากัด (มหาชน) (PTTGC) ได้ทำหนังสือถึง พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหลังปรากฎว่ามีการแทรกแซงคดี บิ๊ก ปตท.ฮั๊วประมูลการซื้อน้ำมัน B100 ตามที่นายสยามราชได้ร้องเรียนไปก่อนหน้านี้
ข้อเรียกร้องนายสยามราชระบุว่า มีกลุ่มบุคคลในบรรดา บิ๊ก ปตท. ที่ร่วมกันกระทําความผิด มีพฤติกรรมเข้าไปแทรกแซงการสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ มีการปกปิดซ่อนเร้นทําลายพยานหลักฐาน โยกย้ายเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นพยานบุคคลและเป็นพยานสําคัญให้พ้นจากตําแหน่งหน้าที่ เพื่อไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับคดีฮั๊วประมูลในฐานะพยาน
ทั้งนี้ ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อช่วยเหลือผู้กระทําความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ มาตรา 200 โดยอ้างถึงหนังสือฉบับลงวันที่ 12 พ.ค. 2566 เรื่อง ขอให้ดําเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่ร่วมกันกระทําความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535, พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องตามอํานาจหน้าที่
ก่อนหน้านี้ นายสยามราชได้ร้องดีเอสไอ, คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) เพื่อให้ดำเนินคดีกับบิ๊ก ปตท. ในฐานะผู้บริหาร บริษัท ปตท., บริษัท โกลบอล กรีน เคมิคอล, บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (PTTOR) และผู้ที่เกี่ยวข้องฐานร่วมกันกระทําความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 พ.ร.บ.ป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
หนังสือระบุว่า จนถึงปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินคดี ยังทั้งปรากฏข้อเท็จจริงจากกลุ่มผู้ถือหุ้น และกลุ่มผู้พิทักษ์ผลประโยชน์ของบริษัท ปตท.และกลุ่มบริษัทในเครือ ปตท. มีการครอบงําแทรกแซงบริษัท (Transfer Pricing) และ/หรือการสมยอมราคาน้ำมัน B100 นั้นพบว่าผู้บริหาร บริษัท PTTOR และบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทําความผิดได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ PTTOR ไม่ให้ความร่วมมือเป็นพยานต่อเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ
แสดงถึงพฤติกรรมแทรกแซงการสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่ และปกปิดซ่อนเร้นทําลายพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังได้โยกย้ายเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นพยานบุคคลและเป็นพยานสําคัญในคดีให้พ้นจากตําแหน่งหน้าที่ เพื่อไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับคดีและเอกสารต่างๆ การกระทําดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายเพื่อช่วยเหลือผู้กระทําความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และมาตรา 200
นอกจากนี้นายสยามราชได้ขอพนักงานสืบสวนสอบสวนดีเอสไอสอบสวนเป็นการเร่งด่วนว่า ผู้บริหาร บริษัท PTTOR และหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทําความผิด บุคคลใดที่เข้าแทรกแซงการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอหรือใครสั่งการให้เจ้าหน้าที่ในบริษัทไม่ให้ความร่วมมือเป็นพยาน ตลอดจนการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นพยานบุคคล และเป็นพยานสําคัญในคดีให้พ้นจากตําแหน่งหน้าที่
หากปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีการแทรกแซงดังกล่าวขึ้นจริง นายสยามราชได้ขอดำเนินการ ดังนี้
1. มีคําสั่งตามอํานาจหน้าที่ห้ามมิให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทําความผิดและเข้าไปเกี่ยวข้องและ/หรือ ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และ/หรือให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวเพื่อรอผลการสอบสวนเสร็จสิ้น
2. มีคําสั่งตามอํานาจหน้าที่เรียกพยานบุคคลที่สําคัญมาให้การพร้อมเอกสารสําคัญแห่งคดีโดยด่วน
3. มีคําสั่งตามาอํานาจหน้าที่เพื่อระงับยังยั้งการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และเป็นพยานบุคคลที่สําคัญ โดยไม่เป็นธรรมนั้นเสีย อันเป็นหลักการคุ้มครองพยานในคดี
อนึ่ง หากไม่ดําเนินการอาจเข้าข่ายในการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือผู้กระทําความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และมาตรา 200